“ห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน บุกกระซวก “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 3-1 ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ขณะที่ “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก 04 เปิดบ้านเบียดชนะ “หญิงชรา” แฮร์ธา เบอร์ลิน 1-0
บรูโน ลาบบาเดีย หวังพา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ขุนฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้หลังบู่ไปหลายนัด เกมนี้มาเยือน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค โดยไม่มี อาร์ตูโร วิดัล ตัวรับทีมชาติชิลีที่ติดโทษแบน แต่แนวรุกยังครบครันทั้ง สเตฟาน คีสลิงก์ และ พาทริค เฮลเมส ด้านเจ้าบ้านที่อยู่ท้ายตารางยังฝากความหวังไว้ที่ มาร์โค มาริน เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนี
เกมครึ่งแรกรูปเกมออกมาค่อนข้างสูสี แต่ความแตกต่างที่เกิดขึ้นในจังหวะความเฉียบคมของกองหน้าทำให้ เลเวอร์คูเซน ขึ้นนำ 1-0 จาก คีสลิงก์ ในนาทีที่ 25 จากนั้นก่อนหมดครึ่งแรก 8 นาที คีสลิงก์ หัวหอกร่างโย่งทีมชาติเยอรมนีมาเบิ้ลสกอร์ให้ตัวเองสำเร็จส่ง “ห้างขายยา” ทิ้งห่าง 2-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังไปเก้านาที เกมเริ่มขาดเมื่อ เลเวอร์คูเซน มาทิ้งไปไกล 3-0 จาก เฮลเมส อีกหนึ่งดาวรุ่งวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มแฟนๆ “สิงห์หนุ่ม” ได้เฮกันบ้างเมื่อต้นสังกัดไล่มา 1-3 จากฟรีคิกของ มาริน ที่โยนให้ โทนี แยนท์สเก โขกไม่เหลือ แต่ครบ 90 นาทีก็ไม่มีสกอร์เพิ่ม
จากชัยชนะนัดนี้ส่งให้ เลเวอร์คูเซน ขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง 16 นัดเก็บได้ 31 คะแนน ตามหลัง โฮฟเฟนไฮม์ และ บาเยิร์น มิวนิค 2 ทีมนำแค่ 3 แต้ม ขณะที่ กลัดบัค จมบ๊วยของตารางต่อไป เพราะเพิ่งมีเพียง 11 คะแนน
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งที่น่าสนใจ ประตูชัยของ เกราร์ล อซาโมอาห์ ในครึ่งหลังช่วยให้ ชาลเก 04 เปิดบ้านเฉือนชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 1-0 ต่ออายุการทำงานให้แก่ เฟร็ด รุทเทน กุนซือชาวดัตช์ ขณะที่ “หญิงชรา” หยุดสถิติชนะรวดไว้แค่ 3 นัด
ผลฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี ประจำคืนวันเสาร์
อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ 0-0 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 4-0 โบคุม
[1-0 : นิคอส ลิเบอโรปูลอส (จุดโทษ น.7) , 2-0 : นิคอส ลิเบอโรปูลอส (น.43) , 3-0 : มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์ (น.62) , 4-0 : มาร์โก รุสส์ (น.64)]
เอเนร์กี ค็อตบุส 0-3 สตุดการ์ท
[0-1 : โรแบร์โต ฮิลเบิร์ต (น.4) , 0-2 : แยน ซิมัค (น.63) , 0-3 : เซมี เคดิรา (น.68)]
คาร์ลสรูห์ 1-0 แวร์เดอร์ เบรเมน
[1-0 : สเตฟาน บุค (น.83)]
โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 1-3 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
[0-1 : สเตฟาน คีสลิงก์ (น.25) , 0-2 : สเตฟาน คีสลิงก์ (น.37) , 0-3 : พาทริค เฮลเมส (น.54) , 1-3 : โทนี แยนท์ชเก (น.61)]
ชาลเก 1-0 แฮร์ธา เบอร์ลิน
[1-0 : เกราร์ล อซาโมอาห์ (น.65)]
บรูโน ลาบบาเดีย หวังพา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ขุนฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้หลังบู่ไปหลายนัด เกมนี้มาเยือน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค โดยไม่มี อาร์ตูโร วิดัล ตัวรับทีมชาติชิลีที่ติดโทษแบน แต่แนวรุกยังครบครันทั้ง สเตฟาน คีสลิงก์ และ พาทริค เฮลเมส ด้านเจ้าบ้านที่อยู่ท้ายตารางยังฝากความหวังไว้ที่ มาร์โค มาริน เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนี
เกมครึ่งแรกรูปเกมออกมาค่อนข้างสูสี แต่ความแตกต่างที่เกิดขึ้นในจังหวะความเฉียบคมของกองหน้าทำให้ เลเวอร์คูเซน ขึ้นนำ 1-0 จาก คีสลิงก์ ในนาทีที่ 25 จากนั้นก่อนหมดครึ่งแรก 8 นาที คีสลิงก์ หัวหอกร่างโย่งทีมชาติเยอรมนีมาเบิ้ลสกอร์ให้ตัวเองสำเร็จส่ง “ห้างขายยา” ทิ้งห่าง 2-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังไปเก้านาที เกมเริ่มขาดเมื่อ เลเวอร์คูเซน มาทิ้งไปไกล 3-0 จาก เฮลเมส อีกหนึ่งดาวรุ่งวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มแฟนๆ “สิงห์หนุ่ม” ได้เฮกันบ้างเมื่อต้นสังกัดไล่มา 1-3 จากฟรีคิกของ มาริน ที่โยนให้ โทนี แยนท์สเก โขกไม่เหลือ แต่ครบ 90 นาทีก็ไม่มีสกอร์เพิ่ม
จากชัยชนะนัดนี้ส่งให้ เลเวอร์คูเซน ขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง 16 นัดเก็บได้ 31 คะแนน ตามหลัง โฮฟเฟนไฮม์ และ บาเยิร์น มิวนิค 2 ทีมนำแค่ 3 แต้ม ขณะที่ กลัดบัค จมบ๊วยของตารางต่อไป เพราะเพิ่งมีเพียง 11 คะแนน
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งที่น่าสนใจ ประตูชัยของ เกราร์ล อซาโมอาห์ ในครึ่งหลังช่วยให้ ชาลเก 04 เปิดบ้านเฉือนชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 1-0 ต่ออายุการทำงานให้แก่ เฟร็ด รุทเทน กุนซือชาวดัตช์ ขณะที่ “หญิงชรา” หยุดสถิติชนะรวดไว้แค่ 3 นัด
ผลฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี ประจำคืนวันเสาร์
อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ 0-0 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 4-0 โบคุม
[1-0 : นิคอส ลิเบอโรปูลอส (จุดโทษ น.7) , 2-0 : นิคอส ลิเบอโรปูลอส (น.43) , 3-0 : มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์ (น.62) , 4-0 : มาร์โก รุสส์ (น.64)]
เอเนร์กี ค็อตบุส 0-3 สตุดการ์ท
[0-1 : โรแบร์โต ฮิลเบิร์ต (น.4) , 0-2 : แยน ซิมัค (น.63) , 0-3 : เซมี เคดิรา (น.68)]
คาร์ลสรูห์ 1-0 แวร์เดอร์ เบรเมน
[1-0 : สเตฟาน บุค (น.83)]
โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 1-3 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
[0-1 : สเตฟาน คีสลิงก์ (น.25) , 0-2 : สเตฟาน คีสลิงก์ (น.37) , 0-3 : พาทริค เฮลเมส (น.54) , 1-3 : โทนี แยนท์ชเก (น.61)]
ชาลเก 1-0 แฮร์ธา เบอร์ลิน
[1-0 : เกราร์ล อซาโมอาห์ (น.65)]