ปลาทูชี้ไม่ชนะเสียหาย-ศรีราชายังสู้แม้งานหิน

วรวรรณ ชิตะวณิช นายใหญ่เอสซีจี สมุทรสงคราม เสียดายที่เก็บชัยชนะไม่ได้ ชี้เสียหายที่ทำ 2 แต้มหลุดมือ พร้อมทั้งตั้งเป้าเก็บอีก 12 แต้มเพื่อรับประกันอยู่รอดบนเวทีไทยพรีเมียร์ลีก ด้าน ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือศรีราชา ซูซูกิ ยอมรับว่าจากนี้ไปการดิ้นรนหนีตกชั้นจะหนักขึ้นเพราะต้องเจอทีมใหญ่ๆ แต่ยืนยันว่าพร้อมสู้ยิบตา

ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 นัดตกค้างเมื่อช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา “ปลาทูคะนอง” เปิดบ้านทำศึกหนีตายกับ “บลูมาร์ลิน” ท่ามกลางสภาพสนามที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำก่อนเสมอกันไป 1-1 โดยที่รูปเกมเป็นไปอย่างดุเดือด ทำให้ทัพลูกหนังเมืองแม่กลองมี 25 คะแนนจาก 25 นัด รั้งอันดับ 14 ตามเดิม ส่วนทีมดังจากภาคตะวันออกมี 22 คะแนน ขึ้นมาอยู่ที่ 16

หลังจบเกม “โค้ชป้ำ” วรวรรณ ชิตะวณิช พูดถึงสถานการณ์ของเอสซีจี สมุทรสงคราม ว่า “เราไม่ชนะเกมนี้ถือว่าเสียหายมาก แม้จะได้ 1 คะแนนแต่ความจริงผมต้องการ 3 แต้ม ซึ่งสภาพสนามที่เฉอะแฉะก็มีส่วนทำให้เล่นลำบากด้วยกันทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้น จังหวะเสียจุดโทษก็ยอมรับว่ากองหลังเข้าสกัดโดยไม่ระมัดระวัง รวมถึงลูกที่ ดิยุฟ บีเรเม หลุดไปยิงชนคานก็น่าจะเป็นประตูด้วย ซึ่งผมหวังว่าหลังจากนี้กองหน้าของเราจะเจอจุดเปลี่ยนที่ช่วยเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาโดยเร็วและยิงประตูได้อย่างที่ต้องการ ขณะเดียวกัน โปรแกรมต่อจากนี้ไปผมคิดว่าเราต้องการอีก 12 คะแนนจึงจะรับประกันได้ว่าเราไม่ตกชั้น โดยเฉพาะการพบกับทีมที่อันดับต่ำกว่าเราอย่าง ราชนาวี และ ทีโอที เอสซี ที่ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้”

ส่วน “เดอะ โอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เฮดโค้ชศรีราชาให้สัมภาษณ์ว่า “รูปเกมที่เกิดขึ้นถือว่าสนุกสูสี แม้จะมีปัญหาบ้างเรื่องการต่อบอลและการสร้างสรรค์เกมรุกเพื่อเข้าไปลุ้นทำประตูเนื่องจากสภาพสนามไม่เอื้ออำนวย แต่การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินอาจทำให้ความสนุกของเกมลดลงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เราต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพราะโปรแกรมที่รอเราอยู่ล้วนแล้วแต่หนักทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น บุรีรัมย์ พีอีเอ, เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด, ชลบุรี, บางกอกกล๊าส แต่เราก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความอยู่รอดในไทยพรีเมียร์ลีก”