xs
xsm
sm
md
lg

ฟุตบอลชาย ฮังการี “มหัศจรรย์ แมกยาร์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฮังการี ปี 1964 ชุดคว้าเหรียญทองที่ โตเกียว
ในเวทีลูกหนังโลกเราอาจจะยกให้ บราซิล เป็นที่สุดของที่สุดเหนือชาติใดในผืนปฐพี จากดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุดตลอดกาล 5 ถึงสมัย ทว่าในศึกโอลิมปิก ขุนพลลูกหนังแซมบ้ายังไม่เคยก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เต็มที่ก็ได้เพียงขึ้นแท่นรับเหรียญเงิน 2 สมัยในปี 1984-1988 เท่านั้น

หากพลิกแฟ้มย้อนหลังกลับไปดูประวัติศาสตร์ของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติจะพบว่า ฮังการี คือจ้าวแห่งทีมฟุตบอลชายตัวจริง ซึ่งสามารถผงาดคว้าเหรียญทองมาคล้องคอได้มากที่สุดถึง 3 สมัย นอกจากนั้นยังเคยได้เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงอีกอย่างละเหรียญ รวมทั้งสิ้น 5 เหรียญ มากกว่า สหราชอาณาจักร ที่เป็นแชมป์ 3 ครั้งเท่ากัน แต่นอกจากเหรียญทองแล้วก็ไม่เคยได้เหรียญอื่นเลย

สำหรับบทปฐมฤกษ์แห่งความยิ่งใหญ่ของแข้งแมกยาร์บนเวทีโอลิมปิกเกมส์นั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 1952 ซึ่งถือเป็นยุคทองของวงการฟุตบอลฮังการีเลยทีเดียว จากการก้าวขึ้นมาพร้อมๆ กันของบรรดานักเตะฝีเท้าฉกาจ นำโดย “เดอะ ไมท์ตี้ แมกยาร์” เฟเรนซ์ ปุสกัส ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดเท่าที่ฮังการีเคยมีมา นอกจากนั้นยังมี ซานดอร์ ค็อกซิส, โซลตัน ซิบอร์, โจเซฟ บอสซิค และ นานดอร์ ฮิเดกคูติ เป็นแกนหลักของทีม

ขุนพลดังกล่าวได้รับการขนานนามว่า “เมจิก แมกยาร์” และในการแข่งขันที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ปี 1952 ก็จัดการปราบ ยูโกสลาเวีย ที่มี วูยาดิน บอสคอฟ และ บรังโก้ เซเบ็ค เป็นคีย์แมนไป 2-0 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลชายครั้งแรกมาครองได้สำเร็จ

จากนั้น พลพรรคแมกยาร์ ก็มาต่อยอดความมหัศจรรย์ด้วยการบรรเลงเพลงแข้งอันน่าตื่นตาตื่นใจในศึกฟุตบอลโลก ปี 1954 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การทำทีมของกุนซือ กุสตาฟ เซเบส โดยจัดการสอนบอล เยอรมนี ตะวันตก แบบห่างชั้น 8-3 ตามด้วยการโค่นมหาอำนาจในยุคนั้นอย่าง อุรุกวัย และ บราซิล เข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่สุดท้ายกลับมาพ่ายให้ “อินทรีเหล็ก” ที่ต้อนตือมาในรอบแรกอย่างหวุดหวิด 2-3 ได้เพียงแค่รองแชมป์โลกอย่างน่าเสียดาย

แม้จะได้รับสถานะ “ราชาไร้บัลลังก์” มาจากศึกเวิลด์คัพที่แดนนาฬิกา และไม่เคยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีกเลยจนถึงทุกวันนี้ เแต่ทัพลูกหนังฮังการียังครองความยิ่งใหญ่ในการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ แม้ในปี 1960 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งมี ฟลอเรียน อัลเบิร์ต เป็นซูเปอร์สตาร์ของทีมจะทำได้เพียงคว้าเหรียญทองแดงจากการเฉือนเจ้าภาพ 2-1 แต่ขุนพลแมกยาร์ ก็กลับมาผงาดได้อีกครั้งจากการครองแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน ก่อนจะสิ้นสุดยุครุ่งเรืองของ ฮังการี ด้วยการปราชัยต่อ โปแลนด์ ที่มี เกอร์เซกอร์ซ ลาโต้ ดาวยิงฝีเท้าจัดเป็นตัวชูโรงในรอบตัดสินด้วยสกอร์ 1-2 คว้าเหรียญเงินมาคล้องคอเป็นเหรียญสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ฮังการี บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะยังเป็นสถิติคงกะพันที่ยากจะหาทีมลูกหนังชาติใดขึ้นมาทัดเทียมได้ในอนาคตอันใกล้นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น