xs
xsm
sm
md
lg

FIFA Puskas Award / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

พิธีมอบรางวัล ฟีฟ่า บัลลง ดอร์ ( FIFA Ballon d’ or ) สำหรับผลงานในรอบปี 2011 กำลังจะมีขึ้นในต้นปีหน้านี้นับเป็นครั้งที่ 56 แล้ว สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 1956 ที่นิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ของ ฝรั่งเศส ได้จัดพิธีมอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม โดยมีการพัฒนา ปรับรูปแบบมาเป็นระยะ ในขณะที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เองก็เริ่มจัดสดุดีนักเตะบ้างตั้งแต่ปี 1991 แล้วในที่สุด 2 สถาบันดังกล่าวก็ตัดสินใจตกลงยุบรวมกันเป็น 1 เดียวในปี 2010 อย่างไรก็ตาม รางวัลที่จัดมอบในวาระเดียวกันยังมีอีกหลายหลาก โดยเฉพาะรางวัลสุดยอดการทำประตูที่เรียกว่า ฟีฟ่า ปุสกัส อะหวอร์ด ( FIFA Puskas Award )

เฟเร้นซ์ ปุสกัส ( Ferenc Puskas ) เป็นอดีตกองหน้ากัปตันทีมชาติ ฮังการี ยุคปี 50 ที่ลี้ภัยหลังเหตุการณ์ปฏิวัติในประเทศไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในประเทศสเปน จนได้สัญชาติสเปนและลงเล่นในนามทีมชาติสเปนด้วย

ตำแหน่งถนัดของยอดนักเตะคนนี้คือ ยืนเป็นกองหน้าด้านในทางซ้าย ที่ไม่ใช่ปีกและก็ไม่ได้ยืนเป็นหัวหอก อันนี้เป็นส่วนประกอบของรูปแบบการเล่นในสมัยก่อนที่เรียกว่า ในซ้าย ( Inside Left ) จะอย่างไรก็ตาม ผมอยากเรียนท่านผู้อ่านว่า รูปแบบการเล่นของทีมชาติฮังการีสมัยนั้น นักเตะทุกคนเล่นทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง อันถือเป็นต้นฉบับของแท้ที่ภายหลัง ไรนุส มีเชลส์ ( Rinus Michels ) นำมาปรับใช้กับ สโมสร อัยยักซ์ อัมสเตอร์ดาม ( Ajax Amsterdam ) และ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส ในชื่อ โทเทิ่ล ฟุตบอล ( Total Football ) ในอีก 20 ปีต่อมา

ปุสกัส เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ทีมชาติฮังการี อยู่แถวหน้าของโลก ชุดนั้นได้รับฉายามากมายไม่ว่าจะเป็น จอมพลัง มั้กย่าร์ส ( Mighty Magyars ) มั้กย่าร์ส กายสิทธิ์( Magical Magyars ) หรือ ทีมทอง ( Golden Team ) ฯลฯ เขาทำ 84 ประตูจาก 85 นัด ส่วนการเล่นให้กับสโมสรทั้งใน ฮังการี และ สเปน รวม 529 นัด หมอนี่ซัดไป 514 ประตู ถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดของศตวรรษที่ 20

โชเซ็ฟ บลั๊ทเท่อร์ ( Joseph Blatter ) ประธาน ฟีฟ่า บอกว่า ต้องให้ความสำคัญต่อการบันทึกความทรงจำของนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้เอาไว้ เนื่องจากพวกเขาเป็นส่วนสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล ซึ่ง เฟเร้นซ์ ปุสกัส ไม่ใช่เพียงแค่นักเตะมากความสามารถที่กวาดมาหลายรางวัล แต่เขายังเป็นสุดยอดนักเตะที่น่าทึ่งทีเดียว ดังนั้น ฟีฟ่า จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะจัดรางวัลดังกล่าวโดยให้ชื่อเป็นเกียรติแก่ตำนานนักเตะคนนี้

สำหรับรางวัลการทำประตูยอดเยี่ยมแห่งปีนั้น ก็ไม่ได้พิจารณาชุ่ยๆ เอาเพียงแค่ฉ็อทสวยงามเท่านั้น แต่เขามีหลักเกณฑ์หลายประการครับ โดยแน่นอนว่าต้องเป็นการทำประตูอย่างสวยงามไม่ใช่ธรรมดาพื้นๆ เช่น เป็นประตูที่เกิดจากการซัดไกล หรือตีลังกากลับหลัง อาจเกิดจากการลุยเดี่ยว เลี้ยงหลบ กระชาก ลากเลื้อยผ่านแนวรับมาหลายคน หรือเกิดจากการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมของผู้เล่นหลายคน เรียกว่า ทีมโกลส์ ( Team Goals ) ก็ได้

ประการต่อมา การแข่งขันเกมนั้นก็ต้องมีความสำคัญด้วย ยิ่งถ้าเป็นเกมระดับสูงยิ่งดี ไม่ใช่เป็นฟุตบอล อบต. คือถ้าเป็นทีมชาติ อย่างน้อยก็ต้องเป็นการเล่นในทีมชาติชุดใหญ่ การแข่งขันชิงแชมป์แห่งทวีป หรือถ้าเล่นระดับสโมสรก็ต้องอย่างน้อยเป็นแม็ทช์ในลีกสูงสุดของประเทศ พวกดิวิเชิ่นต่ำกว่านั้นไม่เอาครับ

นอกจากนั้น ประตูที่เกิดขึ้นต้องมาจากความสามารถล้วนๆ ไม่มีโชคช่วย ไม่ได้ไปแฉลบ ไปกระดอนเพื่อนร่วมทีม หรือไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของกองหลังทีมคู่แข่ง และที่สำคัญนักเตะผู้ทำประตูก็ต้องเป็นนักเตะที่มีความประพฤติในเกมดีด้วย ไม่ใช่เกเร ไล่เตะเพื่อนตลอดเกม หรือตรวจโด๊พไม่ผ่าน อันนี้เป็นการสนับสนุนหลักการ ฟีฟ่า แฟร์ เพลย์ ครับ

รางวัลการทำประตูยอดเยี่ยม ฟีฟ่า ปุสกัส อะหวอร์ด เริ่มมอบกันครั้งแรกในปี 2009 ซึ่ง คริชติอาโน โรเนาโด ตอนที่ยังอยู่กับ แมนเชสเต้อร์ ยูนายถิด ได้รับเป็นคนแรก ปีต่อมาเป็น ฮามิท อัลทินท็อพ ( Hamit Altıntop ) มิดฟีลด์ทีมชาติตุรกี สำหรับปี 2011 นี้ ขณะนี้เหลือเข้ารอบสุดท้าย 3 คนคือ ลิโอเนล เมสซี ของ บารเซโลนา เนย์มาร์ ( Neymar ) กองหน้าดาวรุ่งชาวบราซิวแห่งทีม ซานโต๊ช และ เวย์น รูนี่ย์ ศูนย์หน้าของ แมนเชสเต้อร์ ยูนายถิด ใครจะได้นั้นทราบผลวันที่ 9 มกราคม 2012 ในงานประกาศรางวัล ฟีฟ่า บัลลง ดอร์ ที่ ซูริค ประเทศสวิส ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น