ASTVผู้จัดการรายวัน-หยุดพักฤดูกาลแข่งขันกันมาร่วม 5 เดือน สุดสัปดาห์นี้ถึงเวลาที่ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกจะกลับมาดวลความเร็วกันอีกครั้ง โดยจะประเดิมฤดูกาล 2012 ที่โลไซอัล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ซึ่งประเด็นที่แฟนความไทยต้องจับตามองในปีนี้คงหนีไม่พ้นการย้ายร่วมทีมเกรซินี ทีมบิดดังจากอิตาลีของรัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ว่าจะสามารถยกระดับผลงานขึ้นไปติดกลุ่มหัวแถวในรุ่นโมโตทูได้หรือไม่
หลังจบฤดูกาล 2011 แฟนความเร็วชาวไทยต้องลุ้นกันเฮือกใหญ่กับอนาคตของ "เจ้าฟีม" บนเวทีเวิลด์ จีพี หลังผลงานภายใต้สังกัดสต็อป แอนด์ โกในปีที่ผ่านมาได้อย่างย่ำแย่ เก็บได้เพียง 4 แต้ม รั้งอันดับ 30 ในตารางแชมเปียนชิปรุ่นโมโตทู อย่างไรก็ดีจากฟอร์มที่เคยสร้างความประทับใจครั้งลงแข่งุร่น 250 ซีซี ในช่วงปี 2008 และ 2009 ทำให้ฟาอุสโต เกรซินี ทีมบอสเกรซินี เรซซิง ตัดสินใจดึงตัวไปร่วมทีมภายใต้สัญญา 1 ปี
การย้ายทีมในครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายคาดกันว่า ผลงานของนักบิดวัย 23 ปี จาก จ.ชลบุรี น่าจะดีขึ้นในชั่วข้ามคืน เนื่องจากมาตรฐานของเกรซินี เรซซิง ถือเป็นทีมบิดชั้นนำของวงการที่เคยพัฒนารถให้กับโทนี เอเลียส นักบิดสแปนิช คว้าแชมป์โลกรุ่นโมโตทูมาแล้วในปี 2010 ขณะเดียวกันก็ยังส่งทีมเข้าแข่งขันในทุกรุ่นของศึกเวิลด์จีพีฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ดีจากผลการทดสอบรถรุ่นโมโตทูครั้งล่าสุด ที่สนามเฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่านักบิดหนึ่งเดียวของไทยยังมีงานหนักรออยู่ก่อนออกสตาร์ทศึกกาตาร์ กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 8 เมษายนนี้ โดยเฉพาะเรื่องของเฟรมรถคันใหม่ที่เจ้าตัวยอมรับว่ายังมีอาการสไลด์ทั้งในช่วงเข้าและออกโค้ง
โดยฟีมเผยผ่าน MGR SPORT ถึงการเตรียมพร้อมภายใต้เฟรมรถโมริวากิของทีมเกรซินีว่า "จากผลการเทสต์ครั้งล่าสุด เรายังยังมีปัญหาอยู่เล็กน้อยในส่วนของเฟรม ที่ปีนี้ในทีมเกรซินีเองก็มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ปัญหาตอนนี้คือมีทั้งช่วงเข้าและออกโค้ง ที่ยังมีอาการสไลด์ตอนเข้าทำให้เลี้ยวช้า ส่วนตอนออกโค้งมีอาการสไลด์ค่อนเยอะพอสมควร ซึ่งตรงนี้ทางโมริวากิทราบดีและรับปากว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ก่อนการแข่งขันที่กาตาร์"
ด้านฟาอุสโต เกรซินี ทีมบอสร่างเล็กชาวอิตาเลียน ที่แม้จะยืนยันว่าทีมของของตนเองมีดีพอที่จะพัฒนารถให้นักบิดของไทยขยับไปติดกลุ่มแถวหน้าในแต่ละสนามได้ แต่เจ้าตัวก็ยอมรับถึงปัญหาในตัวเฟรมโมริวากิเวอร์ชันปี 2012 เช่นกันว่า “จากเวลาที่เรายังห่างจากนักบิดกลุ่มหน้าพอสมควร แสดงให้เห็นว่าเฟรมใหม่ก็ถือว่ายังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุง แต่ผมก็ยังมองโลกในแง่ดีว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อสนามแรกมาถึง"
ขณะที่เมื่อพูดถึงเป้าหมายในการออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ในสุดสัปดาห์นี้ เจ้าฟีมเผยว่า "แม้เวลาจะยังไม่น่าพอใจ แต่พวกเราทำงานกันอย่างหนักในช่วงการเทสต์ที่เฆเรซ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสนามแรก ซึ่งในปีนี้ผมมีความพร้อมมากกว่าปีที่แล้วมาก เรามีข้อมูลค่อนข้างมาก เป้าหมายสนามแรกตั้งเป้าอยู่ในกลุ่มหน้าให้ได้ รวมถึงลดช่องว่างให้ได้มากที่สุด"
นอกจากนี้เมื่อถามถึงความกัดดันในการบิดเวิลด์จีพีแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ที่ต้องลงแข่งภายใต้ความคาดหวังที่มากขึ้น เจ้าฟีมให้สัมภาษณ์อย่างมุ่งมั่นว่า "เป็นธรรมดากับความกดดัน แต่ในปีนี้ผมค่อนข้างมั่นใจในทีม ทุกคนอยากไปอยู่ที่ชัยชนะ ผมเองจะใช้ความกดดันเป็นแรงผลักดันให้พุ่งไปข้างหน้า ผมอยู่ตรงนี้มาหลายปี อยากทำให้ได้อย่างที่ตัวเองและทุกคนตั้งความหวังเอาไว้เสียที"
หากดูจากรายชื่อนักบิดในรุ่นโมโตทูประจำฤดูกาลนี้ ที่มีนักบิดระดับแชมป์โลกถึง 6 คนลงประจำการบนกริดสตาร์ท ต้องบอกว่าแม้จะ "ฟีม" จะได้ย้ายมาร่วมชายคาบิ๊กทีมอย่างเกรซินี ทว่าหากยังไม่สามารถยกระดับงานของตัวเองให้เข้าเป้าด้วยการติดกลุ่มท็อป 10 ได้เมื่อจบฤดูกาล บางทีนี่อาจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการล่าฝันในเวิลด์ จีพี ของเจ้าตัวก็เป็นได้