ASTVผู้จัดการรายวัน-บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ประกาศคิกออฟการแข่งขันฟุตบอลรายการ "ฮอนด้า เรด แชมเปียน”เพื่อสานฝันเยาวชนไทยไปลับฝีเท้าที่สโมสรลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 15-18 ปี ทั่วประเทศไทยสมัครเข้าแข่งขันฟุตบอล 5 คน ซึ่งทีมแชมป์ทั้ง 2 ทีมจะได้สิทธิ์ไปฝึกฟุตบอลในหลักสูตรระยะสั้นกับ "หงส์แดง" และ "ปิศาจแดง" ในฤดูกาลหน้า
เมื่อเวลา 14.30 น.ของวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ สนามฟุตบอลฟลิค เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา มร.จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด พร้อมด้วย กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ สุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร และ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย ร่วมแถลงข่าว ฮอนด้า คิกออฟ “เรดแชมเปี้ยน” สานฝันเด็กไทยไปแมนฯยูฯ – ลิเวอร์พูล
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยอายุระหว่าง 15-18 ปี จากสถานศึกษาได้ร่วมสมัครเข้าแข่งขันฟุตบอล 5 คน ขณะเดียวกันยังจะจัดให้มีการทดสอบทักษะฟุตบอลของสมาชิกแต่ละคนในทีมผ่านสถานีต่างๆ 5 สถานี ได้แก่ การเดาะบอล, การเลี้ยงบอลแบบสลาลอม, การรับ-ส่งบอลในระยะที่กำหนด, การโหม่งบอลทำประตู และการเตะบอลข้ามสิ่งกีดขวางเพื่อทำประตู
ทั้งนี้มีการกำหนดให้มีการคัดเลือกตัวแทนของแต่ละร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่เข้าร่วมรายการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.จำนวนร้านละ 2 ทีม แบ่งเป็นกลุ่มแฟนคลับลิเวอร์พูล 1 ทีม และกลุ่มแมนฯยูฯ 1 ทีม โดยในแต่ละทีมจะต้องประกอบไปด้วยสมาชิก 8 คน แบ่งเป็นตัวจริง 5 คน ตัวสำรอง 2 คน และผู้ฝึกสอน 1 คน
ซึ่งเวลานี้มีทีมตอบรับเข้าสมัครจากทั่วทุกภาคของไทยกว่า 1,000 ทีม โดยการแข่งขันรอบสุดท้ายที่จะเฟ้นหา 2 ทีมที่เป็นตัวแทนของฝั่งแมนฯยู และลิเวอร์พูล ไปฝึกฟุตบอลที่อังกฤษ จะมีขึ้นที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ระหว่างวันที่ 12-13 ก.พ.ปีหน้า ก่อนที่ในฤดูกาลหน้าทั้ง 2 ทีม จะได้รับสิทธิ์ไปฝึกฟุตบอลในหลักสูตรระยะสั้น พร้อมชมเกมการแข่งขันในนัดสำคัญของทั้งสองทีมดัง และท่องเที่ยวประเทศอังกฤษรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
ด้าน มร.จิอากิ คาโต บอสใหญ่เอ.พี.ฮอนด้าเผยว่า "จากการประกาศเซ็นต์สัญญาเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ทีมลิเวอร์พูล และทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เราได้รับสิทธิ์ให้สามารถทำกิจกรรมในเมืองไทยได้ ซึ่งเราเชื่อว่าโครงการนี้ถือเป็นการคืนกำไรให้กับสังคมโดยเฉพาะกับเยาวชนไทยที่รักในกีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะเป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายแฟนบอลทั้ง 2 ทีม"