คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
วัยเบญจเพสมีผลต่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าทีมชาติโตโก และแมนเชสเตอร์ ซิตี หรือไม่เป็นเรื่องน่าคิด กองหน้าวัย 25 ค้าแข้งกับทีมใหญ่อย่างโมนาโกกับอาร์เซนอล และผ่านเกมยูฟา แชมเปียนส์ ลีกอย่างโชกโชนถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
ค่าตัวจากการขาย "บายอร์" กับค่าจ้างที่นักเตะได้รับ จากแมนเชสเตอร์ ซิตี ต้นสังกัดกับนักเตะต่างพึงพอใจสโมสรอาร์เซนอล "ช้อนซื้อ" นักเตะดาวรุ่งมาปั้นขายฟันกำไรมานักต่อนัก ข้อนี้แฟนบอลเข้าใจ และทำใจได้ตั้งแต่ขายกองกลางตัวตัดเกม -- มาติเยอ เฟลมินี ให้เอซี มิลาน เมื่อต้นฤดูกาลก่อน
เฟลมินี ไปค้าแข้งในอิตาลี ไม่ต้องเล่นกับทีมเก่าในเกมลีก วันว่างยังบินมาดูเกมแชมเปียนส์ ลีกของเพื่อนๆ ที่ลอนดอน เพราะความผูกพันกับสโมสร เพื่อนๆและแฟนบอล
"บายอร์" เพิ่งย้ายไปค้าแข้งกับ "เรือใบสีฟ้า" และโคจรมาเล่นกับทีมเก่าเร็วเกินไป ข้อกล่าวหา "หน้าเงิน" และ "ไม่ซื่อสัตย์" จากแฟนบอลยังไม่ทันจาง
ถึงแฟนบอลจะรู้ว่าเป็น "วิถี" ของอาชีพ คือ มีมาและมีไป เมื่อมาให้รักได้ แล้วทำไมไปต้องให้เกลียด ดูอย่าง เดนนิส เบิร์กแคมป์ ตอนอยู่แฟนบอลรักฝังใจ จากไปก็ยังคิดถึง (ตอนนี้แฟน ๆ "ไอ้ปืนใหญ่" เริ่มหลงรัก โธมัส แฟร์มาเลน กองหลังซื้อใหม่ชาวเบลเยี่ยมที่ระเบิดฟอร์มยิงประตูได้มากกว่ากองหน้า)
การฉลองชัยเยาะเย้ยหน้าอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์อาร์เซนอลอย่างสะใจหลังยิงประตูทีมเก่า ในเกมฟุตบอลหรือกีฬาอื่นๆ เป็นเรื่องไร้มารยาทและต้องห้าม
ระหว่างเพื่อนร่วมอาชีพและเพื่อนเคยร่วมค่าย "บายอร์" โหดเกินไป เขาจงใจย่ำหน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี อดีตคู่ขาในแดนหน้า และเหยียบน่อง เชส ฟราเบกาส หลังเกมเชสโชว์รอยแผล แล้วเปรยด้วยความรู้สึกไม่ค่อยดีนัก "เคยจ่ายบอลให้ยิงเยอะแยะ"
ผลกรรมตอบสนองอย่างรวดเร็ว สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ)สั่งห้าม "บายอร์" ลงเล่นเกมพรีเมียร์ชิป 3 นัด และอาจทิปให้อีก 1-2 นัด
แต่ "บายอร์" ในวัยเบญจเพสพลาดอีก เป็นความผิดพลาดนอกสนาม ในฐานะลูกผู้ชายเขาควรยอมรับในสิ่งที่ทำ ทว่า กลับปฏิเสธ โดยยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ เขากล่าวคำขอโทษ แต่ไม่รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป ณ เวลานี้เขาสูญเสียเพื่อนอย่างน้อย 1 คน เพราะ "เพอร์ซี" ไม่ยอมรับคำขอโทษ และสูญเสียความรักจากแฟนบอลอาร์เซนอล
แฟนบอลชาวไทยบางท่านคิดว่า เรื่องนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ ถ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี กับอาร์เซนอล ไม่พบกันเร็วเกินไป
ผมได้ดูคลิปสั้นๆ วันที่ปาทริซ เอวรา ชวน คาร์ลอส เตเบซ หอบเค้กวันเกิดไปเซอร์ไพรซ์ ปาร์ค จี ซอง ถึงอพาร์ตเมนต์ (กิจกรรมเล็กๆ แต่สำคัญนักหนา) สิ่งที่ผู้ชายสองคนทำให้ผู้ชายด้วยกัน เราสามารถสัมผัสความรักและความสนิทสนมระหว่างเพื่อนพ่อค้าต่างชาติที่ไปทำมาหากินนอกถิ่นเกิด
การจากแมนฯ ยูไนเต็ด ไป แมนฯ ซิตี ของเตเบซ อยู่ในสภาพ "จำใจ" เพราะเตเบซน้อยใจเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ไม่เชื่อมั่นฝีเท้าและไม่จริงจังใจการซื้อตัวเขา เตเบซจึงกล่าวพาดพิงนายเก่าอยู่ตลอดเวลา
ก่อนเกมแมนฯ ยูไนเต็ดกับแมนฯ ซิตี้ "บรมครู" กับ "ศิษย์รัก" มาร์ก ฮิวจส์ ต่อปากต่อคำอย่างเข้มข้นเผ็ดร้อนชวนไฟลุก ขณะเตเบซรอเช็คฟิตร่างกาย เขาจะได้ลงสนามหรือพลาดยังไม่อาจล่วงรู้ (ต้นฉบับเขียนเที่ยงวันอาทิตย์)
บางที "ดาร์บีแมตช์" เกมแรกแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ฤดูกาลนี้ อาจเป็นผลดีต่อ "เตเบซ" ก็เป็นได้ ถ้ามาร์ก ฮิวจส์ ตัดสินใจไม่ส่งกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ลงสนาม
ฟุตบอลกลมด้วยเส้นรอบวง นักฟุตบอลล้วนไต่อยู่บนวงรอบนั้น ไม่ไกลจากกันเลย ดูการแลกตัวสลับทีมระหว่าง ซามูเอล เอโต กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นตัวอย่าง จบเกมแชมเปียนส์ ลีก อินเตอร์ มิลานกับบาร์เซโลนา นักเตะเคยร่วมทีมทั้งสองฝ่ายเข้าทักทายสวมกอด แลกเสื้อกัน นักเตะทีมชาติเดียวกันเข้าสวมกอดกัน
คริสเตียน คิวู กองหลังชาวโรมาเนียของอินเตอร์ฯ กล่าวชื่นชมว่าฝีเท้าของลีโอเนล เมสซี ของชาวชาวอาร์เจนไตน์ของ "บาร์ซา" ว่ามหัศจรรย์เหนือธรรมชาติ
นักฟุตบอลหลายคนบรรลุนิติภาวะและเข้าถึงสัจธรรมในอาชีพค้าแข้งอันดุเดือด
วัยเบญจเพสมีผลต่อ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กองหน้าทีมชาติโตโก และแมนเชสเตอร์ ซิตี หรือไม่เป็นเรื่องน่าคิด กองหน้าวัย 25 ค้าแข้งกับทีมใหญ่อย่างโมนาโกกับอาร์เซนอล และผ่านเกมยูฟา แชมเปียนส์ ลีกอย่างโชกโชนถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
ค่าตัวจากการขาย "บายอร์" กับค่าจ้างที่นักเตะได้รับ จากแมนเชสเตอร์ ซิตี ต้นสังกัดกับนักเตะต่างพึงพอใจสโมสรอาร์เซนอล "ช้อนซื้อ" นักเตะดาวรุ่งมาปั้นขายฟันกำไรมานักต่อนัก ข้อนี้แฟนบอลเข้าใจ และทำใจได้ตั้งแต่ขายกองกลางตัวตัดเกม -- มาติเยอ เฟลมินี ให้เอซี มิลาน เมื่อต้นฤดูกาลก่อน
เฟลมินี ไปค้าแข้งในอิตาลี ไม่ต้องเล่นกับทีมเก่าในเกมลีก วันว่างยังบินมาดูเกมแชมเปียนส์ ลีกของเพื่อนๆ ที่ลอนดอน เพราะความผูกพันกับสโมสร เพื่อนๆและแฟนบอล
"บายอร์" เพิ่งย้ายไปค้าแข้งกับ "เรือใบสีฟ้า" และโคจรมาเล่นกับทีมเก่าเร็วเกินไป ข้อกล่าวหา "หน้าเงิน" และ "ไม่ซื่อสัตย์" จากแฟนบอลยังไม่ทันจาง
ถึงแฟนบอลจะรู้ว่าเป็น "วิถี" ของอาชีพ คือ มีมาและมีไป เมื่อมาให้รักได้ แล้วทำไมไปต้องให้เกลียด ดูอย่าง เดนนิส เบิร์กแคมป์ ตอนอยู่แฟนบอลรักฝังใจ จากไปก็ยังคิดถึง (ตอนนี้แฟน ๆ "ไอ้ปืนใหญ่" เริ่มหลงรัก โธมัส แฟร์มาเลน กองหลังซื้อใหม่ชาวเบลเยี่ยมที่ระเบิดฟอร์มยิงประตูได้มากกว่ากองหน้า)
การฉลองชัยเยาะเย้ยหน้าอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์อาร์เซนอลอย่างสะใจหลังยิงประตูทีมเก่า ในเกมฟุตบอลหรือกีฬาอื่นๆ เป็นเรื่องไร้มารยาทและต้องห้าม
ระหว่างเพื่อนร่วมอาชีพและเพื่อนเคยร่วมค่าย "บายอร์" โหดเกินไป เขาจงใจย่ำหน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี อดีตคู่ขาในแดนหน้า และเหยียบน่อง เชส ฟราเบกาส หลังเกมเชสโชว์รอยแผล แล้วเปรยด้วยความรู้สึกไม่ค่อยดีนัก "เคยจ่ายบอลให้ยิงเยอะแยะ"
ผลกรรมตอบสนองอย่างรวดเร็ว สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ)สั่งห้าม "บายอร์" ลงเล่นเกมพรีเมียร์ชิป 3 นัด และอาจทิปให้อีก 1-2 นัด
แต่ "บายอร์" ในวัยเบญจเพสพลาดอีก เป็นความผิดพลาดนอกสนาม ในฐานะลูกผู้ชายเขาควรยอมรับในสิ่งที่ทำ ทว่า กลับปฏิเสธ โดยยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ เขากล่าวคำขอโทษ แต่ไม่รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป ณ เวลานี้เขาสูญเสียเพื่อนอย่างน้อย 1 คน เพราะ "เพอร์ซี" ไม่ยอมรับคำขอโทษ และสูญเสียความรักจากแฟนบอลอาร์เซนอล
แฟนบอลชาวไทยบางท่านคิดว่า เรื่องนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ ถ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี กับอาร์เซนอล ไม่พบกันเร็วเกินไป
ผมได้ดูคลิปสั้นๆ วันที่ปาทริซ เอวรา ชวน คาร์ลอส เตเบซ หอบเค้กวันเกิดไปเซอร์ไพรซ์ ปาร์ค จี ซอง ถึงอพาร์ตเมนต์ (กิจกรรมเล็กๆ แต่สำคัญนักหนา) สิ่งที่ผู้ชายสองคนทำให้ผู้ชายด้วยกัน เราสามารถสัมผัสความรักและความสนิทสนมระหว่างเพื่อนพ่อค้าต่างชาติที่ไปทำมาหากินนอกถิ่นเกิด
การจากแมนฯ ยูไนเต็ด ไป แมนฯ ซิตี ของเตเบซ อยู่ในสภาพ "จำใจ" เพราะเตเบซน้อยใจเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ไม่เชื่อมั่นฝีเท้าและไม่จริงจังใจการซื้อตัวเขา เตเบซจึงกล่าวพาดพิงนายเก่าอยู่ตลอดเวลา
ก่อนเกมแมนฯ ยูไนเต็ดกับแมนฯ ซิตี้ "บรมครู" กับ "ศิษย์รัก" มาร์ก ฮิวจส์ ต่อปากต่อคำอย่างเข้มข้นเผ็ดร้อนชวนไฟลุก ขณะเตเบซรอเช็คฟิตร่างกาย เขาจะได้ลงสนามหรือพลาดยังไม่อาจล่วงรู้ (ต้นฉบับเขียนเที่ยงวันอาทิตย์)
บางที "ดาร์บีแมตช์" เกมแรกแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ฤดูกาลนี้ อาจเป็นผลดีต่อ "เตเบซ" ก็เป็นได้ ถ้ามาร์ก ฮิวจส์ ตัดสินใจไม่ส่งกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ลงสนาม
ฟุตบอลกลมด้วยเส้นรอบวง นักฟุตบอลล้วนไต่อยู่บนวงรอบนั้น ไม่ไกลจากกันเลย ดูการแลกตัวสลับทีมระหว่าง ซามูเอล เอโต กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นตัวอย่าง จบเกมแชมเปียนส์ ลีก อินเตอร์ มิลานกับบาร์เซโลนา นักเตะเคยร่วมทีมทั้งสองฝ่ายเข้าทักทายสวมกอด แลกเสื้อกัน นักเตะทีมชาติเดียวกันเข้าสวมกอดกัน
คริสเตียน คิวู กองหลังชาวโรมาเนียของอินเตอร์ฯ กล่าวชื่นชมว่าฝีเท้าของลีโอเนล เมสซี ของชาวชาวอาร์เจนไตน์ของ "บาร์ซา" ว่ามหัศจรรย์เหนือธรรมชาติ
นักฟุตบอลหลายคนบรรลุนิติภาวะและเข้าถึงสัจธรรมในอาชีพค้าแข้งอันดุเดือด
