"สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา เปิดรังทำได้แค่เสมอกับ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมท้ายตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 0-0 ขณะที่ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทิ่มเอาชนะ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม 2-0
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา 0-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
มาร์ติน โอนีล ปรับทัพ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา จากเกมคาร์ลิง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์แค่ตำแหน่งเดียวให้ แบรด ฟรีเดล กลับมาเฝ้าเสาแทน แบรด กูซาน ส่วนแนวรุกก็มี แอชลีย์ ยัง, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ และ เอมิล เฮสกี เล่นร่วมกัน ด้าน จานฟรังโก โซลา พาทีม "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาเยือนอีสต์แลนด์ ด้วยการมีนักเตะบาดเจ็บหลายคน ข้างหน้าต้องห้อย แฟรงค์ นูเบิล หัวหอกดาวรุ่งไว้คนเดียว แล้วอัดผู้เล่นแดนกลางไว้ถึง 5 คน
เริ่มเกม เวสต์แฮม ลงมาเล่นดูคึกคักมากกว่าและก็ได้ลุ้นก่อนจาก แฟรงค์ นูเบิล ลากจากครึ่งสนามเข้าไปยิงแต่บอลไม่ตรงกรอบ แอสตัน วิลลา ค่อยๆ เดินเกมไม่เร่งอะไรมากนัก นาทีที่ 18 มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา เจมส์ มิลเนอร์ ปั่นไปโดนใบหน้าของ ราโดสลาฟ โควัช เต็มๆ ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก "สิงห์ผงาด" เปิดฉากบุกเต็มตัว แอชลีย์ ยัง หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านกำลังจะเสียบเสาสอง โรเบิร์ต กรีน ต้องบินปัดจากเส้น บอลไม่พ้นอันตราย กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ได้ตวัดยิงในกรอบโทษร้อนถึงนายทวารทีมชาติอังกฤษต้องป้องกันไว้อีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป "ขุนค้อน" โต้ตอบกลับมาบ้าง แผงหลังเจ้าบ้านสกัดลูกเตะมุมไม่ขาดมาเข้าทางให้ แจ็ค คอลลิสัน ตะบันจากนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคาน ท้ายครึ่งแรก ขุนพลแข้ง "สิงห์ผงาด" ดันกันขึ้นมาขึงเกมบุกกดดันทีมเยือนได้พอสมควร แต่ กรีน วันนี้ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็นเลย จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตึงอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง วิลลา ดันเกมรุกใส่แบบไม่พูดพร่ำทำเพลง ยัง ตะลุยขึ้นมาทางซ้ายเปิดเข้ากลางให้ เอมิล เฮสกี แปะต่อ มิลเนอร์ วิ่งเข้ามาซัดเต็มๆ บอลถากเสาแบบได้เสียว เมื่อยังเจาะตาข่ายไม่ได้ มาร์ติน โอนีล ขยับส่ง ยอห์น คาริว มาเล่นแทน เฮสกี ด้านของทีมเยือน จานฟรังโก โซลา ปรับแท็คติกให้ อเลสซานโดร เดียมานติ มาเล่นแทน สกอตต์ พาร์เกอร์ นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง เจมส์ คอลลินส์ เติมขึ้นมายิงเองบอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย หนึ่งชั่วโมงพอดีแฟนๆ "สิงห์ผงาด" ต้องเฮเก้อกันไป สจวร์ต ดาวนิง ยิงเต็มเท้า กรีน รับกระฉอก คาริว ปรี่เข้าไปซ้ำเข้าประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าดาวยิงร่างโย่งไปก่อนแล้ว
สามนาทีถัดมาเจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองอีกครั้ง ยัง เปิดเข้ามาในกรอบโทษให้ อักบอนลาฮอร์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตวัดยิงเหินข้ามคานแบบน่าผิดหวัง เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายกลายเป็น เวสต์แฮม ที่เปิดเกมลุยใส่เป็นชุดๆ เหมือนกัน จูเนียร์ สตานิสลาส ตัวสำรองได้ยิงเต็มข้อบอลไซด์หลุดกรอบไป ท้ายเกมทั้งสองฝ่ายแลกกันหมัดต่อหมัด ช่วงทดเจ็บ อักบอนลาฮอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่โดน กรีน ออกมาบล็อกได้ทัน จบเกมไม่มีฝ่ายใดเจาะกันได้เสมอกัน 0-0 ทำให้ "สิงห์ผงาด" มีเพิ่มเป็น 36 คะแนนจากการเตะ 21 นัด ยังอยู่ที่ 6 ขณะที่ "ขุนค้อน" เขยิบขึ้นที่ 16 มีอยู่ 19 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
วิลลา : แบรด ฟรีเดล , การ์ลอส กูเอยาร์ , ริชาร์ด ดันน์ , เจมส์ คอลลินส์ , สตีเฟน วอร์น็อค , แอชลีย์ ยัง , สเตลิยัน เปตรอฟ , เจมส์ มิลเนอร์ , สจวร์ต ดาวนิง , เอมิล เฮสกี , กาเบรียล อักบอนลาฮอร์
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน , ฌูเลียง โฟแบร์ , เจมส์ ทอมกินส์ , แม็ทธิว อัพสัน , โจนาธาน สเป็คเตอร์ , วาลอน เบห์รามี , ราโดสลาฟ โควัช , สกอตต์ พาร์เกอร์ , มาร์ค โนเบิล , แจ็ค คอลลิสัน , แฟรงค์ นูเบิล
ส่วนผลอีกคู่วันเดียวกันที่จบลงแล้ว ปรากฏว่า แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เปิดรังบดเอาชนะ ฟูแลม 2-0 ได้ประตูจาก คริสโตเฟอร์ แซมบา นาทีที่ 25 และ ไรอัน นีลเซน เมื่อเริ่มครึ่งหลังไป 9 นาที
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา 0-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
มาร์ติน โอนีล ปรับทัพ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา จากเกมคาร์ลิง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์แค่ตำแหน่งเดียวให้ แบรด ฟรีเดล กลับมาเฝ้าเสาแทน แบรด กูซาน ส่วนแนวรุกก็มี แอชลีย์ ยัง, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ และ เอมิล เฮสกี เล่นร่วมกัน ด้าน จานฟรังโก โซลา พาทีม "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาเยือนอีสต์แลนด์ ด้วยการมีนักเตะบาดเจ็บหลายคน ข้างหน้าต้องห้อย แฟรงค์ นูเบิล หัวหอกดาวรุ่งไว้คนเดียว แล้วอัดผู้เล่นแดนกลางไว้ถึง 5 คน
เริ่มเกม เวสต์แฮม ลงมาเล่นดูคึกคักมากกว่าและก็ได้ลุ้นก่อนจาก แฟรงค์ นูเบิล ลากจากครึ่งสนามเข้าไปยิงแต่บอลไม่ตรงกรอบ แอสตัน วิลลา ค่อยๆ เดินเกมไม่เร่งอะไรมากนัก นาทีที่ 18 มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา เจมส์ มิลเนอร์ ปั่นไปโดนใบหน้าของ ราโดสลาฟ โควัช เต็มๆ ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก "สิงห์ผงาด" เปิดฉากบุกเต็มตัว แอชลีย์ ยัง หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านกำลังจะเสียบเสาสอง โรเบิร์ต กรีน ต้องบินปัดจากเส้น บอลไม่พ้นอันตราย กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ได้ตวัดยิงในกรอบโทษร้อนถึงนายทวารทีมชาติอังกฤษต้องป้องกันไว้อีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป "ขุนค้อน" โต้ตอบกลับมาบ้าง แผงหลังเจ้าบ้านสกัดลูกเตะมุมไม่ขาดมาเข้าทางให้ แจ็ค คอลลิสัน ตะบันจากนอกกรอบแต่บอลเหินข้ามคาน ท้ายครึ่งแรก ขุนพลแข้ง "สิงห์ผงาด" ดันกันขึ้นมาขึงเกมบุกกดดันทีมเยือนได้พอสมควร แต่ กรีน วันนี้ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็นเลย จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตึงอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง วิลลา ดันเกมรุกใส่แบบไม่พูดพร่ำทำเพลง ยัง ตะลุยขึ้นมาทางซ้ายเปิดเข้ากลางให้ เอมิล เฮสกี แปะต่อ มิลเนอร์ วิ่งเข้ามาซัดเต็มๆ บอลถากเสาแบบได้เสียว เมื่อยังเจาะตาข่ายไม่ได้ มาร์ติน โอนีล ขยับส่ง ยอห์น คาริว มาเล่นแทน เฮสกี ด้านของทีมเยือน จานฟรังโก โซลา ปรับแท็คติกให้ อเลสซานโดร เดียมานติ มาเล่นแทน สกอตต์ พาร์เกอร์ นาทีที่ 58 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง เจมส์ คอลลินส์ เติมขึ้นมายิงเองบอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย หนึ่งชั่วโมงพอดีแฟนๆ "สิงห์ผงาด" ต้องเฮเก้อกันไป สจวร์ต ดาวนิง ยิงเต็มเท้า กรีน รับกระฉอก คาริว ปรี่เข้าไปซ้ำเข้าประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าดาวยิงร่างโย่งไปก่อนแล้ว
สามนาทีถัดมาเจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองอีกครั้ง ยัง เปิดเข้ามาในกรอบโทษให้ อักบอนลาฮอร์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตวัดยิงเหินข้ามคานแบบน่าผิดหวัง เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายกลายเป็น เวสต์แฮม ที่เปิดเกมลุยใส่เป็นชุดๆ เหมือนกัน จูเนียร์ สตานิสลาส ตัวสำรองได้ยิงเต็มข้อบอลไซด์หลุดกรอบไป ท้ายเกมทั้งสองฝ่ายแลกกันหมัดต่อหมัด ช่วงทดเจ็บ อักบอนลาฮอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่โดน กรีน ออกมาบล็อกได้ทัน จบเกมไม่มีฝ่ายใดเจาะกันได้เสมอกัน 0-0 ทำให้ "สิงห์ผงาด" มีเพิ่มเป็น 36 คะแนนจากการเตะ 21 นัด ยังอยู่ที่ 6 ขณะที่ "ขุนค้อน" เขยิบขึ้นที่ 16 มีอยู่ 19 คะแนน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
วิลลา : แบรด ฟรีเดล , การ์ลอส กูเอยาร์ , ริชาร์ด ดันน์ , เจมส์ คอลลินส์ , สตีเฟน วอร์น็อค , แอชลีย์ ยัง , สเตลิยัน เปตรอฟ , เจมส์ มิลเนอร์ , สจวร์ต ดาวนิง , เอมิล เฮสกี , กาเบรียล อักบอนลาฮอร์
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน , ฌูเลียง โฟแบร์ , เจมส์ ทอมกินส์ , แม็ทธิว อัพสัน , โจนาธาน สเป็คเตอร์ , วาลอน เบห์รามี , ราโดสลาฟ โควัช , สกอตต์ พาร์เกอร์ , มาร์ค โนเบิล , แจ็ค คอลลิสัน , แฟรงค์ นูเบิล
ส่วนผลอีกคู่วันเดียวกันที่จบลงแล้ว ปรากฏว่า แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เปิดรังบดเอาชนะ ฟูแลม 2-0 ได้ประตูจาก คริสโตเฟอร์ แซมบา นาทีที่ 25 และ ไรอัน นีลเซน เมื่อเริ่มครึ่งหลังไป 9 นาที
