แม้ผลงานในสนามของ อาร์เซนอล จะยังทรุดๆ ทรงๆ แต่สภาวะทางการเงินของสโมสรกลับสวนกระแสไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยล่าสุดมีการเปิดเผยผลกำไรก่อนหักภาษีช่วง 6 เดือนออกมาว่าเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 4.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 234 ล้านบาท)
ผลกำไรก่อนหักภาษีของ “ปืนใหญ่” ช่วง 6 เดือนครั้งล่าสุดซึ่งนับจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2008 อยู่ที่ 24.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,274 ล้านบาท) โดยถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดิมในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2007 ซึ่งทำได้ 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,040 ล้านบาท)
สำหรับสาเหตุที่ผลกำไรของ เดอะ กันเนอร์ส พุ่งทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นมาจากการย้ายสนามเหย้ามายัง เอมิเรตส์ สเตเดียม ที่มีความจุสูงกว่าเดิม 2 เท่า ทำให้มีเงินหมุนเวียนเฉลี่ยในวันที่มีการแข่งขันเพิ่มเป็น 44.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,309 ล้านบาท) มากขึ้นถึง 3.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 171.6 ล้านบาท) ขณะที่รายได้จากการถ่ายทอดสดก็ดีดตัวสูงขึ้นเป็น 28.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,503 ล้านบาท)
นอกจากนั้น อาร์เซนอล เตรียมมีแหล่งทำรายได้เพิ่มอีกทาง เมื่อโครงการก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ขนาด 186 ห้อง มูลค่า 76.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,988 ล้านบาท) บน ไฮบิวรี สแควร์ ซึ่งเป็นพื้นที่สังเวียนนัดเหย้าแห่งเดิมใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเวลานี้ทำยอดขายล่วงหน้านับจนถึงเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาได้ถึง 58.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,021 ล้านบาท)
ด้าน ปีเตอร์ ฮิลล์-วูด ประธานสโมสรปืนใหญ่พูดถึงสภาพคล่องทางการเงินของทีมว่า "ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้สโมสรยืนหยัดอยู่ได้ท่ามมกลางภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ นับจากนี้ไปจะมีความท้าทายอีกมากรอเราอยู่ทั้งในและนอกสนาม ตลอดปีงบประมาณปีนี้และในอนาคต"