เยอรมัน ซึ่งเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน พ่าย อาร์เจนตินา คาบ้าน 1-3 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ซามี เคดิรา , ลิโอเนล เมสซี และ อังเคล ดิ มาเรีย ก่อนที่ เจ้าถิ่น จะตีไข่แตกจาก เบเนดิคต์ โฮเวอร์เดส ขณะที่ อังกฤษ เอาชนะ อิตาลี 2-1 ศึกฟุตบอล นัดกระชับมิตร เมื่อคืนวันพุธที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทย
โจอาคิม เลิฟ กุนซือของ เยอรมัน ให้โอกาสนักเตะสำรองอย่าง รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , ลาร์ส เบนเดอร์ และ มาร์โก รอยส์ ลงสนามเป็นตัวจริง ขณะที่ อาร์เจนตินา ขนผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ นำโดย ลิโอเนล เมสซี , กอนซาโล ฮิกวาอิน และ อังเคล ดิ มาเรีย ประสานงานในแนวรุก
เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 29 นาที เยอรมัน เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ ทำฟาวล์ โฆเซ โซซา เขตโทษ และถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทว่า ลิโอเนล เมสซี กลับยิงไปติดเซฟของ มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเกน นายทวารสำรอง ซึ่งลงมาแทน โธมัส มุลเลอร์ พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลังเป็นฝ่ายได้เปรียบตัวผู้เล่น อาร์เจนตินา พยายามเปิดเกมรุกอย่างหนัก และได้ประตูในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก จากลูกเตะมุมซึ่งเปิดมาโดย อังเคล ดิมาเรีย ทางเสาแรก บอลไปโดนเข่าของ ซามี เคดิรา เข้าประตูตัวเอง จบครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 1-0
เริ่มครึ่งหลังเพียงแค่ 7 นาที "ฟ้าขาว" ขึ้นนำ 2-0 เมื่อ เซอร์คิโอ อเกวโร ผ่านบอลทะลุช่องให้ กอนซาโล ฮิกวาอิน จ่ายต่อให้ ลิโอเนล เมสซี กดลูกเรียด บริเวณกรอบเขตโทษ ผ่านมือ แตร์ สเตเกน ตุงตาข่าย ลูกทีมของ อาเลฮันโดร ซาเบลลา ยังไม่เพลาเกม และมาได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 73 จากการยิงไกลของระยะ 30 หลาของ อังเคล ดิ มาเรีย อย่างไรก็ตาม รองแชมป์ยูโร 2008 มาได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ มาริโอ เกิตเซ หลุดไปทางริมเส้นขวา ก่อนจะเปิดให้ เบเนดิคต์ โฮเวอร์เดส โหม่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย จากนั้นทั้งคู่พยายามเปิดเกมรุกแลกกัน แต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม แชมป์โลก 2 สมัย บุกมาเก็บชัยชนะ 3-1
สำหรับ บิ๊กแมตช์ อีกคู่หนึ่งเป็นการพบกันระหว่าง อังกฤษ กับ อิตาลี ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผลปรากฏว่า "สิงโตคำราม" เอาชนะไปได้ 2-1 โดย "อัซซูรี" ออกนำก่อนในนาทีที่ 15 เมื่อ อเลสซานโดร เดียมานติ เปิดฟรีคิกมาหน้าประตู และเป็น ดานิเอลเล เด รอสซี ที่โหม่งตัดหน้า ไมเคิล คาร์ริค บอลเช็ดคานเข้าไป ทว่า "เดอะ ทรี ไลออนส์" กลับทวงคืน 2 ประตู จากการพุ่งโขกสุดสวยของ ฟิล จากิลกา ในนาทีที่ 28 และก่อนหมดเวลา 10 นาที เจอร์เมน เดโฟ ยิงไกลระยะ 20 หลา บอลเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม
รายชื่อ 11 ผู้เล่น เยอรมัน : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ , เฌอโรม บัวเต็ง , มัทส์ ฮุมเมิลส์ , โฮลเกอร์ บาดส์ตูเบอร์ , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , เมซุต โอซิล , ซามี เคดิรา , ลาร์ส เบนเดอร์ , มิโรสลาฟ โคลเซ , โธมัส มุลเลอร์ , มาร์โก รอยส์
รายชื่อ 11 ผู้เล่น อาร์เจนตินา : เซอร์คิโอ โรเมโร , ปาโบล ซาบาเลตา , เอเซเคล การาย , เฟเดริโก เฟอร์นานเดซ , มาร์คอส โรโฆ , ฮาเวียร์ มาสเคราโน , เฟอร์นานโด กาโก , โฮเซ โซซา , อังเคล ดิ มาเรีย , ลิโอเนล เมสซี , กอนซาโล ฮิกวาอิน
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ
ญี่ปุ่น เสมอ เวเนซูเอลา 1-1
เกาหลีใต้ ชนะ แซมเบีย 2-1
รัสเซีย เสมอ ไอเวอรี โตสต์ 1-1
สวีเดน แพ้ บราซิล 0-3
เบลเยียม ชนะ เนเธอร์แลนด์ส 4-2
เยอรมัน แพ้ อาร์เจนตินา 1-3
อังกฤษ ชนะ อิตาลี 2-1
ฝรั่งเศส เสมอ อุรุกวัย 0-0
เปอร์โต ริโก แพ้ สเปน 1-2
โจอาคิม เลิฟ กุนซือของ เยอรมัน ให้โอกาสนักเตะสำรองอย่าง รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , ลาร์ส เบนเดอร์ และ มาร์โก รอยส์ ลงสนามเป็นตัวจริง ขณะที่ อาร์เจนตินา ขนผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ นำโดย ลิโอเนล เมสซี , กอนซาโล ฮิกวาอิน และ อังเคล ดิ มาเรีย ประสานงานในแนวรุก
เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 29 นาที เยอรมัน เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ ทำฟาวล์ โฆเซ โซซา เขตโทษ และถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทว่า ลิโอเนล เมสซี กลับยิงไปติดเซฟของ มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเกน นายทวารสำรอง ซึ่งลงมาแทน โธมัส มุลเลอร์ พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลังเป็นฝ่ายได้เปรียบตัวผู้เล่น อาร์เจนตินา พยายามเปิดเกมรุกอย่างหนัก และได้ประตูในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก จากลูกเตะมุมซึ่งเปิดมาโดย อังเคล ดิมาเรีย ทางเสาแรก บอลไปโดนเข่าของ ซามี เคดิรา เข้าประตูตัวเอง จบครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 1-0
เริ่มครึ่งหลังเพียงแค่ 7 นาที "ฟ้าขาว" ขึ้นนำ 2-0 เมื่อ เซอร์คิโอ อเกวโร ผ่านบอลทะลุช่องให้ กอนซาโล ฮิกวาอิน จ่ายต่อให้ ลิโอเนล เมสซี กดลูกเรียด บริเวณกรอบเขตโทษ ผ่านมือ แตร์ สเตเกน ตุงตาข่าย ลูกทีมของ อาเลฮันโดร ซาเบลลา ยังไม่เพลาเกม และมาได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 73 จากการยิงไกลของระยะ 30 หลาของ อังเคล ดิ มาเรีย อย่างไรก็ตาม รองแชมป์ยูโร 2008 มาได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ มาริโอ เกิตเซ หลุดไปทางริมเส้นขวา ก่อนจะเปิดให้ เบเนดิคต์ โฮเวอร์เดส โหม่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย จากนั้นทั้งคู่พยายามเปิดเกมรุกแลกกัน แต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม แชมป์โลก 2 สมัย บุกมาเก็บชัยชนะ 3-1
สำหรับ บิ๊กแมตช์ อีกคู่หนึ่งเป็นการพบกันระหว่าง อังกฤษ กับ อิตาลี ที่กรุงเบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผลปรากฏว่า "สิงโตคำราม" เอาชนะไปได้ 2-1 โดย "อัซซูรี" ออกนำก่อนในนาทีที่ 15 เมื่อ อเลสซานโดร เดียมานติ เปิดฟรีคิกมาหน้าประตู และเป็น ดานิเอลเล เด รอสซี ที่โหม่งตัดหน้า ไมเคิล คาร์ริค บอลเช็ดคานเข้าไป ทว่า "เดอะ ทรี ไลออนส์" กลับทวงคืน 2 ประตู จากการพุ่งโขกสุดสวยของ ฟิล จากิลกา ในนาทีที่ 28 และก่อนหมดเวลา 10 นาที เจอร์เมน เดโฟ ยิงไกลระยะ 20 หลา บอลเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม
รายชื่อ 11 ผู้เล่น เยอรมัน : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ , เฌอโรม บัวเต็ง , มัทส์ ฮุมเมิลส์ , โฮลเกอร์ บาดส์ตูเบอร์ , มาร์เซล ชเมลเซอร์ , เมซุต โอซิล , ซามี เคดิรา , ลาร์ส เบนเดอร์ , มิโรสลาฟ โคลเซ , โธมัส มุลเลอร์ , มาร์โก รอยส์
รายชื่อ 11 ผู้เล่น อาร์เจนตินา : เซอร์คิโอ โรเมโร , ปาโบล ซาบาเลตา , เอเซเคล การาย , เฟเดริโก เฟอร์นานเดซ , มาร์คอส โรโฆ , ฮาเวียร์ มาสเคราโน , เฟอร์นานโด กาโก , โฮเซ โซซา , อังเคล ดิ มาเรีย , ลิโอเนล เมสซี , กอนซาโล ฮิกวาอิน
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ
ญี่ปุ่น เสมอ เวเนซูเอลา 1-1
เกาหลีใต้ ชนะ แซมเบีย 2-1
รัสเซีย เสมอ ไอเวอรี โตสต์ 1-1
สวีเดน แพ้ บราซิล 0-3
เบลเยียม ชนะ เนเธอร์แลนด์ส 4-2
เยอรมัน แพ้ อาร์เจนตินา 1-3
อังกฤษ ชนะ อิตาลี 2-1
ฝรั่งเศส เสมอ อุรุกวัย 0-0
เปอร์โต ริโก แพ้ สเปน 1-2