xs
xsm
sm
md
lg

"ผี" ซัลโวครึ่งหลังห้าลูกรวดพลิกหลอน "ไก่" 5-2 คืนจ่าฝูงลีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาทำ 5 ประตูรวดในช่วงครึ่งหลังจนพลิกกลับมาเอาชนะ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อย่างสวยงาม 5-2 พร้อมคืนบัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้ง ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 - 2 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

ผีแดง พลิกกลับมาชนะอย่างสุดมัน 5-2
แมนฯ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ใช้งาน แกรี เนวิลล์ ฟูลแบ็กประสบการณ์สูงหลังจากมีอาการบาดเจ็บในเกมนัดล่าสุด นอกจากนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพัก ไรอัน กิกส์ ปีกจอมเก๋าเป็นตัวสำรองในเกมนี้ อย่างไรก็ตามแดนหน้ายังคงน่ากลัวเพราะมีทั้ง เวย์น รูนีย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ คริสเตียโน โรนัลโด ขณะที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มีข่าวดีเมื่อ เลดลีย์ คิง ปราการหลังกัปตันทีมฟิตกลับมาลงสนามได้ แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน โรมัน พาฟลูเชนโก กองหน้าชาวรัสเซียที่บาดเจ็บ

เริ่มเกมครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองเกมเหนือกว่าเล็กน้อยและพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ แต่กลายเป็นทีมเยือนที่เกือบทำประตูออกนำก่อนในนาทีที่ 7 เมื่อ เจนาส ถ่ายบอลมาให้ เลนนอน ทางริมเส้นด้านขวาก่อนวางบอลเข้าเขตโทษ บอลลอยข้ามหัว เฟอร์ดินานด์ หลุดไปถึง เบนท์ ทางเสาสองได้โหม่งมุมแคบ แต่ยังดีที่ ฟาน เดอ ซาร์ ออกมาปิดเสาบล็อกออกหลังไปได้ทัน
ราฟาเอล ขึ้นโหม่งบอลสูงกว่า โมดริซ
เกมกลับมาสูสี เจ้าถิ่นยังหาจังหวะส่องประตู "ตราไก่" แบบชัดเจนไม่ได้ โดยมามีลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลาในนาที 20 โรนัลโด ลองกดเต็มข้อ บอลพุ่งส่ายเข้าหาประตู โกเมซ รับซองแตกเล็กน้อย แต่ตามมาเก็บบอลได้ในจังหวะที่สอง อีก 4 นาทีต่อมา นานี ได้บอลตรงริมเส้นด้านซ้าย สับหลอกกองหลัง 2-3 จังหวะ ก่อนเปิดเข้ากลาง โรนัลโด ได้ลอยตัวโหม่ง แต่โดนไม่เต็มศีรษบอลหลุดออกหลังไป

มาถึงนาที 26 นาที นาที ทำเกมขึ้นมาทางซ้ายอีกครั้ง ก่อนตวัดเข้ากลาง เบอร์บาตอฟ จับไม่อยู่ถูกกองหลังเคลียร์ทิ้ง บอลมาเข้าทาง คาร์ริก กระแทกบอลให้ รูนีย์ อัดเต็มแรงจากนอกเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไปอีก แต่แล้วอีก 3 นาทีต่อมา สเปอร์ส กลับเป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 อย่างพลิกความคาดหมายเมื่อ ชอร์ลูกา เปิดบอลจากริมเส้นด้านขวาเข้าเขตโทษ บอลลอยข้ามหัว วิดิช ไปถึง เบนท์ ที่เบียดชนะ เฟอร์ดินานด์ จนได้ซัดเต็มข้อหน้าประตูบอลตุงตาข่าย

เกมรับของแชมป์เก่าชักมีปัญหาจนมาเสียประตูอีกจนได้ในนาที 32 เริ่มจากจังหวะที่ เลนนอน ได้บอลตรงริมเขตโทษด้านขวา ก่อนโยกหลอก เอฟรา หลุดไปเปิดเข้ากลาง บอลเลยไปทางเสาสองถึง โมดริซ ที่ยืนอยู่โล่งๆ พักบอลลง ก่อนซัดสวนตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่พยายามออกมาปิดมุมเข้าประตูไปให้สกอร์หนีห่างเป็น 2-0

หลังถูกนำห่าง "ผีแดง" โหมบุกกดดัน ราฟาเอล เติมเกมขึ้นมายิงตรงหน้าเขตโทษ แต่เบาเกินไปถูก โกเมซ รับได้อย่างไม่มีปัญหา มาถึงนาที 37 เจ้าถิ่นเกือบทวงประตูคืนจากลูกฟรีคิก โรนัลโด เจ้าเก่ารับหน้าที่สังหารเหมือนเดิม จังหวะแรกอัดบอลเต็มแรงโดนกำแพง แต่ยังกระดอนมาเข้าทางตามซ้ำจังหวะสองด้วยหลังเท้า บอลย้อยเกือบมุดเสียบสามเหลี่ยม แต่ โกเมซ ถอยปัดทิ้งออกหลังอย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้จบ 45 นาทีแรก สเปอร์ส นำ 2-0

เริ่มเกมครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด โหมบุกเข้าใส่ทันทีเพื่อหวังทวงประตูคืน แต่ต้องรอถึงนาที 53 จึงมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดจากจังหวะต่อบอลทำเกมรุกกันขึ้นมาอย่างสวยงาม ก่อนสุดท้ายบอลมาถึง เบอร์บาตอฟ หน้าเขตโทษ ปาดต่อให้ โรนัลโด ทางริมกรอบเขตโทษ กระแทกบอลเร็วให้ เตเบซ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ โกเมซ โชว์ซูเปอร์เซฟใช้ขาสกัดออกหลังไป
โรนัลโด ถอดเสื้อหลังซัดประตูพลิกนำ
แต่เมื่อถึงนาที 57 แชมป์เก่าทำประตูไล่ขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จจากจังหวะที่ คาร์ริก หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษจนถูก โกเมซ ที่พยายามออกมาตัดบอลทำฟาวล์ล้มลง กรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันทีพร้อมควักใบเหลืองให้นายทวารชาวบราซิล โดย โรนัลโด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดอัดตรงกลางประตูให้สกอร์ขยับเป็น 1-2

สเปอร์ส พยายามเปิดเกมบุกเพื่อทำประตูหนีห่างอีกครั้ง แต่ยังไม่เด็ดขาดพอพลาดโอกาสไป กลายเป็น "ผีแดง" ตามมาตีเสมอจนได้เมื่อถึงนาที 67 จากจังหวะโต้กลับเร็ว ก่อนที่สุดท้าย รูนีย์ จะได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย เลี้ยงจี้เข้าหาเขตโทษแล้วตัดสินใจยิง บอลลอดขา ชอร์ลูกา พุ่งเข้ากรอบประตูเต็มแรง โกเมซ ปัดไม่อยู่ บอลหลุดเข้าซุกก้นตาข่ายให้เจ้าบ้านตีเสมอ 2-2

เพียงอึดใจเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกขึ้นนำเป็น 3-2 อย่าง คราวนี้ รูนีย์ เป็นผู้เปิดจากริมเส้นด้านซ้ายมาให้ โรนัลโด พุ่งโขกเต็มๆ บอลตุงตาข่ายหมดสิทธิ์ที่ โกเมซ จะป้องกัน เกมรับของ "ไก่เดือยทอง" ยังป้อแป้จนมาถูกยิงอีกลูกในนาที 71 จากการที่ โรนัลโด วางบอลไปทางเสาสองให้ รูนีย์ พักบอลลงก่อนสับไกยิงเต็มแรง วูดเกต กองหลังทีมเยือนพยายามมาเคลียร์ทิ้งหน้าประตู แต่ลูกข้ามเส้นไปแล้วทำให้สกอร์หนีห่างเป็น 4-2

อีก 2 นาทีต่อมา สเปอร์ส มีลูกฮึดเกือบทำประตูไล่คืนมา เมื่อ เบนท์ ได้บอลตรงมุมเขตโทษ โยกหนีกองหลังเจ้าบ้าน ก่อนจะพยายามปั่นไซด์โค้งให้เข้าประตู แต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว มาถึงนาที 79 เกมโต้กลับอันมีประสิทธิภาพของ "ผีแดง" มาแผลงฤทธิ์อีกจนได้ เริ่มจาก เบอร์บาตอฟ ป่ายบอลต่อให้ รูนีย์ ทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเปิดกลับเข้ากลางและเป็นดาวยิงชาวบัลแกเรียตามมาโหม่งเข้าประตูไปทำให้สกอร์นำห่าง 5-2

เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ยังบุกต่อและเกือบมาได้ประตูเพิ่มจากลูกยิงของ โรนัลโด ที่ได้กระชากขึ้นมายิงตรงหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาสองออกไป ส่วน สเปอร์ส มีโอกาสสุดท้ายแต่ลูกยิงของ เลนนอน ทำได้เพียงเข้าข้างตาข่าย หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาที "ผีแดง" พลิกกลับมาชนะไปอย่างสุดมันส์ 5-2 พร้อมขึ้นมาครองบัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้งด้วยการมี 77 คะแนนเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ทีมอันดับสองอยู่ 3 คะแนนและแข่งน้อยกว่า 1 นัด

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, ราฟาเอล, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไมเคิล คาร์ริก, นานี, คริสเตียโน โรนัลโด, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ,เวย์น รูนีย์
สเปอร์ส : โกเมซ, เลดลีย์ คิง, โจนาธาน วูดเกต, เบนัวต์ แอสซู-เอก็อตโต, เวดรัน ชอร์ลูกา, วิลสัน ปาลาซิออส, เจอร์แมน เจนาส, ลูกา โมดริซ, อารอน เลนนอน, ดาร์เรน เบนท์, ร็อบบี คีน

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
โบลตัน เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1
[0-1 : แอชลีย์ ยัง น.43], [1-1 : ทามีร์ โคเฮน น.60]
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ซิตี 1-2
[0-1 : โรบินโญ น.35], [0-2 : สตีเฟน ไอร์แลนด์ น.54], [1-2 : แดน กอสลิง น.90]
ฟูแล่ม ชนะ สโต๊ค 1-0
[1-0 : เอริก เนฟแลนด์ น.29]
ฮัลล์ ซิตี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
[0-1 : ชาบี อลอนโซ น.45], [0-2 : เดิร์ก เคาท์ น.63], [1-2 : โจวานนี น.72], [1-3 : เดิร์ก เคาท์ น.89]
เวสต์บรอมวิช ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0
[1-0 : โฮนาส โอลส์สัน น.40], [2-0 : คริส บรันท์ น.58], [3-0 : ฮวน คาร์ลอส เมนเซเกซ น.88]
เวสต์แฮม แพ้ เชลซี 0-1
[0-1 : ซาโลมง กาลู น.55]
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ สเปอร์ส 5-2
[0-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.29], [0-2 : ลูกา โมดริซ น.32], [1-2 : คริสเตียโน โรนัลโด ลูกจุดโทษ น.57], [2-2 : เวย์น รูนีย์ น.67], [3-2 : คริสเตียโน โรนัลโด น.68], [4-2 : เวย์น รูนีย์ น.71], [5-2 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.79]
กำลังโหลดความคิดเห็น