นายศักดิ์ชาย เนตรอาภา สตาฟฟ์โค้ชทีมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ กับ เหล่านักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของทีมสมุทรปราการ ส่อที่จะโดนโทษสถานหนักเสียแล้ว หลังจากในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้ต่างเข้าไปทำร้ายผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในสนาม เนื่องจากไม่พอใจกับการตัดสินจนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน
เหตุฉาวในวงการลูกหนังไทยยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ ลีก ที่ สนามเทพหัสดิน ระหว่าง ทีม"สิงห์อมควัน"พนักงานยาสูบ กับ "สิงห์กล้วยน้ำไทย"มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเกมนี้เป็น ม.กรุงเทพ ที่เอาชนะไปได้ 1-0 แต่ภายหลังจบเกม นายศักดิ์ชาย เนตรอาภา สตาฟฟ์โค้ชทีมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไม่พอใจการตัดสินของ นิติภูมิ กุลบุตร ผู้ตัดสินในสนาม และได้ตรงเข้าไปผลักหมายทำร้าย แต่โชคดีที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเข้ามาห้ามไว้ได้ไม่มีเรื่องบานปลายแต่อย่างใด
ในขณะที่ การแข่งขันฟุตบอลลีก ดิวิชั่น2 ระหว่างทีมสมุทรปราการ กับ ราชบุรี ก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้น เมื่อ ธีระพงษ์ ราชดุษฎี นักเตะสมุทรปราการ ที่ถูกไล่ออกจากสนามไปนั้น ได้เกิดบันดาลโทสะวิ่งเข้าไปชก ชัยรัตน์ เพ็ชรต้อม ผู้ตัดสินในเกมนัดดังกล่าว แต่ดีที่ผู้ตัดสินปัดป้องไว้ได้ จากนั้นทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของสมุทรปราการ ก็วิ่งเข้ามาในสนามจะเอาเรื่องผู้ตัดสินอีกด้วย แต่โชคดีที่บรรดาผู้ควบคุมการแข่งขัน และผู้ช่วยผู้ตัดสินเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ทำให้เกมดำเนินต่อไปได้
ล่าสุดจากเหตุการณ์ความรุนแรงในเกมทั้ง 2 สนามนั้น ผู้ตัดสินตลอดจนเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดย“เสธ.เอ็กซ์”พลตรีฐิติวัชร์ กำลังเอก ประธานคณะกรรมการฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯได้ออกมากล่าวว่า "เรื่องนี้ตนไม่ยอมเด็ดขาด การทำงานของสมาคมฯมีขั้นตอนอยู่แล้ว หากผู้ตัดสินผิดพลาดในการทำหน้าที่ สามารถทำเรื่องเสนอมายังสมาคมฯ หากมีเทปการแข่งขันยิ่งดี ถ้าผู้ตัดสินเราผิดจริง คณะกรรมการผู้ตัดสินพิจารณาลงโทษอย่างแน่นอน เหมือนกับที่หลายๆครั้งเราทำมาแล้ว แต่การกระทำแบบนี้ ขาดซึ่งความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มาทำร้ายผู้ตัดเป็นสิ่งไม่สมควร เรื่องนี้ตนสั่งผู้เกี่ยวข้องให้เร่งทำทุกอย่าง เพื่อสรุปเรื่องให้เร็วที่สุด"
ประธานเชิ้ตดำของสมาคมลูกหนังกล่าวต่ออีกว่าที่ผ่านมา "หลายสนามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้ไม่สมบูรณ์แบบ ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้ตัดสิน จากนี้ไปตนได้กำชับกับผู้ตัดสินไปแล้วว่า ไม่ต้องกลัวเกิดการเสียหายกับโปรแกรมการแข่งขัน หากสนามแข่งขันดังกล่าวขาดความพร้อม ไม่ต้องลงทำการแข่งขันอย่างเด็ดขาด ถ้ามัวแต่เกรงอกเกรงใจกัน ปัญหาจะมีตามมาให้แก้ไม่จบสิ้น ถ้าสโมสรไหนไม่พร้อม ตนว่าต้องมีการพิจารณากันใหม่ในฤดูกาลหน้า ว่าจะเอาอย่างไร"
ด้าน นายอุดม อนันตพงศ์ ประธานฝ่ายพิจารณามารยาทวินัย และข้อประท้วง ได้เผยว่า "การทำร้ายผู้ตัดสินที่ผ่านมา ตามระเบียบแล้วจะต้องโดนลงโทษจากสมาคมฯ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่สมาคมฟุตบอลดุแลอยู่ตลอดชีวิต ซึ่งกรณีดังกล่าวจะเป็นแนวทางเดียวกัน ตนจะเชิญคณะกรรมการประชุมให้เร็วและเด็ดขาดที่สุด"
เหตุฉาวในวงการลูกหนังไทยยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ในการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ ลีก ที่ สนามเทพหัสดิน ระหว่าง ทีม"สิงห์อมควัน"พนักงานยาสูบ กับ "สิงห์กล้วยน้ำไทย"มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเกมนี้เป็น ม.กรุงเทพ ที่เอาชนะไปได้ 1-0 แต่ภายหลังจบเกม นายศักดิ์ชาย เนตรอาภา สตาฟฟ์โค้ชทีมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ไม่พอใจการตัดสินของ นิติภูมิ กุลบุตร ผู้ตัดสินในสนาม และได้ตรงเข้าไปผลักหมายทำร้าย แต่โชคดีที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเข้ามาห้ามไว้ได้ไม่มีเรื่องบานปลายแต่อย่างใด
ในขณะที่ การแข่งขันฟุตบอลลีก ดิวิชั่น2 ระหว่างทีมสมุทรปราการ กับ ราชบุรี ก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้น เมื่อ ธีระพงษ์ ราชดุษฎี นักเตะสมุทรปราการ ที่ถูกไล่ออกจากสนามไปนั้น ได้เกิดบันดาลโทสะวิ่งเข้าไปชก ชัยรัตน์ เพ็ชรต้อม ผู้ตัดสินในเกมนัดดังกล่าว แต่ดีที่ผู้ตัดสินปัดป้องไว้ได้ จากนั้นทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของสมุทรปราการ ก็วิ่งเข้ามาในสนามจะเอาเรื่องผู้ตัดสินอีกด้วย แต่โชคดีที่บรรดาผู้ควบคุมการแข่งขัน และผู้ช่วยผู้ตัดสินเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ทำให้เกมดำเนินต่อไปได้
ล่าสุดจากเหตุการณ์ความรุนแรงในเกมทั้ง 2 สนามนั้น ผู้ตัดสินตลอดจนเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดย“เสธ.เอ็กซ์”พลตรีฐิติวัชร์ กำลังเอก ประธานคณะกรรมการฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯได้ออกมากล่าวว่า "เรื่องนี้ตนไม่ยอมเด็ดขาด การทำงานของสมาคมฯมีขั้นตอนอยู่แล้ว หากผู้ตัดสินผิดพลาดในการทำหน้าที่ สามารถทำเรื่องเสนอมายังสมาคมฯ หากมีเทปการแข่งขันยิ่งดี ถ้าผู้ตัดสินเราผิดจริง คณะกรรมการผู้ตัดสินพิจารณาลงโทษอย่างแน่นอน เหมือนกับที่หลายๆครั้งเราทำมาแล้ว แต่การกระทำแบบนี้ ขาดซึ่งความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มาทำร้ายผู้ตัดเป็นสิ่งไม่สมควร เรื่องนี้ตนสั่งผู้เกี่ยวข้องให้เร่งทำทุกอย่าง เพื่อสรุปเรื่องให้เร็วที่สุด"
ประธานเชิ้ตดำของสมาคมลูกหนังกล่าวต่ออีกว่าที่ผ่านมา "หลายสนามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้ไม่สมบูรณ์แบบ ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับผู้ตัดสิน จากนี้ไปตนได้กำชับกับผู้ตัดสินไปแล้วว่า ไม่ต้องกลัวเกิดการเสียหายกับโปรแกรมการแข่งขัน หากสนามแข่งขันดังกล่าวขาดความพร้อม ไม่ต้องลงทำการแข่งขันอย่างเด็ดขาด ถ้ามัวแต่เกรงอกเกรงใจกัน ปัญหาจะมีตามมาให้แก้ไม่จบสิ้น ถ้าสโมสรไหนไม่พร้อม ตนว่าต้องมีการพิจารณากันใหม่ในฤดูกาลหน้า ว่าจะเอาอย่างไร"
ด้าน นายอุดม อนันตพงศ์ ประธานฝ่ายพิจารณามารยาทวินัย และข้อประท้วง ได้เผยว่า "การทำร้ายผู้ตัดสินที่ผ่านมา ตามระเบียบแล้วจะต้องโดนลงโทษจากสมาคมฯ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่สมาคมฟุตบอลดุแลอยู่ตลอดชีวิต ซึ่งกรณีดังกล่าวจะเป็นแนวทางเดียวกัน ตนจะเชิญคณะกรรมการประชุมให้เร็วและเด็ดขาดที่สุด"