xs
xsm
sm
md
lg

อินทรีเจ๊า, สิงโต-ตราไก่-ฟ้าขาวเฮ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เยอรมนี ถูก อิตาลี ตามตีเสมอ 1-1 ในช่วงท้ายเกม ด้าน อังกฤษ บุกไปชนะ เดนมาร์ก 2-1 รับขวัญกัปตันคนใหม่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ส่วน ฝรั่งเศส เฉือน บราซิล 1-0 ขณะที่ อาร์เจนตินา ได้ ลิโอเนล เมสซี ยิงจุดโทษดับ โปรตุเกส 2-1

ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554
เยอรมนี 1-1 อิตาลี
โคลเซ (เสื้อขาว) ยิงให้ เยอรมนี ขึ้นนำก่อนเจ๊า อิตาลี 1-1
ที่สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค เยอรมนี เปิดบ้านต้อนรับ อิตาลี เกมนี้เจ้าถิ่นให้ เดนนิส อาโอโก จาก ฮัมบูร์ก ลงยืนแบ็กซ้าย ส่วนแนวรุกวาง เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์ กับ ลูคัส โพดอลสกี ประสานงานให้กับ มิโรสลาฟ โคลเซ ที่ยืนหน้าเป้า ส่วนทีมเยือนส่ง เลโอนาร์โด โบนุชชี กับ อันเดรีย ราน็อคเคีย ยืนคุมแนวรับ ด้าน ติอาโก มอตตา กองกลางอินเตอร์ มิลาน ที่ติดธงนัดแรกลงประเดิมสนาม ส่วนคู่กองหน้าเป็น อันโตนิโอ คาสซาโน กับ จามเปาโล ปาซซินี

ผ่านไป 16 นาที เยอรมนี ออกนำไปก่อน 1-0 จากการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก ฟิลิปป์ ลาห์ม จ่ายบอลจากริมเส้นด้านขวาให้ โธมัส มุลเลอร์ ทำชิ่งกับ เมซุต โอซิล หลุดเข้าไปเปิดในเขตโทษให้ โคลเซ ล้มตัวเข้าฮอสผ่านมือ จิอันลุยจิ บุฟฟอน ตุงตาข่าย

2 นาทีต่อมา “อินทรีเหล็ก” เกือบพังสกอร์หนีห่างออกไป เมื่อ โอซิล จ่ายทะลุช่องให้ โคลเซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ บุฟฟอน แต่หัวหอกจาก บาเยิร์น มิวนิค ยิงไปติดเซฟออกหลัง นาทีที่ 37 “อัซซูรี” มีลุ้นใกล้เคียงมากที่สุดจากจังหวะที่ จอร์โจ คิเอลลินี เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้ากลางให้ ดานิเอเล เด รอสซี วอลเลย์เต็มข้อ แต่ไม่ผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ ที่ทุบทิ้งออกไปได้ จบครึ่งแรก เยอรมนี ยังนำ 1-0

ครึ่งหลัง เยอรมนี เปลี่ยนเอา มาริโอ เกิทเซ มิดฟิลด์ดาวรุ่งจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลงมาแทน มุลเลอร์ ขณะที่ อิตาลี ส่ง จูเซ็ปเป รอสซี กับ มาร์โก บอร์ริเอลโล ลงมาแทน คาสซาโน และ ปาซซินี ที่แผลงฤทธิ์ไม่ออก ซึ่ง รอสซี มีจังหวะสับไกหนแรกในนาทีที่ 54 จากการฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวา แต่ลูกไปเข้าซอง นอยเออร์ ก่อนที่ คริสเตียน มาจโจ จะถูกส่งลงมาแก้เกมให้ฝั่งอัซซูรีแทน มัตเตีย คาสซานี

อินทรีเหล็กทดลองผู้เล่นบ้างโดยส่ง มัทส์ ฮุมเมิลส์ กองหลังจากดอร์ทมุนด์ลงแทน โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ส่วน เจอโรม บัวเต็ง ก็ได้ลงมาแทน ลาห์ม ตามด้วย คริสเตียน กรอสส์ครอยทซ์ ที่ลงมาแทน โคลเซ ส่วน อิตาลี ก็ปล่อย อัลแบร์โต อาควิลานี, เซบาสเตียน โจวินโก, โดเมนิโก คริสชิโต ลงมาแทน มอตตา, สเตฟาโน เมารี และ คิเอลลินี ก่อนที่ทีมเยือนจะตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 81 เมื่อ คริสชิโต ตัดบอลได้ก่อนทะลุมาถึง รอสซี ที่ลากเข้าไปยิงติดเซฟ นอยเออร์ แล้วตามซ้ำดาบสองเข้าไป กระทั่งจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เยอรมนี - มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, เดนนิส อาโอโก, ซามี เคดิรา, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, เมซุตโอซิล, โธมัส มุลเลอร์, ลูคัส โพดอลสกี, มิโรสลาฟ โคลเซ

อิตาลี - จิอันลุยจิ บุฟฟอน, มัตเตีย คาสซานี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, อันเดรีย ราน็อคเคีย, จอร์โจ คิเอลลินี, ติอาโก มอตตา, สเตฟาโน เมารี, ดานิเอเล เด รอสซี, ริคคาร์โด มอนโตลิโว, อันโตนิโอ คาสซาโน, จามเปาโล ปาซซินี
แลมพาร์ด (ซ้าย) ได้เฮในการเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษครั้งแรก
ด้าน อังกฤษ บุกไปเยือน เดนมาร์ก ที่สนามปาร์เคน สตาดิโอน ในกรุงโคเปนเฮเกน ถูก ดาเนียล แอกเกอร์ โขกพังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 8 แต่ ดาร์เรน เบนท์ ก็มาตามตีเสมอให้ "สิงโตคำราม" ได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 10 ก่อนที่ แอชลีย์ ยัง จะหลุดเข้าไปสังหารประตูชัยให้ อังกฤษ ในนาทีที่ 68 เอาชนะไปในที่สุด 2-1
คาริม เบนเซมา (กลาง) ฮีโร่ฝรั่งเศสไล่บี้แย่งบอลจาก ดาเนียล อัลเวส แบ็กขวาบราซิล
อีกคู่ที่น่าสนใจ ฝรั่งเศส ลงเล่นในสนามสตาด เดอ ฟรองซ์ รับมือ บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย ซึ่งเป็น "ตราไก่" เจ้าถิ่นที่สามารถเฉือนคว้าชัย 1-0 โดยที่ "แซมบา" เหลือผู้เล่น 10 คนในครึ่งแรก เมื่อ เออร์นาเนส ยกเท้าสูงเข้าใส่ยอดอกของ คาริม เบนเซมา ในนาทีที่ 40 จากนั้นครึ่งหลัง เฌเรมี เมเนซ ตัวรุกฝรั่งเศสจะเลื้อยหนีแนวรับ 3 รายก่อนตบไปที่เสาสองให้ เบนเซมา แปเผาขนไม่เหลือซากเป็นประตูตัดสินเกม
ลิโอเนล เมสซี พยายามฝ่าวงล้อมผู้เล่นโปรตุเกส
ส่วนเกมที่เป็นไฮไลท์อยู่ที่การพบกันระหว่าง อาร์เจนตินา ที่นำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี กับ โปรตุเกส ที่มี คริสเตียโน โรนัลโด เป็นตัวชูโรง ซึ่งเกมนี้เตะกันที่สนามกลางในเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย "ฟ้า-ขาว" ไร้เงา คาร์ลอส เตเบซ กองหน้าจากแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ถูกลงโทษตัดชื่อออกจากทีม หลังจากไม่มาร่วมทีมในเกมอุ่นเครื่องกับ บราซิล เมื่อปีที่แล้วโดยอ้างว่าบาดเจ็บ ก่อนลงช่วยต้นสังกัดในเกมลีกช่วงสุดสัปดาห์นั้นทันที

ออกสตาร์ทได้เพียง 14 นาที อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวฉกาจจาก รีล มาดริด ก็หลุดเข้าไปซัดเบิกร่องให้ อาร์เจนตินา ออกนำก่อน 1-0 ทว่านาทีที่ 21 โรนัลโด ก็มาตามตีเสมอให้ "ฝอยทอง" ได้สำเร็จ สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยการเจ๊ากัน แต่แล้วนาทีสุดท้าย "ฟ้า-ขาว" มาได้ลูกโทษที่จุดโทษ ก่อนที่ เมสซี จะรับหน้าที่สังหารนำชัยให้ อาร์เจนตินา เฉือนชนะ 2-1

ผลฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
แอลเบเนีย แพ้ สโลวีเนีย 1-2
ลิเบีย ชนะ เบนิน 3-2
ซานมารีโน แพ้ ลิกเตนสไตน์ 0-1
มอลโดวา ชนะ อันดอร์รา 2-1
ไนจีเรีย ชนะ เซียร์ราลีโอน 2-1
กรีซ ชนะ แคนาดา 1-0
อาร์เมเนีย แพ้ จอร์เจีย 1-2
รัสเซีย แพ้ อิหร่าน 0-1
มาซิโดเนีย แพ้ แคเมอรูน 0-1
โครเอเชีย ชนะ เช็ก 4-2
อาเซอร์ไบจาน แพ้ ฮังการี 0-2
ตุรกี เสมอ เกาหลีใต้ 0-0
อิสราเอล แพ้ เซอร์เบีย 0-2
แอฟริกาใต้ ชนะ เคนยา 2-0
บัลแกเรีย ชนะ เอสโตเนีย 2-0
ลักเซมเบิร์ก ชนะ สโลวาเกีย 2-1
เดนมาร์ก แพ้ อังกฤษ 1-2
ฮอลแลนด์ ชนะ ออสเตรีย 3-1
เบลเยียม เสมอ ฟินแลนด์ 1-1
นอร์เวย์ แพ้ โปแลนด์ 0-1
มอลตา เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0
แอลจีเรีย พบ ตูนิเซีย (ยกเลิกการแข่งขัน)
เยอรมัน เสมอ อิตาลี 1-1
ฝรั่งเศส ชนะ บราซิล 1-0
อาร์เจนตินา ชนะ โปรตุเกส 2-1
โมร็อกโก ชนะ ไนเจอร์ 3-0
สเปน ชนะ โคลอมเบีย 1-0
กำลังโหลดความคิดเห็น