นาย คำมุ้ย แก้วมะนี ประธานคณะอนุกรรมการการตลาดและสิทธิประโยชน์ ของบริษัทเพชรจำปา จำกัดประเทศลาวออกมาเผยถึงตัวเลขในการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-18 ธันวาคม นี้ว่าอยู่ที่เงินจำนวน 11 ล้านบาท โดยตั้งเป้าขายให้อีก6 - 7 ประเทศสมาชิกเป็นอย่างน้อย
เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2552 ณ โรงแรมพลาซาแอทธินี ถนนวิทยุ มีงานพิธีลงนามสัญญาผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25ระหว่าง ลาวซอค-เพชรจำปากับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัทโออิชิ เทรดดิ้ง จำกัด โดยตัวแทนของแต่ละบริษัทร่วมเข้าแถลงข่าวและเซ็นสัญญา ซึ่งมีบรรดาผู้สื่อข่าวกว่า 10 ชีวิตร่วมเป็นสักขีพยาน
โดย นาย มารุต บูรณะเศรษฐกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัดได้เปิดเผยถึงความรู้สึกและจำนวนตัวเลขของการสนับสนุน ระหว่างงานแถลงในครั้งนี้ว่า "รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศลาว จะได้จัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก และทางบริษ้ทรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนในการเข้ามาให้การสนับสนุนในครั้งนี้ ส่วนตัวเลขของการสนับสนุนอยู่ที่เงินจำนวนรวม 20 ล้านบาท โดยบริษัท โออิชิ กับไทยเบฟ แบ่งกันจ่ายรายละ 10 ล้านบาท "
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามคำถามเรื่องมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาซีเกมส์ ในครั้งนี้ ต่อนาย คำมุ้ย แก้วมะนี ประธานคณะอนุกรรมการการตลาด ของประเทศลาว ซึ่งได้ออกมาเผยถึงตัวเลขของเงินไว้ว่า"ตามที่คณะมนตรีซีเกมส์ได้มีมติอนุมัติให้ประเทศเจ้าภาพสามารถขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬา ซีเกมส์ได้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทางประเทศ ลาวได้ตั้งจำนวนเงินไว้ที่ 11 ล้านบาทโดยขายให้กับ บริษัท อาร์เอส ประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยและเป็นรายแรก โดยมีอีก 4 ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม กัมพูชา สิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์ กำลังอยู่ในช่วงเจรจาในรายละเอียด ซึ่งเราตั้งเป้าจะขายให้ได้ 6-7 ประเทศเป็นอย่างน้อย"
"สำหรับเงินตรงนี้เราจะไปใช้จ่ายในเรื่องของการพัฒนาในเรื่องสิ่งก่อสร้างอาคารให้มีคุณภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ทางลาวจะแบ่งเงินรายได้ของการเก็บค่าลิขสิทธิ์จำนวน 25เปอร์เซ็นต์ของรายได้ท้งหมด ให้กับคณะกรรมการโอลิมปิกของแต่ละชาติด้วย" ประธานคณะอนุกรรมการการตลาดและสิทธิประโยชน์ ของประเทศลาวปิดท้าย
ขณะที่ บริษัท อาร์เอสฯ ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 นี้ของประเทศไทย ก็ได้คาดการณ์ผลกำไรในการลงทุนในครั้งนี้ออกมาแล้วว่าจะต้องมีรายได้ราว 50 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย จากค่าโฆษณาในระหว่างถ่ายทอดสด แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถเจรจากับทีวีพูล(ช่อง 3, 5, 7, 9)ได้ลงตัว