คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสได้รับการปั้นจากเพื่อนร่วมทีมก่อนทำแฮตทริก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านสอนเชิง เคตาเฟ อย่างง่ายดาย 4-0 พร้อมทั้งไล่จี้ บาร์เซโลนา ว่าที่แชมป์ลา ลีกา สเปน เหลือ 5 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
ฟุตบอลลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา รีล มาดริด รองจ่าฝูงเปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ เคตาเฟ ทีมอันดับ 16 เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 24 “ราชันชุดขาว” ก็ออกนำไปก่อน 1-0 โดย เมซุต โอซิล โชว์ความเหนือชั้นดีดไซด์ก้อยด้วยซ้ายจากบริเวณริมเส้นด้านขวาเข้ากลางอย่างแม่นยำให้ คริสเตียโน โรนัลโด โขกหนีมือ ออสการ์ อุสตารี ตุงตาข่าย
ผ่านมาถึงครึ่งหลังนาทีที่ 58 สาวกมาดริดิสตาก็ได้ครื้นเครงกับประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ กอนซาโล อิกวาอิน หลุดเข้าไปถูก ออสการ์ อุสตารี ออกมาล้มตัวขวาง แต่ โอซิล ตามไปเก็บบอลแล้วถวายพานทองให้ โรนัลโด แตะเข้าไปดึงจังหวะหลอกล่อกองหลังทีมเยือนแล้วจิ้มเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างเลือดเย็น
เท่านั้นไม่พอ รีล มาดริด ยังมาทะลวงเพิ่มเป็น 3-0 ในนาทีที่ 77 หลังจาก ชาบี อลอนโซ วางบอลข้ามแนวรับอย่างแม่นยำให้ คาริม เบนเซมา ที่เพิ่งลงมาแทน อิกวาอิน ได้ไม่นานเกี่ยวบอลลงแล้วจิ้มเร็วผ่านมือ อุสตารี เข้าไป ช่วงทดเจ็บ โรนัลโด ถูก มาเน รวบล้มในเขตโทษเป็นจุดโทษ ก่อนที่ดาวเด่นจากแดนฝอยทองจะลุกขึ้นมาสังหารเองด้วยการชิปเข้าตรงกลางแบบนิ่มๆ เป็นประตูที่ 36 ในฤดูกาลนี้ด้วย ทิ้งห่าง ลิโอเนล เมสซี ของ บาร์เซโลนา 5 ลูก
จบเกมราชันชุดขาวถล่มสบายเท้า 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 76 คะแนน ลดช่องว่างจาก บาร์เซโลนา จ่าฝูงเหลือ 5 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ซึ่งหาก "เจ้าบุญทุ่ม" บุกไปชนะ เลบันเต ในคืนพรุ่งนี้ก็จะคว้าแชมป์ทันที ส่วน เคตาเฟ มี 40 คะแนนเท่าเดิมแต่หล่นลงมาอยู่ที่ 17 ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นต่อไป
ผลฟุตบอลลา ลีกา สเปน
เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-1 (กาอิซกา โตเกโร 0-1 นาที 3), (อาเดรียน โลเปซ 1-1 นาที 22), (ชาเบียร์ กาสตีโย 2-1 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 71)
มาลากา ชนะ สปอร์ติง กิฆอน 2-0 (ชูลิโอ บาปติสตา 1-0 นาที 10), (เอลิซิว เปเรรา 2-0 นาที 68)
ราซิง ซานตานเดร์ ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1 (มาริโอ ซัวเรซ 0-1 นาที 11), (เคนเนดี บาเคียร์ซิโอกลู 1-1 นาที 38), (มาร์คุส โรเซนเบิร์ก 2-1 นาที 48)
รีล มาดริด ชนะ เคตาเฟ 4-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 นาที 24), (คริสเตียโน โรนัลโด 2-0 นาที 58), (คาริม เบนเซมา 3-0 นาที 77), (คริสเตียโน โรนัลโด 4-0 จุดโทษ นาที 90+2)