คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
นอกเหนือจาก ดอน ชูลา หัวหน้าโค้ช “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ ชุดไร้พ่ายในปี 1972 ผู้มานั่งเป็นคอมเมนเตเตอร์ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกมมันเดย์ไนท์ที่เพิ่งผ่านไป ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่แอบเอาใจเชียร์ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ให้เปิดบ้านหยุดความอหังการของเหล่า “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ แต่เราและอีกหลายๆ คนที่คิดเช่นกันก็มิได้สมดังปรารถนา
“ บางครั้งคุณก็ต้องการโชคบ้าง ” นี่เป็นคำสัมภาษณ์สั้นๆ ที่หลุดมาจากปากของ จาบาร์ แก็บนีย์ ปีกนอกฮีโร่ของ แพทริออตส์ หลังจบเกมเมื่อคืนวันจันทร์ตามวัน-เวลาท้องถิ่น เมื่อมีโชคมาผนวกกับฝีไม้ลายมือที่สุดยอดทำให้ผมหวั่นใจแทนอีก 11 ทีมที่จะหลุดเข้าสู่เพลย์ออฟไปลุ้นชิงชัยใน “ซูเปอร์โบว์ล” ครั้งที่ 42 ที่อริโซนา เพราะพวกเขาจะงัดกลยุทธ์ใดมารับมือกับความลงตัวของ “นักรบกู้ชาติ” ที่กำลังจะตามมา
แฟนๆ อเมริกัน ฟุตบอล คนใดที่มีโอกาสยลฟอร์มการเล่นของ แพทริออตส์ ช่วง 10 สัปดาห์แรกคงขนลุกซู่ไม่ต่างจากผม เพราะลูกทีมของ บิลล์ บิลิชก โชว์ฟอร์มอย่างเทพ แต่หากใครได้ดูเกมสองสัปดาห์หลังของทีมขวัญใจชาวเมืองบอสตัน บอกได้คำเดียวว่านี่ยังเป็นทีมของมนุษย์คนธรรมดาเหมือนเราๆ ท่านๆ ที่มีโอกาสพ่ายแพ้ในเกมกีฬา น่าเสียดาย!!! ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และบัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทำได้แค่เกือบสำหรับการดับฝัน “เพอร์เฟกต์ ซีซัน”
โดยเฉพาะ เรฟเวนส์ ทีมรับที่แข็งแกร่งบวกกับการวิ่งทะลุทะลวงอันยอดเยี่ยมของ วิลลิส แม็คเกรฮี ทำให้เจ้าถิ่นแทบไม่ได้ตกเป็นรอง แพทริออตส์ เลยตลอดทั้งเกม มิหนำซ้ำเกือบคว้าชัยได้แล้วเชียวเมื่อขึ้นนำ 24-20 ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของการแข่งขัน ในขณะที่ ทอม เบรดี โชว์ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ในทางตรงกันข้าม ไบรอัน บิลลิก หัวหน้าโค้ช “อีกา” ดันออกอาการเต้นเรียกเวลานอกในดาวน์ที่ 4 ที่ทีมเยือนเล่นแล้วไม่สำเร็จ
นั่นจึงส่งผลให้ แพทริออตส์ สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากหลุมก่อนหมดเวลา 44 วินาที จาบาร์ แก็บนีย์ วิ่งไปรอที่มุมเอ็นด์โซนด้านซ้ายรับบอลจากการขว้างระยะ 8 หลาของ เบรดี พร้อมกับปักขาทั้งสองข้างลงในพื้นที่รับทัชดาวน์ช่วยให้ทีมแซงนำและชนะไป 27-24 คะแนน แม้ท้ายเกม ไคลน์ บอลเลอร์ ควอเตอร์แบ็กเจ้าถิ่นที่โชว์ฟอร์มประทับใจผมพยายามบอมบ์เฮลแมรีเผอิญว่าปีกกระโดดคว้าบอลมาได้ด้วย แต่ก็โดนแท็คเกิลที่เส้น 3 หลา เรฟเวนส์ จึงปราชัยอย่างเจ็บปวดพร้อมกับหมดโอกาสไปลุยต่อในโพสต์ซีซันค่อนข้างแน่แล้ว
จากชัยชนะเกมนี้ทำให้ แพทริออตส์ เพิ่มสถิติชนะเป็นเกมที่ 12 อีกสี่สัปดาห์ที่เหลือไม่ใช่เรื่องง่ายที่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส, นิวยอร์ก เจ็ตส์, ไมอามี ดอลฟินส์ และนิวยอร์ก ไจแอนท์ส จะปัดแข้งปัดขา “นักรบกู้ชาติ” ให้ล้มลงก่อนทำสถิติหรู เนื่องจากผมเห็นสัญญาณที่ดีจากเหล่า “แพทส์แมน”
โดยมองว่า แพทริออตส์ คงเริ่มรู้สึกแล้วว่าเท้าของพวกเขายังปักอยู่บนดิน ไม่ใช่เทวดาหรือเทพองค์ใดที่โค่นล้มไม่ได้ การเรียกแผนที่ดูยะโสโอหังเกินไปของ บิลล์ บิลิชิก ในหลายๆ เพลย์คงลดความกร่างลงมา หลายเกมที่ผมเห็น เบรดี ระดมใช้แผนการขว้างเป็นชุดๆ คงต้องเพลาๆ ลงบ้าง แล้วหันมาเล่นกับเวลาคุมสถานการณ์ด้วยการสลับใช้ ลอว์เรนซ์ มาโรนีย์ และเควิน ฟอล์ค ลงมาถือบอลวิ่ง
การบุกที่รวดเร็ว ดุดัน และเป็นคะแนนถือเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกที่สามารถไขไปสู่ความสำเร็จ แต่ทีม (อเมริกัน) ฟุตบอล ไม่ได้มีแค่เกมบุก ถ้า เบรดี้ ขว้างไม่บันยะบันยัง พวกน้าๆ ในทีมรับอย่าง จูเนียร์ เซอาว, เทรดี บรูสกี หรือว่า ร็อดนีย์ แฮร์ริสัน คงเหนื่อยแฮกๆ เพราะต้องลงสนามเร็ว ขณะที่ สตีเฟน กอสท์คอฟสกี ควรต้องถูกส่งลงไปวอร์มเท้าเตะฟิลด์โกลบ้าง เพราะถ้าพลาดในเพลย์ออฟโอกาสให้แก้ตัวอาจไม่มีมากนัก ส่วนทาง คริส แฮนสัน ที่จ้างมาพันท์บอลทิ้งก็โปรดใช้งานบ้างเถิด มิฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามอาจได้ลงมาบุกในระยะที่สั้นลงเนื่องจากเกมๆ หนึ่งพันท์เฉลี่ยแค่ 2-3 หน การวางเท้าเตะจึงไม่แน่นอนไม่ได้ดั่งใจ
พล่ามอยู่นานสองนาน ตอนแรกเปรยๆ กับ “พี่เดื่อ” บก.หนุ่มเสียงดีว่าจะเขียนเกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมที่มีลุ้นเข้าเพลย์ออฟ แต่เผอิญว่าเนื้อหาในกระดาษหมดลงเสียก่อน เอาเป็นว่าสัปดาห์หน้าเรามาคุยกันถึง 12 ทีมสุดท้ายที่มีโอกาสเข้าไปลุ้นความสำเร็จสูงสุด แต่ไม่ว่าทีมใดคิดเดินทางไปแข่งเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2007/08 ที่สนามของมหาวิทยาลัยฟีนิกซ์ ในเกลนเดล เส้นทางดูเหมือนต้องผ่าน “ยิลเล็ตต์ สเตเดี้ยม” บ้านของแพทริออตส์ และ “เท็กซัส สเตเดี้ยม” ถิ่นของ ดัลลัส คาวบอยส์ เสียก่อน
นอกเหนือจาก ดอน ชูลา หัวหน้าโค้ช “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ ชุดไร้พ่ายในปี 1972 ผู้มานั่งเป็นคอมเมนเตเตอร์ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกมมันเดย์ไนท์ที่เพิ่งผ่านไป ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่แอบเอาใจเชียร์ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ ให้เปิดบ้านหยุดความอหังการของเหล่า “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ แต่เราและอีกหลายๆ คนที่คิดเช่นกันก็มิได้สมดังปรารถนา
“ บางครั้งคุณก็ต้องการโชคบ้าง ” นี่เป็นคำสัมภาษณ์สั้นๆ ที่หลุดมาจากปากของ จาบาร์ แก็บนีย์ ปีกนอกฮีโร่ของ แพทริออตส์ หลังจบเกมเมื่อคืนวันจันทร์ตามวัน-เวลาท้องถิ่น เมื่อมีโชคมาผนวกกับฝีไม้ลายมือที่สุดยอดทำให้ผมหวั่นใจแทนอีก 11 ทีมที่จะหลุดเข้าสู่เพลย์ออฟไปลุ้นชิงชัยใน “ซูเปอร์โบว์ล” ครั้งที่ 42 ที่อริโซนา เพราะพวกเขาจะงัดกลยุทธ์ใดมารับมือกับความลงตัวของ “นักรบกู้ชาติ” ที่กำลังจะตามมา
แฟนๆ อเมริกัน ฟุตบอล คนใดที่มีโอกาสยลฟอร์มการเล่นของ แพทริออตส์ ช่วง 10 สัปดาห์แรกคงขนลุกซู่ไม่ต่างจากผม เพราะลูกทีมของ บิลล์ บิลิชก โชว์ฟอร์มอย่างเทพ แต่หากใครได้ดูเกมสองสัปดาห์หลังของทีมขวัญใจชาวเมืองบอสตัน บอกได้คำเดียวว่านี่ยังเป็นทีมของมนุษย์คนธรรมดาเหมือนเราๆ ท่านๆ ที่มีโอกาสพ่ายแพ้ในเกมกีฬา น่าเสียดาย!!! ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และบัลติมอร์ เรฟเวนส์ ทำได้แค่เกือบสำหรับการดับฝัน “เพอร์เฟกต์ ซีซัน”
โดยเฉพาะ เรฟเวนส์ ทีมรับที่แข็งแกร่งบวกกับการวิ่งทะลุทะลวงอันยอดเยี่ยมของ วิลลิส แม็คเกรฮี ทำให้เจ้าถิ่นแทบไม่ได้ตกเป็นรอง แพทริออตส์ เลยตลอดทั้งเกม มิหนำซ้ำเกือบคว้าชัยได้แล้วเชียวเมื่อขึ้นนำ 24-20 ก่อนเข้าสู่ช่วงท้ายของการแข่งขัน ในขณะที่ ทอม เบรดี โชว์ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ในทางตรงกันข้าม ไบรอัน บิลลิก หัวหน้าโค้ช “อีกา” ดันออกอาการเต้นเรียกเวลานอกในดาวน์ที่ 4 ที่ทีมเยือนเล่นแล้วไม่สำเร็จ
นั่นจึงส่งผลให้ แพทริออตส์ สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากหลุมก่อนหมดเวลา 44 วินาที จาบาร์ แก็บนีย์ วิ่งไปรอที่มุมเอ็นด์โซนด้านซ้ายรับบอลจากการขว้างระยะ 8 หลาของ เบรดี พร้อมกับปักขาทั้งสองข้างลงในพื้นที่รับทัชดาวน์ช่วยให้ทีมแซงนำและชนะไป 27-24 คะแนน แม้ท้ายเกม ไคลน์ บอลเลอร์ ควอเตอร์แบ็กเจ้าถิ่นที่โชว์ฟอร์มประทับใจผมพยายามบอมบ์เฮลแมรีเผอิญว่าปีกกระโดดคว้าบอลมาได้ด้วย แต่ก็โดนแท็คเกิลที่เส้น 3 หลา เรฟเวนส์ จึงปราชัยอย่างเจ็บปวดพร้อมกับหมดโอกาสไปลุยต่อในโพสต์ซีซันค่อนข้างแน่แล้ว
จากชัยชนะเกมนี้ทำให้ แพทริออตส์ เพิ่มสถิติชนะเป็นเกมที่ 12 อีกสี่สัปดาห์ที่เหลือไม่ใช่เรื่องง่ายที่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส, นิวยอร์ก เจ็ตส์, ไมอามี ดอลฟินส์ และนิวยอร์ก ไจแอนท์ส จะปัดแข้งปัดขา “นักรบกู้ชาติ” ให้ล้มลงก่อนทำสถิติหรู เนื่องจากผมเห็นสัญญาณที่ดีจากเหล่า “แพทส์แมน”
โดยมองว่า แพทริออตส์ คงเริ่มรู้สึกแล้วว่าเท้าของพวกเขายังปักอยู่บนดิน ไม่ใช่เทวดาหรือเทพองค์ใดที่โค่นล้มไม่ได้ การเรียกแผนที่ดูยะโสโอหังเกินไปของ บิลล์ บิลิชิก ในหลายๆ เพลย์คงลดความกร่างลงมา หลายเกมที่ผมเห็น เบรดี ระดมใช้แผนการขว้างเป็นชุดๆ คงต้องเพลาๆ ลงบ้าง แล้วหันมาเล่นกับเวลาคุมสถานการณ์ด้วยการสลับใช้ ลอว์เรนซ์ มาโรนีย์ และเควิน ฟอล์ค ลงมาถือบอลวิ่ง
การบุกที่รวดเร็ว ดุดัน และเป็นคะแนนถือเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกที่สามารถไขไปสู่ความสำเร็จ แต่ทีม (อเมริกัน) ฟุตบอล ไม่ได้มีแค่เกมบุก ถ้า เบรดี้ ขว้างไม่บันยะบันยัง พวกน้าๆ ในทีมรับอย่าง จูเนียร์ เซอาว, เทรดี บรูสกี หรือว่า ร็อดนีย์ แฮร์ริสัน คงเหนื่อยแฮกๆ เพราะต้องลงสนามเร็ว ขณะที่ สตีเฟน กอสท์คอฟสกี ควรต้องถูกส่งลงไปวอร์มเท้าเตะฟิลด์โกลบ้าง เพราะถ้าพลาดในเพลย์ออฟโอกาสให้แก้ตัวอาจไม่มีมากนัก ส่วนทาง คริส แฮนสัน ที่จ้างมาพันท์บอลทิ้งก็โปรดใช้งานบ้างเถิด มิฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามอาจได้ลงมาบุกในระยะที่สั้นลงเนื่องจากเกมๆ หนึ่งพันท์เฉลี่ยแค่ 2-3 หน การวางเท้าเตะจึงไม่แน่นอนไม่ได้ดั่งใจ
พล่ามอยู่นานสองนาน ตอนแรกเปรยๆ กับ “พี่เดื่อ” บก.หนุ่มเสียงดีว่าจะเขียนเกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมที่มีลุ้นเข้าเพลย์ออฟ แต่เผอิญว่าเนื้อหาในกระดาษหมดลงเสียก่อน เอาเป็นว่าสัปดาห์หน้าเรามาคุยกันถึง 12 ทีมสุดท้ายที่มีโอกาสเข้าไปลุ้นความสำเร็จสูงสุด แต่ไม่ว่าทีมใดคิดเดินทางไปแข่งเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2007/08 ที่สนามของมหาวิทยาลัยฟีนิกซ์ ในเกลนเดล เส้นทางดูเหมือนต้องผ่าน “ยิลเล็ตต์ สเตเดี้ยม” บ้านของแพทริออตส์ และ “เท็กซัส สเตเดี้ยม” ถิ่นของ ดัลลัส คาวบอยส์ เสียก่อน