ความพ่ายแพ้ต่อ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส เพียงแค่เกมเดียวคงบั่นทอนกำลังใจของเหล่า “นักรบกู้ชาติ” ไปไม่มากก็น้อย ในทางกลับกันหาก นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ บุกไปล้ม “ยักษ์ใหญ่” ถึงไจแอนท์ส สเตเดี้ยม ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลปกติ นั่จะหมายความว่าประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการคนชนคน อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) กำลังจะเกิดขึ้น
ย้อนรอยฤดูกาลอันสมบูรณ์แบบ
ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส, ดัลลัส คาวบอยส์ และพิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส อาจคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลมาครองอย่างยิ่งใหญ่ทีมละ 5 สมัย ทว่า ดอน ชูลา ตำนานโค้ชแห่งเอ็นเอฟแอลและผองพวก “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ ชุดปี 1972 กลับทำให้ทุกคนในวงการคนชนคนยังคงระลึกถึงพวกเขาในรูปแบบของความ “สมบูรณ์แบบ” หลังช่วยกันขึ้นไปเถลิงซูเปอร์โบว์ล (ครั้งที่ 7) โดยไม่แพ้ให้แก่ทีมใดตลอดทั้งซีซั่น (17-0 เกม)
อย่างไรตาม ทุกมันสมองในการคุมทีมของ ชูลา ทุกทัชดาวน์ที่ขว้างโดย บ็อบ กรีซีย์ หรือทุกระยะทางการบุกที่ ลาร์รี ซองกา ถือบอลวิ่งไปข้างหน้า กำลังถูกท้าทายโดย บิลล์ บีลิชิก หัวหน้าโค้ชจอมวางแผน ทอม เบรดี สุดยอดควอเตอร์แบ็กแห่งยุค และพลพรรคทีมบุก-ทีมรับที่แข็งแกร่งของ แพทริออตส์ ชัยชนะที่ทีมจากบอสตันมีเหนือ ดอลฟินส์ ยุคตกต่ำ 28-7 คะแนน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ “แพทส์แมน” เก็บชัยชนะเพิ่มเป็น 15 เกมและยังไม่ปราชัยให้กับใคร กลายเป็นทีมที่มีสถิติชนะในฤดูกาลปกติมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ก้าวแรกก่อนทำ ‘เพอร์เฟกต์ ซีซั่น’
การเข้าเพลย์ออฟพร้อมได้สิทธิเล่นในบ้านตลอดเพลย์ออฟ (Home Field Advantage) เรียบร้อยแล้วจึงมีคำถามว่า บีลิชิก จะพักผู้เล่นตัวหลักๆ ในเกมส่งท้ายปีหรือไม่ เพื่อให้สดเต็มสูบสำหรับโพสต์ซีซั่น คำตอบอาจไม่เป็นดั่งที่หลายคนคิดเนื่องจาก แพทริออตส์ ยังมีสถิติที่น่าเย้ายวนให้ไล่ล่าก่อนถือใบเบิกทางสำหรับการก้าวขึ้นไปทำ “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” อีกทั้งกำลังใจของ เบรดี และแรนดี มอสส์ คงหดหายหากโค้ชสั่งให้พวกเขานั่งอยู่ข้างสนามในเกมปิดท้ายฤดูกาลปกติ
ในเมื่อ เบรดี ขออีกแค่ 2 ทัชดาวน์ ก็จะล้มสถิติการขว้างเป็นสกอร์สูงสุดต่อหนึ่งฤดูกาลที่ เพย์ตัน แมนนิง เคยทำเอาไว้ 49 ทัชดาวน์เมื่อปี 2004 ขณะที่ มอสส์ รับอีกแค่สองสกอร์ก็จะคว่ำสถิติรับทัชดาวน์สูงสุดต่อหนึ่งฤดูกาลที่ เจอร์รี ไรซ์ เคยทำเอาไว้ 22 ครั้งเมื่อ 20 ปีก่อน และปัจจัยที่พร้อมส่งให้ความฝันของเหล่า “แพทส์แมน” เป็นจริงคือการเข้ารอบไปแล้วของ ไจแอนท์ส ผลแพ้ชนะไม่ได้ทำให้ “ยักษ์ใหญ่” เขยื้อนจากอันดับ 5 ของฝั่งเอ็นเอฟซี นั่นจึงไม่มีเหตุผลอันใดให้หัวหน้าโค้ช ทอม คอฟลิน ต้องเสี่ยงเพราะยังมีเกมหนักรออยู่ในสัปดาห์หน้า
บทพิสูจน์ความเป็นหนึ่งของฝั่งเอเอฟซี
นิวอิงแลนด์ แพทริออส์ มีเวลาพักหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ก่อนเข้าสู่เกมดิวิชันนัล เพลย์ออฟ หรือต่อไปถึง เกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมกราคมช่วงที่สภาพอากาศในเมืองดูไม่เป็นใจเอาเสียเลยสำหรับผู้มาเยือน ดังนั้นไม่ว่าทีมใดระหว่าง อินเดียนาโปลิส โคลต์ส, พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส, ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส, แจ๊คสันวิลล์ จากัวส์ หรือคลีฟแลนด์ บราวน์ส ยกพลมาเยือนแมสซาชูเซตต์ นอกจากต้องเผชิญหน้ากับยอดทีม, เสียงเชียร์ที่กระหึ่มจากแฟนๆ เจ้าถิ่น สภาพสนามก็เสมือน “ผู้เล่นคนที่ 13” ที่ช่วยผลักดันให้ทีมของ บีลิชิก มีโอกาสสัมผัสกับความสำเร็จ (สูงสุด) อีกครั้ง
สำหรับการพบกันในฤดูกาลปกติ แพทริออตส์ เคยเปิดบ้านทุบเอาชนะมาแล้วทั้ง ชาร์จเจอร์ส (38-14) บราวน์ส (34-13) สตีลเลอร์ส (34-13) และบุกไปชนะ โคลต์ส ถึงถิ่น 24-20 มีเพียง จากัวส์ ที่ยังไม่เคยวัดฝีมือกับเต็งแชมป์ อย่างไรก็ตาม วิธีหยุดความอลังการของ “แพทส์แมน” การครองเกมเล่นบอลคอนโทรลเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ ต้องดูว่าตัววิ่งอย่าง โจเซป แอดดาย, นาเจห์ ดาเวนพอร์ต, ลาไดเนียน ทอมลินสัน, เฟร็ด เทย์เลอร์ หรือ จามาล ลูอิส จะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหนในการลุ้นพาทีมไปแตะ “ลามาร์ ฮันท์ โทรฟี” ประกาศความเป็นตัวแทนเอเอฟซี หรือว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามความคาดหมาย
ด่านสุดท้ายก่อนจารึกประวัติศาสตร์
“ซูเปอร์โบว์ล” ครั้งที่ 42 มีคิวโยกมาแข่งขันกันที่สนามของมหาวิทยาลัยฟีนิกซ์ ในเกลนเดล เช้าตรู่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 (ตามวัน-เวลาประเทศไทย) ดูเหมือนแนวโน้มการชิงความเป็นเลิศในวงการคนชนคนหลายปีหลังโน้มเอียงมาอยู่ทางสายเอเอฟซีเสียเป็นส่วนใหญ่ 10 ปีหลังที่ปะทะฝีมือกันปรากฏว่ามีเพียง “แกะเขาเหล็ก” เซ็นต์หลุยส์ แรมส์ และ “โจรสลัด” บัคคาเนียร์ส จากฝั่งเอ็นเอฟซีที่สามารถสอดแทรกขึ้นไปสัมผัสกับ “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี”
ในฤดูกาลนี้ ดัลลัส คาวบอยส์ และกรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เป็นอีกสองทีมที่ทำผลงานได้โดดเด่นไม่แพ้ แพทริออตส์ หรือว่า โคลต์ส หนึ่งในสองมีโอกาสสูงทีเดียวที่จะคว้า “จอร์จ เฮลาส โทรฟี” ประกาศความเป็นตัวแทนเอ็นเอฟซีเข้าไปชิงแชมป์ประเทศ เนื่องจาก ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส, บัคคาเนียร์ส, ไจแอนท์ส หรือแม้แต่ วอชิงตัน เรดสกินส์ ยังไม่แกร่งทั่วแผ่น ทว่าถ้าพูดถึงความครบเครื่องกันจริงๆ แล้วคงต้องยอมรับว่า “นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์” ประสบการณ์และฝีมือดูเหลื่อม มีโอกาสคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ในรอบเจ็ดปีหลังสูงทีเดียว และถ้าสำเร็จนั่นก็หมายความว่า “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” ได้เกิดขึ้นอีกครั้งแต่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม