“น้องอร” อุดมพร พลศักดิ์ อดีตเจ้าของเหรียญทองยกเหล็ก อลป.ถึงกับเครียด หลังโดนหัวขโมยยกเค้ากวาดทรัพย์สินมูลค่านับ 10 ล้านบาท ประสานตำรวจเมืองย่าโมออกล่า
เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ท.จุลฑิตย์ กิตติรงค์ สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่งานสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา จำนวน 5 นาย เข้าตรวจสอบบ้านพักทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ของ ร้อยเอกหญิง อุดมพร พลศักดิ์ อายุ 31 ปี อดีตนักยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2004 หลังได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้ารื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านพักยกเค้าสิ่งมีค่ามูลค่านับ 10 ล้านบาท หลบหนีไป
โดยจากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า บริเวณประตูบ้านด้านหลัง ซึ่งได้ล็อกกลอนไว้ภายในบ้าน ถูกคนร้ายใช้ท่อนไม้ไผ่ดันล็อกประตูบ้านให้หลุดออก ก่อนที่จะเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน ทั้งในบริเวณห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นล่าง มีร่องรอยตู้โชว์ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่เก็บถ้วยรางวัลต่างๆ ที่ได้จากการแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก ของร้อยเอกหญิง อุดมพร ถูกรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจาย แต่ไม่มีทรัพย์สินรายการใดหายไป
ขณะที่บนชั้น 2 ของตัวบ้านพัก ซึ่งเป็นห้องพักของร้อยเอกหญิง อุดมพร ถูกคนร้ายงัดเข้าไปภายในห้อง และรื้อค้นทรัพย์สินของมีค่าที่ถูกเก็บรักษาไว้ภายในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงหิ้งพระบนหัวนอน พังเสียหายกระจัดกระจายทั่วห้อง โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้น ร้อยเอกหญิง อุดมพร ระบุว่า เหรียญสองกษัตริย์ประทับตราพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้รับพระราชทานเมื่อครั้งที่เข้าเฝ้าฯ หลังกลับจากการแข่งขันโอลิมปิก 1 เหรียญ, แหวนแต่งงาน 2 วง ของตนเองและของ นายชัยรัตน์ ล้อประกานต์สิทธิ์ สามี ซึ่งเป็นแหวนเพชรวงละ 1 กะรัต, สร้อยทองซึ่งเป็นสินสอดทอง 2 เส้น เส้นละ 5 บาท 1 เส้น และ เส้นละ 1 บาท 1 เส้น รวมถึงเครื่องประดับแหวนทอง ต่างหูทอง ดาวประดับยศทหารทองคำแท้ที่สั่งทำพิเศษ ถูกโจรกรรมหายไปทั้งหมด รวมแล้วน้ำหนักทองคำที่ถูกขโมยไปมากกว่า 10 บาท นอกจากนี้ ยังมีพระเครื่องเลี่ยมทอง (หลวงพ่อเงินรุ่นฟ้าผ่า) มูลค่าประเมินเกือบ 10 ล้านบาท ก็ถูกคนร้ายนำไปด้วย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่หายไปเบื้องต้นประมาณการได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในบ้านพักและบริเวณโดยรอบอย่างละเอียด ซึ่งพบว่า มีรอยเท้าของคนร้ายอยู่บริเวณด้านหลังของบ้านและยังพบรอยนิ้วมือทั่งภายในบริเวณบ้านที่มีการรื้อค้นรวมถึงบนหลังคาด้านหลังของบ้านพัก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดเพื่อนำไปเปรียบเทียบประวัติติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
ด้าน “น้องอร” อดีตเจ้าของเหรียญทอง อลป.เผยว่า “วันนี้ (6 ต.ค.) กลับบ้านมาตอนช่วงเที่ยง เพื่อเตรียมจัดงานวันเกิดของตนเอง แต่พอเปิดประตูบ้านก็ตกใจมาก เพราะมีร่องรอยรื้อคนกระจัดกระจาย เข้าใจว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และคงเป็นคนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า อีกไม่นานคงโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้แน่นอน เพราะทรัพย์สินที่ขโมยไปล้วนเป็นของสูงทั้งสิ้น ที่สำคัญ ทรัพย์สินต่างๆ นั้น อร หาได้มาอย่างยากลำบาก อยากถามว่านำทรัพย์สินเหล่านี้ไปเคยเห็นใจคนอื่นบ้างหรือไม่ รู้สึกเสียใจมากจริงๆ”
จากนั้น “น้องอร” ยังได้กล่าวต่อไปด้วยว่า “รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สูญหายไป ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับคุณค่าทางจิตใจ และความรู้สึกของวงศ์ตระกูลได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ขอฝากพี่น้อง ประชาชน ดูแลบ้าน และทรัพย์สินของตนเองให้ดี ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้เพื่อนบ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการเพิ่มมาตรการกวดขันในการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนให้มากกว่านี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี โจรผู้ร้าย มักฉวยโอกาสก่อเหตุได้เสมอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเพิ่มโทษให้หนักสำหรับคนร้ายที่ประกอบเหตุ จากนี้ไปคงจะเป็นบทเรียนราคาแพง และจะต้องเร่งติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก”