"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เปิดรังไล่ตะปบ "นายห้างขายยา" ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 5-1 ขณะที่ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จ่อแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี หลังเฝ้าถ้ำขย้ำ ไฟร์บวร์ก 3-0
ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี
บาเยิร์น มิวนิค 5-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
อันเดรียส์ ยองเคอร์ คุมทีมขัดตาทัพ หลังจากบอร์ดบริหาร "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค สั่งปลด หลุยส์ ฟาน กัล กลางอากาศ นัดนี้เจ้าถิ่นยังมาขาด อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก่งที่ติดโทษแบน แต่ได้ทั้ง ฟรองค์ ริเบรี กับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กลับมาฟิต ขณะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ ด้าน จุปป์ ไฮย์นเกส หวังนำ "ห้างขายยา" เลเวอร์คูเซน มาเก็บแต้ม เพื่อไล่ล่าแชมป์กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่อไป เกมนี้ใช้ เอเรน แดร์ดิย็อค ยืนหอกตัวเป้า โดยมี มิชาเอล บัลลัค คอยบัญชาเกม
เริ่มเกมการแข่งขัน เลเวอร์คูเซน พยายามครองบอลบุกขึ้นไป แต่ถึงนาทีที่ 8 กลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค ออกนำเร็ว 1-0 เมื่อ ฟรองค์ ริเบรี เปิดลูกเตะมุมเข้าไป บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ขวิดถากๆ บอลแฉลบศีรษะ ไซมอน โรลเฟส เข้าประตูตัวเอง เจ็ดนาทีถัดมาเจ้าบ้านต้องถอด ดาเนียล ปรันยิช ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าเล่นต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับส่ง ดีเอโก คอนเทนโต ไปประจำการแบ็กซ้ายแทน
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก แฟนๆ เจ้าบ้านร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็น ฮันโน บาลิทช์ กระแทก คอนเทนโต ที่เติมขึ้นมาในกรอบโทษด้านซ้ายล้มลงไป ทว่าเชิ้ตดำยังเฉย อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 28 "เสือใต้" ก็ฉีกหนีเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ อาร์ตูโล วิดัล ที่ดันไปเสียดายบอลตอกส้นโดน โธมัส มุลเลอร์ ฉกไปเปิดเข้ากลางให้ มาริโอ โกเมซ ชาร์จบอลกระแทกเสาสองเข้าซุกก้นตาข่าย ก่อนหมดเวลานาทีเดียว บาเยิร์น ทิ้งไปไกล 3-0 จากจังหวะโต้กลับ มุลเลอร์ ถวายพานให้ โกเมซ แปเหน่งๆ ไม่เหลือ เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บ โกเมซ มากระหน่ำแฮตทริกให้ต้นสังกัดนำ 4-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
ลุยต่อครึ่งหลัง เลเวอร์คูเซน เปลี่ยนเอา ลาร์ส เบนเดอร์ ลงมาเล่นแทน คาสโตร จากนั้นก็เดินหน้าบุกแหลกเพื่อทวงประตูตีไข่แตก และก็เกือบทำได้ถ้า สเตฟาน คีสลิงก์ กองหน้าร่างโย่งที่ลงมาเป็นสำรองไม่ขวิดบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดายเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม อย่างไรก็ดี สองนาทีถัดมา "ห้างขายยา" ก็ไล่มา 1-4 จนได้จากการหลุดเข้าไปกระหน่ำเต็มข้อของ เอเรน แดร์ดิย็อค เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย "เสือใต้" มาได้ประตูย้ำชัย 5-1 จาก ฟรองค์ ริเบรี หมดเวลาจึงมีเพิ่มเป็น 55 คะแนนจาก 30 นัด แซง ฮันโนเวอร์ ขึ้นมาอยู่ที่ 3 ด้วยความห่างกันแต้มเดียว ขณะที่ เลเวอร์คูเซน โอกาสลุ้นแชมป์ยากแล้ว เมื่อมี 61 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บาเยิร์น : ฮันส์ ยอร์ค บุทท์ , ฟิลิปป์ ลาห์ม , อนาโตลี ติมอสชุค , ดาเนียล ฟาน บุยเต็น , ดาเนียล ปรันยิช , โธมัส มุลเลอร์ , หลุยส์ กุสตาโว , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , ฟรองค์ ริเบรี , มาริโอ โกเมซ , มิโรสลาฟ โคลเซ
เลเวอร์คูเซน : เรเน อาดเลอร์ , ฮันโน บาลิทช์ , ดาเนียล ชวาบ , สเตฟาน ไรนาร์ทซ , กอนซาโล คาสโตร , อาร์ตูโล วิดัล , ไซมอน โรลเฟส , ซิดนีย์ แซม , มิชาเอล บัลลัค , เรนาโต ออกุสโต , เอเรน แดร์ดิย็อค
ส่วนผลอีกคู่หหนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นับถอยหลังสู่การคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกา หลังเปิดบ้านไล่กระซวก "จิ้งจอกแห่งป่าดำ" ไฟร์บวร์ก 3-0 ได้ประตูจาก มาริโอ เกิทเซ นาทีที่ 23 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที และ เควิน โกรสครอยท์ซ ยิงปิดกล่องนาที 78 ทำให้ "เสือเหลือง" มีเพิ่มเป็น 69 คะแนน หนี เลเวอร์คูเซ รองจ่าฝูงห่าง 8 แต้ม ขณะที่เหลือโปรแกรมให้เตะกันอีกเพียงทีมละ 4 นัด
ศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี
บาเยิร์น มิวนิค 5-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
อันเดรียส์ ยองเคอร์ คุมทีมขัดตาทัพ หลังจากบอร์ดบริหาร "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค สั่งปลด หลุยส์ ฟาน กัล กลางอากาศ นัดนี้เจ้าถิ่นยังมาขาด อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก่งที่ติดโทษแบน แต่ได้ทั้ง ฟรองค์ ริเบรี กับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กลับมาฟิต ขณะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ ด้าน จุปป์ ไฮย์นเกส หวังนำ "ห้างขายยา" เลเวอร์คูเซน มาเก็บแต้ม เพื่อไล่ล่าแชมป์กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่อไป เกมนี้ใช้ เอเรน แดร์ดิย็อค ยืนหอกตัวเป้า โดยมี มิชาเอล บัลลัค คอยบัญชาเกม
เริ่มเกมการแข่งขัน เลเวอร์คูเซน พยายามครองบอลบุกขึ้นไป แต่ถึงนาทีที่ 8 กลายเป็น บาเยิร์น มิวนิค ออกนำเร็ว 1-0 เมื่อ ฟรองค์ ริเบรี เปิดลูกเตะมุมเข้าไป บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ขวิดถากๆ บอลแฉลบศีรษะ ไซมอน โรลเฟส เข้าประตูตัวเอง เจ็ดนาทีถัดมาเจ้าบ้านต้องถอด ดาเนียล ปรันยิช ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าเล่นต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับส่ง ดีเอโก คอนเทนโต ไปประจำการแบ็กซ้ายแทน
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก แฟนๆ เจ้าบ้านร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็น ฮันโน บาลิทช์ กระแทก คอนเทนโต ที่เติมขึ้นมาในกรอบโทษด้านซ้ายล้มลงไป ทว่าเชิ้ตดำยังเฉย อย่างไรก็ตาม ถึงนาทีที่ 28 "เสือใต้" ก็ฉีกหนีเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ อาร์ตูโล วิดัล ที่ดันไปเสียดายบอลตอกส้นโดน โธมัส มุลเลอร์ ฉกไปเปิดเข้ากลางให้ มาริโอ โกเมซ ชาร์จบอลกระแทกเสาสองเข้าซุกก้นตาข่าย ก่อนหมดเวลานาทีเดียว บาเยิร์น ทิ้งไปไกล 3-0 จากจังหวะโต้กลับ มุลเลอร์ ถวายพานให้ โกเมซ แปเหน่งๆ ไม่เหลือ เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บ โกเมซ มากระหน่ำแฮตทริกให้ต้นสังกัดนำ 4-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
ลุยต่อครึ่งหลัง เลเวอร์คูเซน เปลี่ยนเอา ลาร์ส เบนเดอร์ ลงมาเล่นแทน คาสโตร จากนั้นก็เดินหน้าบุกแหลกเพื่อทวงประตูตีไข่แตก และก็เกือบทำได้ถ้า สเตฟาน คีสลิงก์ กองหน้าร่างโย่งที่ลงมาเป็นสำรองไม่ขวิดบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดายเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม อย่างไรก็ดี สองนาทีถัดมา "ห้างขายยา" ก็ไล่มา 1-4 จนได้จากการหลุดเข้าไปกระหน่ำเต็มข้อของ เอเรน แดร์ดิย็อค เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย "เสือใต้" มาได้ประตูย้ำชัย 5-1 จาก ฟรองค์ ริเบรี หมดเวลาจึงมีเพิ่มเป็น 55 คะแนนจาก 30 นัด แซง ฮันโนเวอร์ ขึ้นมาอยู่ที่ 3 ด้วยความห่างกันแต้มเดียว ขณะที่ เลเวอร์คูเซน โอกาสลุ้นแชมป์ยากแล้ว เมื่อมี 61 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บาเยิร์น : ฮันส์ ยอร์ค บุทท์ , ฟิลิปป์ ลาห์ม , อนาโตลี ติมอสชุค , ดาเนียล ฟาน บุยเต็น , ดาเนียล ปรันยิช , โธมัส มุลเลอร์ , หลุยส์ กุสตาโว , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , ฟรองค์ ริเบรี , มาริโอ โกเมซ , มิโรสลาฟ โคลเซ
เลเวอร์คูเซน : เรเน อาดเลอร์ , ฮันโน บาลิทช์ , ดาเนียล ชวาบ , สเตฟาน ไรนาร์ทซ , กอนซาโล คาสโตร , อาร์ตูโล วิดัล , ไซมอน โรลเฟส , ซิดนีย์ แซม , มิชาเอล บัลลัค , เรนาโต ออกุสโต , เอเรน แดร์ดิย็อค
ส่วนผลอีกคู่หหนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นับถอยหลังสู่การคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกา หลังเปิดบ้านไล่กระซวก "จิ้งจอกแห่งป่าดำ" ไฟร์บวร์ก 3-0 ได้ประตูจาก มาริโอ เกิทเซ นาทีที่ 23 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที และ เควิน โกรสครอยท์ซ ยิงปิดกล่องนาที 78 ทำให้ "เสือเหลือง" มีเพิ่มเป็น 69 คะแนน หนี เลเวอร์คูเซ รองจ่าฝูงห่าง 8 แต้ม ขณะที่เหลือโปรแกรมให้เตะกันอีกเพียงทีมละ 4 นัด