ASTVผู้จัดการรายวัน - แม้ว่าความพ่ายแพ้ต่อ อักเนียกสกา รัดวานสกา จะทำให้มาเรีย ชาราโปว่า กลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ต้องชวดแชมป์เป็นครั้งที่สี่บนสนามคีย์ บิสคานกับรายการ โซนี่ อิริคสันโอเพ่น ทว่า "คัฟเวอร์เกิร์ล" แห่งวงการเทนนิสให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจบการแข่งขันด้วยความมุ่งมั่นว่า "เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้อีกครั้งฉันมีเวลาให้ทำใจ 30 นาทีแล้วก้าวเดินต่อไปเพราะทัวร์นาเมนท์ต่อจากนี้คือช่วงเวลาของเคลย์คอร์ต" นอกจากนี้ผลการแข่งขันที่ไมอามี่ ยังเปรียบเสมือนการส่งสัญญานอย่างชัดเจนว่า วงการเทนนิสหญิงกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ "พาวเวอร์เกิร์ล" อันหมายถึงการฟาดฟันกันเพื่อตำแหน่งมือหนึ่งโลกในท้อปแรงกิ้ง หลังจากบรรดาดาวดังในอดีตมีอันต้องตกรอบไปก่อนเวลาอันควร
การแข่งขันโซนี่ อิริคสัน โอเพ่นรอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยวเมื่อวันเสาร์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) อักเนียกสกา รัดวานสกา นักเทนนิสสาวจากโปแลนด์ ลงสนามพบกับ มาเรีย ชาราโปว่า เจ้าของตำแหน่งรองแชมป์รายการนี้ในปี 2005,2006 และ 2011ซึ่งสถิติการพบกันของทั้งคู่ 9 ครั้งมาเรีย เป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้ถึง 7 ครั้ง แต่สถิติดังกล่าวต้องเปลี่ยนไปเมื่ออดีตนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งโลกทำอันฟอร์ซ เออเรอร์ถึง 45 ครั้งแถมเบรกเกมเสิร์ฟ รัดวานสกา ไม่ได้เลยส่งผลให้ เธอต้องกลายเป็นรองแชมป์สมัยที่ 4 และทำให้ รัดวานสกา นั้นคว้าแชมป์ดับเบิลยูทีเอเป็นรายการที่สองของฤดูกาล 2012 พร้อมอยู่ในตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลข 4 ของโลกซึ่งเป็นอันดับสูงสุดที่นักเทนนิสสาวจากโปแลนด์ รายนี้เคยทำได้
โดยผลการแข่งขันบนสนามที่คีย์ บิสคานนั้นนอกจากจะได้เห็น "สาวโปล" ก้าวมาคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยแรกแล้ว ผลงานของบรรดานักเทนนิสหญิงที่เคยเป็นดาวดังของวงการในทัวร์นาเมนท์นี้เรียกได้ว่าร่วงกันกราวรูด ชัดเจนที่สุดคือความพ่ายแพ้ของสองพี่น้องวิลเลี่ยมส์ เซเรน่า และ วีนัส โดยในรายแรกนั้นร่วงด้วยฝีมือ วอซเนียกกี้ ส่วนรายหลังดับเพราะ ขณะที่มือหนึ่งจากเบรารุส อย่าง วิคตอเรีย อาซาเรนก้า แม้จะพ่ายให้กับ มาริยง บาร์โตลี่ ในรอบก่อนรองชนะเลิศแต่ผลงานของเธอตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่คว้าสแลมออสซี่ พร้อมขึ้นเป็นนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งโลกที่ทิ้งระยะห่างจากมือสองชนิดที่ยากจะไล่ตามได้ทันทำให้จอมหวดสาวเจ้าของความสูง 183 เซนติเมตรจากเบลารุส ยังคงครองบัลลังก์ต่อไป
ส่วนมาเรีย ชาราโปว่า ในวัย 24 ปีที่กลับคืนสู่สนามการแข่งขันได้อีกครั้งหลังฟื้นจากการอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าในช่วงต้นฤดูกาล 2012 หากผลงานที่เธอเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในออสเตรเลียน โอเพ่น ได้เป็นสมัยที่ 3 รวมทั้งเข้ารอบชิงในสองรายการใหญ่ที่ อินเดียน เวลล์ส และ ไมอามี่นับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า "นางฟ้า" แห่งวงการลูกสักหลาดกำลังกลับมาคืนฟอร์มเก่งของตนเอง ซึ่งตรงกับที่เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์หลังต้องครองตำแหน่งรองแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ว่า "ฉันรู้สึกว่าสภาพร่างกายและจิตใจในเวลานี้พร้อมอย่างเต็มที่ในการลงสู่สนามแข่ง ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องปกติสำหรับนักกีฬาอาชีพที่ต้องพบเจอกันทุกคนสำหรับฉันแล้วมองว่าเรามีเวลาเสียใจกับผลงานแค่ 30 นาทีหลังจากนั้นต้องก้าวต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งทัวร์นาเมนท์ต่อจากนี้ที่จะเริ่มต้นการแข่งขันบนคอร์ตดิน ก่อนจะถึงเฟรนช์โอเพ่นซึ่งฉันเองตั้งเป้าว่าจะทำให้ดีที่สุดเช่นกัน"
ซึ่งทั้งหมดนี้คือผลงาน และ ความสดของนักเทนนิสหญิงระดับท้อป 5 ของโลกจากสนาม โซนี่ อิริคสัน โอเพ่น อันเปรียบเสมือนเป็นการส่งสัญญานให้แฟนเทนนิสเตรียมพบกับยุคของ "พาวเวอร์เกิร์ล" ที่หมายถึงการชิงชัยครั้งใหม่อันจะทำให้วงการเทนนิสหญิงโลกกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้หลังจบการแข่งขันที่ไมอามี่ ตารางการแข่งขันจะเข้าสู่ช่วงของเคลย์คอร์ต ทันทีซึ่งเป็นการส่งสัญญานว่า แกรนด์สแลมที่สองของปีเฟรนช์ โอเพ่น ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนั้นใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว และ บนสนามเคลย์คอร์ต น่าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งสำหรับอันดับในดับเบิลยูทีเอ แรงกิ้งทั้งนี้คงต้องมาวัดกันว่าบรรดา "พาวเวอร์เกิร์ล" ทั้ง 5 รายนั้นใครจะสร้างผลงานได้ดีไปกว่ากัน
