คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
หายหน้าหายตาไปชุบตัวนาน 2 เดือนเต็ม “ลุงแซม” ขออนุญาตกลับมาประจำการจับปากการขีดๆ เขียนๆ เนื้อหาสาระของกีฬาอเมริกันเกมส์บนพื้นที่คอลัมน์ “Final Quarter” ในหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีดังเดิม ซึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แต่เป็นกิจกรรมประจำปี นั่นก็คือการดราฟท์ตัวผู้เล่นระดับมหาวิทยาลัยขึ้นมาเล่นอาชีพ
ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ดีทรอยต์ ไลออนส์ เจ้าของสถิติปราชัยมันรวดทั้ง 16 เกมเมื่อฤดูกาลก่อน ใช้สิทธิดราฟท์ทีมแรกของปี 2009 คัดเลือก แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด ขึ้นมาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย จากที่ได้อ่านการให้เกรดของบรรดาสื่อมวลชนมะกัน หลายที่ให้เครดิต มาร์ติน เมย์ฮิว ผู้จัดการทั่วไป “สิงโต” กับการเลือกควอเตอร์แบ็กเข้ามาเป็นความหวังของเฟรนไชส์ แต่บางกระแสมองว่าทำไม ไลออนส์ ไม่เลือก เจสัน สมิธ ออฟเฟนซีฟ แท็คเกิล มาคอยป้องกัน ดันเต คัลเพพเพอร์ หรือ แอรอน เคอร์รี ไลน์แบ็กเกอร์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นฝีมือดีที่สุดในการดราฟท์ปีนี้
คงต้องยอมรับว่า “ควอเตอร์แบ็ก” คือหัวใจของทีม (อเมริกัน) ฟุตบอลอย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม “นัมเบอร์วัน ดราฟท์” 9 จาก 12 คนหลังสุดถึงเป็นผู้เล่นในตำแหน่งจอมทัพ แน่นอน สแตฟฟอร์ด อาจยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก จิม ชวาร์ทซ หัวหน้าโค้ชคนใหม่ของ ไลออนส์ แบบทันท่วงที คงต้องซักซ้อมแผนการเล่น ยืนศึกษาระบบของทีมด้วยการถือคลิปบอร์ด ดูฟิล์มการเล่นของ คัลเพพเพอร์ ไปพลางๆ ก่อน จับพลัดจับพลูขึ้นมาช่วงกลางๆ หรือปลายซีซั่น พ่อหนุ่มวัย 21 ปี น่าจะมีโอกาสลงสแน็ปบอลบ้าง
สำหรับ อเมริกัน ฟุตบอล หลายคนมองว่าปรัชญาแห่งความสำเร็จขึ้นอยู่กับ “ทีมรับ” แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ทีมบุก” สามารถเรียกแฟนๆ เข้าสนามได้อย่างล้นหลาม ดังนั้นการเรียกศรัทธาของ “สิงโต” คืนมาคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการดึงเอาความ “เอ็นเตอร์เทน” คืนสู่ฟอร์ด ฟิลด์ ใครจะไปรู้ สแตฟฟอร์ด อาจสร้างปรากฏการณ์ได้อย่าง แมตต์ ไรอัน อดีตดราฟท์คนที่ 3 ปีก่อนที่ขว้างระเบิดระเบ้อพา แอตแลนตา ฟอลคอนส์ บินถึงเพลย์ออฟ แม้ ณ ปัจจุบัน เหล่ซ้ายมองขวาไม่เห็นเหลี่ยมที่ ไลออนส์ จะปฏิบัติการเช่นนั้นได้ ทว่าชัยชนะเพียงแค่เกมเดียวในฤดูกาล 2009/10 ก็ถือเป็นกำไรแล้วมิใช่หรือ ในเมื่อทีมผ่านจุดต่ำสุดของประวัติศาสตร์มาแล้ว
จากพื้นที่ๆ จำกัดจำเขี่ย ขอรวบรัดการดราฟท์ของศึกคนชน ด้วยการสรุปผู้เล่นที่น่าสนใจ มาร์ค ซานเชซ ควอเตอร์แบ็กจาก USC มีลุ้นตัวจริงตั้งแต่ปีรุคกี มิฉะนั้น นิวยอร์ก เจ็ตส์ คงไม่ยอมเทรดสิทธิกับ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ขึ้นมาที่ 5 ส่วน ไมเคิล แครบทรี จะสานตำนาน เจอร์รี ไรซ์ ปีกนอกตำนาน ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ได้หรือไม่ สภาพร่างกายจะเป็นผู้ให้คำตอบ ขณะที่ โนว์ชอน โมเรโน ตัววิ่งคู่ใจของ สแตฟฟอร์ด มีโอกาสแจ้งเกิดสูง เนื่องจากไปอยู่กับ “ม้าป่า” เดนเวอร์ บรองโกส์ ที่เก่งกาจเหลือเกินในการปั้นรันนิงแบ็กประดับวงการ
ข้ามฟากมาทางศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กันบ้าง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และ แอลเอ เลเกอร์ส ทีมอันดับ 1 ของฝั่งตะวันออกและตะวันตก กรุยทางสู่รอบสองของเพลย์ออฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย “แคฟส์แมน” สอนเชิง ดีทรอยต์ พิสตันส์ ยุคเตรียมถ่ายเลือดครั้งใหญ่ 4-0 เกม ขณะที่ เลเกอร์ส สยบ ยูทาห์ แจซซ์ 4-1
ส่วน เดนเวอร์ นักเก็ตส์, ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ และ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ขึ้นแท่น 3-1 เกม ต้องถามไปยัง นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์, ปอร์ทแลนด์ เทลเบลเซอร์ส กับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ว่าจะปล่อยให้คู่แข่งร่วมคอนเฟอเรนซ์ ฉลุยง่ายๆ อย่างนั้นหรือ แต่ดูแนวโน้มแล้ว ฮอร์เนตส์ ยากแล้วที่จะคัมแบ็ก ด้าน ร็อคเก็ตส์ คงล้างอาถรรพ์ตกรอบแรก 4 ใน 5 ปีหลังสุดได้เสียที ด้าน สเปอร์ส การขาดหายไปของ มานู จิโนบิลี ส่งผลให้ภาระหนักตกอยู่กับ ทิม ดันแคน และ โทนี พาร์เกอร์ มากเกินไป สเปอร์ส ส่อตกรอบเร็วกว่าที่คิด
ทางฝั่งตะวันออก เลอบรอน เจมส์ และพลพรรค คาวาเลียร์ส คงภาวนาให้คู่แข่งอีก 6 ทีมที่เหลือบี้กันให้ถึงฎีกา (เกมที่ 7) กันไปเลย และอาจเป็นเช่นนั้นเมื่อ “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ งานหนักกว่าที่คิดเมื่อเจอ ฤทธิ์“กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก บูลส์ ขวิดไม่ปล่อย ด้าน ออร์แลนโด แมจิก ยังไม่ได้เปรียบ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส เช่นเดียวกับ แอตแลนตา ฮอว์คส กับ ไมอามี ฮีท ที่ซีรีส์เสมอกันอยู่ 2-2 เกม ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย ต้องคอยดูกัน
หายหน้าหายตาไปชุบตัวนาน 2 เดือนเต็ม “ลุงแซม” ขออนุญาตกลับมาประจำการจับปากการขีดๆ เขียนๆ เนื้อหาสาระของกีฬาอเมริกันเกมส์บนพื้นที่คอลัมน์ “Final Quarter” ในหนังสือพิมพ์ เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันพฤหัสบดีดังเดิม ซึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แต่เป็นกิจกรรมประจำปี นั่นก็คือการดราฟท์ตัวผู้เล่นระดับมหาวิทยาลัยขึ้นมาเล่นอาชีพ
ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ดีทรอยต์ ไลออนส์ เจ้าของสถิติปราชัยมันรวดทั้ง 16 เกมเมื่อฤดูกาลก่อน ใช้สิทธิดราฟท์ทีมแรกของปี 2009 คัดเลือก แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด ขึ้นมาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย จากที่ได้อ่านการให้เกรดของบรรดาสื่อมวลชนมะกัน หลายที่ให้เครดิต มาร์ติน เมย์ฮิว ผู้จัดการทั่วไป “สิงโต” กับการเลือกควอเตอร์แบ็กเข้ามาเป็นความหวังของเฟรนไชส์ แต่บางกระแสมองว่าทำไม ไลออนส์ ไม่เลือก เจสัน สมิธ ออฟเฟนซีฟ แท็คเกิล มาคอยป้องกัน ดันเต คัลเพพเพอร์ หรือ แอรอน เคอร์รี ไลน์แบ็กเกอร์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นฝีมือดีที่สุดในการดราฟท์ปีนี้
คงต้องยอมรับว่า “ควอเตอร์แบ็ก” คือหัวใจของทีม (อเมริกัน) ฟุตบอลอย่างแท้จริง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม “นัมเบอร์วัน ดราฟท์” 9 จาก 12 คนหลังสุดถึงเป็นผู้เล่นในตำแหน่งจอมทัพ แน่นอน สแตฟฟอร์ด อาจยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก จิม ชวาร์ทซ หัวหน้าโค้ชคนใหม่ของ ไลออนส์ แบบทันท่วงที คงต้องซักซ้อมแผนการเล่น ยืนศึกษาระบบของทีมด้วยการถือคลิปบอร์ด ดูฟิล์มการเล่นของ คัลเพพเพอร์ ไปพลางๆ ก่อน จับพลัดจับพลูขึ้นมาช่วงกลางๆ หรือปลายซีซั่น พ่อหนุ่มวัย 21 ปี น่าจะมีโอกาสลงสแน็ปบอลบ้าง
สำหรับ อเมริกัน ฟุตบอล หลายคนมองว่าปรัชญาแห่งความสำเร็จขึ้นอยู่กับ “ทีมรับ” แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “ทีมบุก” สามารถเรียกแฟนๆ เข้าสนามได้อย่างล้นหลาม ดังนั้นการเรียกศรัทธาของ “สิงโต” คืนมาคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการดึงเอาความ “เอ็นเตอร์เทน” คืนสู่ฟอร์ด ฟิลด์ ใครจะไปรู้ สแตฟฟอร์ด อาจสร้างปรากฏการณ์ได้อย่าง แมตต์ ไรอัน อดีตดราฟท์คนที่ 3 ปีก่อนที่ขว้างระเบิดระเบ้อพา แอตแลนตา ฟอลคอนส์ บินถึงเพลย์ออฟ แม้ ณ ปัจจุบัน เหล่ซ้ายมองขวาไม่เห็นเหลี่ยมที่ ไลออนส์ จะปฏิบัติการเช่นนั้นได้ ทว่าชัยชนะเพียงแค่เกมเดียวในฤดูกาล 2009/10 ก็ถือเป็นกำไรแล้วมิใช่หรือ ในเมื่อทีมผ่านจุดต่ำสุดของประวัติศาสตร์มาแล้ว
จากพื้นที่ๆ จำกัดจำเขี่ย ขอรวบรัดการดราฟท์ของศึกคนชน ด้วยการสรุปผู้เล่นที่น่าสนใจ มาร์ค ซานเชซ ควอเตอร์แบ็กจาก USC มีลุ้นตัวจริงตั้งแต่ปีรุคกี มิฉะนั้น นิวยอร์ก เจ็ตส์ คงไม่ยอมเทรดสิทธิกับ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ขึ้นมาที่ 5 ส่วน ไมเคิล แครบทรี จะสานตำนาน เจอร์รี ไรซ์ ปีกนอกตำนาน ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ได้หรือไม่ สภาพร่างกายจะเป็นผู้ให้คำตอบ ขณะที่ โนว์ชอน โมเรโน ตัววิ่งคู่ใจของ สแตฟฟอร์ด มีโอกาสแจ้งเกิดสูง เนื่องจากไปอยู่กับ “ม้าป่า” เดนเวอร์ บรองโกส์ ที่เก่งกาจเหลือเกินในการปั้นรันนิงแบ็กประดับวงการ
ข้ามฟากมาทางศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กันบ้าง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และ แอลเอ เลเกอร์ส ทีมอันดับ 1 ของฝั่งตะวันออกและตะวันตก กรุยทางสู่รอบสองของเพลย์ออฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย “แคฟส์แมน” สอนเชิง ดีทรอยต์ พิสตันส์ ยุคเตรียมถ่ายเลือดครั้งใหญ่ 4-0 เกม ขณะที่ เลเกอร์ส สยบ ยูทาห์ แจซซ์ 4-1
ส่วน เดนเวอร์ นักเก็ตส์, ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ และ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ขึ้นแท่น 3-1 เกม ต้องถามไปยัง นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์, ปอร์ทแลนด์ เทลเบลเซอร์ส กับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ว่าจะปล่อยให้คู่แข่งร่วมคอนเฟอเรนซ์ ฉลุยง่ายๆ อย่างนั้นหรือ แต่ดูแนวโน้มแล้ว ฮอร์เนตส์ ยากแล้วที่จะคัมแบ็ก ด้าน ร็อคเก็ตส์ คงล้างอาถรรพ์ตกรอบแรก 4 ใน 5 ปีหลังสุดได้เสียที ด้าน สเปอร์ส การขาดหายไปของ มานู จิโนบิลี ส่งผลให้ภาระหนักตกอยู่กับ ทิม ดันแคน และ โทนี พาร์เกอร์ มากเกินไป สเปอร์ส ส่อตกรอบเร็วกว่าที่คิด
ทางฝั่งตะวันออก เลอบรอน เจมส์ และพลพรรค คาวาเลียร์ส คงภาวนาให้คู่แข่งอีก 6 ทีมที่เหลือบี้กันให้ถึงฎีกา (เกมที่ 7) กันไปเลย และอาจเป็นเช่นนั้นเมื่อ “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ งานหนักกว่าที่คิดเมื่อเจอ ฤทธิ์“กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก บูลส์ ขวิดไม่ปล่อย ด้าน ออร์แลนโด แมจิก ยังไม่ได้เปรียบ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส เช่นเดียวกับ แอตแลนตา ฮอว์คส กับ ไมอามี ฮีท ที่ซีรีส์เสมอกันอยู่ 2-2 เกม ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย ต้องคอยดูกัน
