xs
xsm
sm
md
lg

“โด้” สุดทางแล้ว! ยากหักเขา “กระทิง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โด้ ลุ้นเข้าชิงเป็นหนที่ 2
ASTVผู้จัดการรายวัน- ถือว่าเซอร์ไพรส์ไม่น้อยสำหรับ โปรตุเกส ที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2012 ภายใต้การนำทัพของ คริสเตียโน โรนัลโด อย่างไรก็ตาม น่าจะเป็นสถานีสุดท้ายแล้ว เพราะว่าต้องเจอกับด่านหินอย่าง “แชมป์เก่า” สเปน ในวันพุธที่ 27 มิถุนายน นี้ เวลา 01:45 น.ณ ดอนบาสส์ อารีนา ใน โดเนทส์ค ประเทศยูเครน

สำหรับ 2 คู่รอบรองชนะเลิศ เป็น 4 ทีมที่มาจากกลุ่ม บี และ ซี โดยเฉพาะ โปรตุเกส เป็นชาติเดียวที่แพ้นัดแรก แต่สามารถกรุยทางมาได้ไกลขนาดนี้ อีกทั้งยังต้องฝ่าด่านอรหันต์ “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ด้วย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะฟอร์มร้อนแรงของ โรนัลโด แข้งค่าตัวแพงที่สุดในโลก ซึ่งโหม่งประตูชัยเฉือน สาธารณรัฐเช็ก 1-0 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้ซัดไปแล้ว 3 ประตูนำร่วมมีลุ้นที่จะคว้าดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ หากผ่าน สเปน ไปได้ ก็จะเป็นการเข้าชิงครั้งที่ 2 ต่อจากปี 2004 ที่เป็นเจ้าภาพ โดยแข้งวัย 27 ปี คือ คนเดียวที่เหลือรอดจากการได้ลงเล่นเกมแพ้ กรีซ 0-1

โรนัลโด ได้รับการจับตามองมากเป็นพิเศษ เพราะเล่นอยู่ใน ลา ลีกา สเปน และจะได้ปะทะกับเพื่อนร่วมชายคา รีล มาดริด ทั้ง อีเคร์ คาซิยาส เซร์คิโอ รามอส อัลบาโร อาร์เบลัว และ ชาบี อลอนโซ ซึ่งก่อนเกมออกมาเผยว่า “ผมไม่รู้สึกกดดันกับการเจอ สเปน เพราะว่าเกมฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว ถือเป็นความรับผิดชอบมากกว่า แต่กดดันคงไม่ เยี่ยมมากถ้าหากพา โปรตุเกส ผ่านเข้าสู่รอบชิงอีกครั้ง แม้เป็นเรื่องยาก แต่เหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้น เราทำงานกันอย่างหนักไม่ใช่แค่รอบสุดท้ายเท่านั้น แต่ตั้งแต่ช่วงคัดเลือกแล้ว”

เปาโล เบนโต กุนซือ โปรตุเกส ไม่ต้องกลุ้มไร้แข้งติดโทษแบน แต่คงมีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ตำแหน่งเดียว คือ เฮลเดอร์ ปอสติกา กองหน้าที่ซัดไป 1 ประตู เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้ใครระหว่าง ฮูโก อัลเมดา ซิลแวสตร์ วาเรลา และ เนลสัน โอลิเวียรา โดยเป็นหอกจาก เบซิคตัส ที่ได้รับโอกาสเปลี่ยนลงมาเล่นเกมเอาชนะ เช็ก

ฟาก สเปน แชมป์ ยูโร ปี 1964 กำลังลุ้นเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์ 3 รายการติดต่อกัน ทำให้ บิเซนเต เดล บอสเก กุนซือขรัวเฒ่าเน้นเป็นพิเศษ ไม่ส่งกองหน้าโดยใช้บริการกองกลางถึง 6 คน ซึ่งก็สมศักดิ์ศรี “แชมป์เก่า” และยอดทีมเบอร์ 1 ของโลกเมื่อเข้าถึงรอบนี้เสียเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น แค้ด้วยเหตุนี้เองทำให้ “กระทิงดุ” โดนวิพากษ์วิจารณ์มากเป็นพิเศษ ว่า สไตล์การเล่นน่าเบื่อ โดยดูจากสถิติต่อบอลมากจังหวะที่สุดถึง 3,211 ครั้งพาสคอมพลีทคิดเป็น 2,616 ครั้ง

ร้อนถึง ชาบี ที่ฉลองติดธง 100 นัด ด้วยการซัด 2 ประตู เกมเอาชนะ ฝรั่งเศส 2-0 รอบ 8 ทีมสุดท้ายต้องออกมาตอบโต้ ว่า “ถือเป็นมุมมองของคนอื่น รวมถึงอีกหลายเหตุผลที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็ตามผมคิดว่าเราจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ ซึ่งผมมั่นใจว่าแฟนๆ มีความสุขกับทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด และคิดว่าไม่ใช่แค่ตอนนี้แต่หมายรวมถึงทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไปด้วย”

เดล บอสเก ให้โอกาส ตอร์เรส สตาร์ทตัวจริงเกมรอบแบ่งกลุ่มถล่ม สาธารณรัฐไอร์แลนด์ 4-0 และเฉือน โครเอเชีย 1-0 จากนั้นล่าสุด ก็ให้ เชส กลับมาเล่นเกมชนะ ฝรั่งเศส 2-0 นัดเจอกับ โปรตุเกส ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น โดยไม่มีนักเตะติดโทษแบน แต่อีกหนึ่งไฮไลต์ ก็คือ คาซิยาส มือกาวกัปตันทีม “กระทิงดุ” มีลุ้นทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกที่พาทีมชนะ 100 นัดในเกมระดับชาติด้วย

ทั้งคู่เจอกันมาทั้งหมด 34 ครั้ง สเปน ชนะ 16 ครั้ง โปรตุเกส ชนะ 12 ครั้ง หนล่าสุดที่เจอกันในศึก ยูโร เป็นปี 2004 ทัพ “ฝอยทอง” เฉือน 1-0 นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มพร้อมกับเขี่ยตกรอบแรกไป ส่วน “กระทิงดุ” เอาคืนด้วยการเขี่ยร่วงรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลโลก 2010

ความน่าจะเป็นของเกม- ด้วยการที่ สเปน ใช้มิดฟิลด์ 6 คน ทำให้ครองบอลเหนียวแน่น ยามตั้งรับก็จะถอยลงมาช่วยกันตามธรรมชาติจนปิดพื้นที่ได้หมด ส่วน โปรตุเกส มีเพียง โรนัลโด และ หลุยส์ นานี ที่คงจะถูกเข้าประกบที 2-3 คนอาจจะมีวูบวาบบ้างแต่สุดท้ายพอเลื้อยไม่ออกก็จะหมดไอเดียทำบอลเสียไปเอง ดูแล้ว “กระทิงดุ” มาเขี้ยวเหลือเกินน่าจะเฉือนชัยไปได้ 1-0
โปรตุเกส ถือเป็นม้ามืดครั้งนี้
ชาบี ยันสเปนเล่นสไตล์เดิม
เชส จะยืนเป็นหน้าเป้าต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น