ภารกิจรับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2550 หลังรับธง “เจ้าภาพ” ต่อจาก “โคราชเกมส์” เรียกได้ว่ามีเวลาสองปีในการเตรียมงานใหญ่ ทว่าถึงวันนี้ ทีมข่าว MGR Sport ยังพบปัญหาอยู่บ้างในการเดินทางมาทำงานยังนครหลวงเวียงจันทน์
แม้ “เวียงจันทน์เกมส์” มีคิวเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 9-18 ธ.ค. แต่กีฬาบางประเภทอย่าง ฟุตบอลชาย-หญิง และ โปโลน้ำ มีโปรแกรมลงสนามกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เป็นเหตุผลให้คณะสื่อมวลชนจากหลายประเทศต้องเดินทางมาทำผลการแข่งขันของชาติตนเอง ทว่าก็ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร ทั้งในส่วนของการเดินทางไปยังสนามต่างๆ รวมถึง จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์มีให้ใช้ไม่พอเพียงในมีเดีย เพรส เซ็นเตอร์
โดยในส่วนของการเดินทางไปยังสนามต่างๆ ทีมข่าว MGR Sport สืบทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเจ้าภาพจัดชัทเทิลบัส (SHUTTLE BUS) ไว้ให้บริการคณะนักกีฬาและสื่อมวลชนถึง 8 สาย อย่างไรก็ตาม พอมาเข้าจริงเพิ่งจะมีเดินรถให้บริการเพียง 2 สาย ได้แก่ สายที่ 1 จากหมู่บ้านนักกีฬาถึงสนามกีฬาแห่งชาติ กม.16 และสายที่ 3 หมู่บ้านนักกีฬาถึงสนามเจ้าอนุวงศ์ ส่วนอีก 6 สายที่เหลือ รอเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธ.ค. นั่นทำให้ปัญหาเกิดขึ้นทันที เพราะรัฐบาลสปป.ลาว ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ “สามล้อ” ซึ่งเป็นพาหนะหลักในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เข้าใกล้บริเวณสนาม ดูเหมือนนี่จะเป็นการแก้ปัญหารถติดที่ผิดจุดไปสักนิด ยังดีที่พี่น้องชาวลาวน้ำใจงามเหลือหลาย โบกรถไปทางเดียวกันมีน้อยนักที่จะบอกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในมีเดีย เพรส เซ็นเตอร์ คือ การมีคอมพิวเตอร์ให้ใช้งาน (ฟรี) ไม่ถึง 50 เครื่อง เมื่อเทียบกับปริมาณนักข่าวจากทั้ง 11 ชาติแล้ว ไม่มีทางเพียงพอแน่นอน โดยลาวเปิดให้ใช้บริการคอมพิวเตอร์อีก 1 ห้อง และก็มีการติดตั้งเก้าอี้ชั่วคราวที่มีสัญญาณ Wifi ให้ใช้อีกราว 30 ตัว แต่การคิดค่าบริการเทียบเป็นเงินไทย 200 บาท แลกกับการล็อกอินพาสเวิร์ดที่สามารถใช้งานได้เพียง 4 ชั่วโมง ทำให้นักข่าวแต่ละชาติไม่คุ้นเคย แต่ต้องจำยอมเพื่อที่จะได้พื้นที่นั่งทำข่าว อีกทั้งตามสนามกีฬาต่างๆ แม้มีสัญญาณให้ใช้ ทว่ากลับต่ออินเทอร์เนตไม่ติดเสียอย่างนั้น เชื่อว่าถึงเวลาฝ่ายจัดการแข่นขันน่าจะปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที
เหล่านี้คือ ปัญหาเบื้องต้นสำหรับคณะสื่อมวลชนที่ประสบพบเจอไม่ใช่แต่เพียงทีมข่าว MGR Sport ซึ่ง คุณบุญมี วันมณี ฝ่ายดูแลความพร้อมในมีเดีย เพรสเซ็นเตอร์ ยอมรับกับเราว่า "ทางลาวไม่มีประสบการณ์ในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬา จึงไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณนักข่าวที่จะเข้ามาทำงานยังเพรสเซ็นเตอร์ได้ แต่ตอนนี้เราก็ได้มีการเพิ่มโต๊ะเสริมขึ้นมา ถ้ายังไม่เพียงพอ คงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันต่อไป"
ด้าน พาม ทาน พุค (Pham tan phuc) แห่งหนังสือพิมพ์ Toui Tre Newspaper มีบ่นกับทีมข่าว MGR Sport เช่นกันว่า "ขนาดของห้องเพรสที่นี่เล็กมาก ไม่มีทางที่จะรองรับนักข่าวได้เลย หลายคนคงต้องไปซื้อ Wifi อินเทอร์เนตมาใช้ หากถามว่าลาวสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอื่นๆ ระดับชาติได้อีกหรือไม่ ผมคิดว่าพวกเขาคงต้องปรับปรุงอีกหลายอย่างเลยทีเดียว"
นั่นเป็นความคิดที่ไม่ต่างกันกับเรา อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังดี...เป็นการติเพื่อก่อสำหรับเจ้าภาพมือใหม่อย่าง "เวียงจันทน์เกมส์"
แม้ “เวียงจันทน์เกมส์” มีคิวเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 9-18 ธ.ค. แต่กีฬาบางประเภทอย่าง ฟุตบอลชาย-หญิง และ โปโลน้ำ มีโปรแกรมลงสนามกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เป็นเหตุผลให้คณะสื่อมวลชนจากหลายประเทศต้องเดินทางมาทำผลการแข่งขันของชาติตนเอง ทว่าก็ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร ทั้งในส่วนของการเดินทางไปยังสนามต่างๆ รวมถึง จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์มีให้ใช้ไม่พอเพียงในมีเดีย เพรส เซ็นเตอร์
โดยในส่วนของการเดินทางไปยังสนามต่างๆ ทีมข่าว MGR Sport สืบทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเจ้าภาพจัดชัทเทิลบัส (SHUTTLE BUS) ไว้ให้บริการคณะนักกีฬาและสื่อมวลชนถึง 8 สาย อย่างไรก็ตาม พอมาเข้าจริงเพิ่งจะมีเดินรถให้บริการเพียง 2 สาย ได้แก่ สายที่ 1 จากหมู่บ้านนักกีฬาถึงสนามกีฬาแห่งชาติ กม.16 และสายที่ 3 หมู่บ้านนักกีฬาถึงสนามเจ้าอนุวงศ์ ส่วนอีก 6 สายที่เหลือ รอเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธ.ค. นั่นทำให้ปัญหาเกิดขึ้นทันที เพราะรัฐบาลสปป.ลาว ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ “สามล้อ” ซึ่งเป็นพาหนะหลักในการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ เข้าใกล้บริเวณสนาม ดูเหมือนนี่จะเป็นการแก้ปัญหารถติดที่ผิดจุดไปสักนิด ยังดีที่พี่น้องชาวลาวน้ำใจงามเหลือหลาย โบกรถไปทางเดียวกันมีน้อยนักที่จะบอกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในมีเดีย เพรส เซ็นเตอร์ คือ การมีคอมพิวเตอร์ให้ใช้งาน (ฟรี) ไม่ถึง 50 เครื่อง เมื่อเทียบกับปริมาณนักข่าวจากทั้ง 11 ชาติแล้ว ไม่มีทางเพียงพอแน่นอน โดยลาวเปิดให้ใช้บริการคอมพิวเตอร์อีก 1 ห้อง และก็มีการติดตั้งเก้าอี้ชั่วคราวที่มีสัญญาณ Wifi ให้ใช้อีกราว 30 ตัว แต่การคิดค่าบริการเทียบเป็นเงินไทย 200 บาท แลกกับการล็อกอินพาสเวิร์ดที่สามารถใช้งานได้เพียง 4 ชั่วโมง ทำให้นักข่าวแต่ละชาติไม่คุ้นเคย แต่ต้องจำยอมเพื่อที่จะได้พื้นที่นั่งทำข่าว อีกทั้งตามสนามกีฬาต่างๆ แม้มีสัญญาณให้ใช้ ทว่ากลับต่ออินเทอร์เนตไม่ติดเสียอย่างนั้น เชื่อว่าถึงเวลาฝ่ายจัดการแข่นขันน่าจะปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที
เหล่านี้คือ ปัญหาเบื้องต้นสำหรับคณะสื่อมวลชนที่ประสบพบเจอไม่ใช่แต่เพียงทีมข่าว MGR Sport ซึ่ง คุณบุญมี วันมณี ฝ่ายดูแลความพร้อมในมีเดีย เพรสเซ็นเตอร์ ยอมรับกับเราว่า "ทางลาวไม่มีประสบการณ์ในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬา จึงไม่สามารถคาดการณ์ปริมาณนักข่าวที่จะเข้ามาทำงานยังเพรสเซ็นเตอร์ได้ แต่ตอนนี้เราก็ได้มีการเพิ่มโต๊ะเสริมขึ้นมา ถ้ายังไม่เพียงพอ คงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันต่อไป"
ด้าน พาม ทาน พุค (Pham tan phuc) แห่งหนังสือพิมพ์ Toui Tre Newspaper มีบ่นกับทีมข่าว MGR Sport เช่นกันว่า "ขนาดของห้องเพรสที่นี่เล็กมาก ไม่มีทางที่จะรองรับนักข่าวได้เลย หลายคนคงต้องไปซื้อ Wifi อินเทอร์เนตมาใช้ หากถามว่าลาวสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาอื่นๆ ระดับชาติได้อีกหรือไม่ ผมคิดว่าพวกเขาคงต้องปรับปรุงอีกหลายอย่างเลยทีเดียว"
นั่นเป็นความคิดที่ไม่ต่างกันกับเรา อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังดี...เป็นการติเพื่อก่อสำหรับเจ้าภาพมือใหม่อย่าง "เวียงจันทน์เกมส์"
