รางวัลบัลลง ดอร์ ( Ballon d’ Or ) หรือ ลูกบอลทองคำ จากนิตยสาร ฟร็องซ์ ฟุตบอล ( France Football ) ที่มอบให้กับนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปนั้น ก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1956 โดย กาบริเอล อาโน ( Gabriel Hanot ) อดีตนักฟุตบอล โค้ชทีมชาติฝรั่งเศส และนักหนังสือพิมพ์ ในปัจจุบัน รางวัลนี้กำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง นับเป็นหน้าที่ 3 ของประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ
ตั้งแต่ปีแรกที่ ฟร็องซ์ ฟุตบอล จัดตั้งรางวัลนี้ขึ้นมา เขาสงวนไว้ให้เฉพาะนักฟุตบอลสัญชาติยุโรป และต้องค้าแข้งกับสโมสรในทวีปยุโรปเท่านั้น โดยทางนิตยสารจะเชิญนักหนังสือพิมพ์กีฬาเจ๋งๆหนึ่งเดียวของแต่ละชาติของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปมาเป็นกรรมการ ซึ่งยุคนั้นก็มี 30 กว่าคน ช่วยกันเลือกนักเตะในใจที่ชื่นชอบมา 5 คน จัดเรียงลำดับมาเลย นักเตะคนไหนเข้าป้ายอันดับหนึ่งก็มี 5 คะแนน อันดับ 2 กับรับไป 4 คะแนน ตามลำดับจนถึงอันดับ 5 ได้ 1 คะแนน สุดท้ายก็เอาคะแนนของกรรมการแต่ละคนมารวมกัน ใครได้คะแนนรวมสูงสุดก็ได้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป ซึ่งนักเตะคนแรกที่ได้รับลูกบอลทองคำในปี 1956 ก็คือ เซอร์ สแตนเลย์ แมทธิวส์ ( Sir Stanley Matthews ) พ่อมดจอมเลื้อย กองกลางทีมชาติอังกฤษจากทีมแบล็คพูล หลังจากนั้นก็มีนักเตะดังๆทะยอยกับขึ้นแท่น บางคนรับแล้วรับอีกหลายสมัย เช่น โยฮัน ครอยฟ์ ( Johan Cruyff ) กองหน้ากังหันสีส้มจากทีมบาร์เซโลนา ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ปราการหลังทีมชาติเยอรมนีของบาแยร์น มึนเช่น เควิน คีแกน กองหน้าทีมชาติอังกฤษจากสโมสรฮัมบวร์ก เอสเฟา มิเชล ปลาตินี นโปเลองลูกหนังของฝรั่งเศสจากทีมยูเวนตุส รวมทั้ง มาร์โก ฟัน บาสเทน ศูนย์หน้าดัตช์จากเอ ซี มิลาน แต่ไม่ยักมีชื่อตำนานนักเตะอย่าง เปเล่ มาริโอ เคมเปส เอนโซ ฟรานเชสโกลี หรือ ดิเอโก มาราโดนา เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ถือสัญชาติใดในทวีปยุโรป แม้ว่าบางคนจะเคยเข้ามาเล่นให้สโมสรในทวีปยุโรปก็ตาม
จนกระทั่งเข้าสู่ปี 1995 มีนักฟุตบอลจากทวีปอื่นๆเข้ามาค้าแข้งกับสโมสรต่างๆในทวีปยุโรปมากมาย หลายคนต่างก็ยอมรับในฝีเท้าของพวกเขาเหล่านั้น และมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปิดใจให้กว้าง มอบรางวัลเกียรติยศนี้ให้แก่พวกเขาบ้าง ดังนั้นฟร็องซ์ ฟุตบอลจึงปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ตรงที่ไม่ต้องเป็นสัญชาติยุโรป จะมาจากไหนก็ได้ ขอให้ค้าแข้งอยู่ในลีกของทวีปยุโรปก็พอ นั่นทำให้
“มิสเตอร์ จอร์จ” จอร์จ เวอาห์ ( George Weah ) กองหน้าทีมชาติไลบีเรียแห่งทีมเอ ซี มิลานคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ไปครองในปีนั้น พูดถึงหมอนี่ ตอนนั้นก็ได้รางวัลบัลลง ดอร์แห่งทวีปอัฟริกามาครองครบ 3 สมัย แถมปีเดียวกันนั้น ยังได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกด้วย ปัจจุบันนี้ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นขวัญใจคนไลบีเรีย เลยยิ่งอาจหาญนำตัวเองเข้าสู่การเมือง ถึงขั้นลงสมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีของไลบีเรียซะเลยในปี 2005 แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งในปี 1995 ก็คือ ทางนิตยสาร ฟร็องซ์ ฟุตบอลจะจัดทำรายชื่อสุดยอดนักเตะที่อยู่ในข่ายจำนวน 50 คนมาให้ก่อน ถือเป็นไกด์ลายน์ ใครจะเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปก็ต้องไม่ผิดไปจาก 50 คนที่ฟร็องซ์ ฟุตบอลเลือกมา
และล่าสุด รางวัลบัลลง ดอร์ในปี 2007 นี้ จะมีการปรับเปลี่ยนอีกแล้ว โดยหลักเกณฑ์สำคัญก็คือ คราวนี้ นักเตะจากทุกมุมโลกไม่ว่าสัญชาติใด และลงเตะให้สโมสรใด ทวีปใดก็มีโอกาสรับรางวัลนี้ทั้งนั้น นั่นคือกระเถิบฐานะให้เป็นสุดยอดนักเตะของโลก เทียบกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของฟีฟ่าเลย นอกจากนั้น จากที่เคยเชิญนักหนังสือพิมพ์ของชาติสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลทวีปยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟ่า ( UEFA ) มาเป็นคณะกรรมการเท่านั้น คราวนี้ เขาจะเชิญตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลทวีปอื่นๆมาร่วมเป็นกรรมการด้วย แต่มีข้อแม้ว่า เอาเฉพาะชาติที่เคยได้เข้าร่วมแข่งฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอย่างน้อย 1 ครั้ง ทำให้จากเดิมที่เคยมีคณะกรรมการ 53 คน ก็จะกลาย 96 คน โดย ฟร็องซ์ ฟุตบอล จะประกาศรายชื่อนักเตะที่ติดอันดับ 50 คนในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ และสรุปผลคะแนน ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยม รับรางวัลบัลลง ดอร์ ครั้งที่ 52 ในรายการ “ เตเลฟุต ” ( Telefoot ) ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง TF1 ของฝรั่งเศสในวันที่ 2 ธันวาคมนี้
สำหรับบัลลง ดอร์โฉมใหม่ปีนี้ แม้ว่า ฟร็องซ์ ฟุตบอล จะเปิดกว้างให้โอกาสนักเตะจากทุกมุมโลกได้สัมผัสกับรางวัลนี้ ผมก็ยังว่าไม่พ้นนักเตะสัญชาติยุโรปที่ลงเตะให้กับสโมสรในทวีปยุโรปอยู่ดี เพราะผมเชียร์คนนี้ครับ คริชติอานู โรเนาดู หรือ คริชติอาโน โรนัลโด สุดยอดกองหน้าเมโทรเซ็กชวลทีมชาติโปรตุเกสจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด
ตั้งแต่ปีแรกที่ ฟร็องซ์ ฟุตบอล จัดตั้งรางวัลนี้ขึ้นมา เขาสงวนไว้ให้เฉพาะนักฟุตบอลสัญชาติยุโรป และต้องค้าแข้งกับสโมสรในทวีปยุโรปเท่านั้น โดยทางนิตยสารจะเชิญนักหนังสือพิมพ์กีฬาเจ๋งๆหนึ่งเดียวของแต่ละชาติของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปมาเป็นกรรมการ ซึ่งยุคนั้นก็มี 30 กว่าคน ช่วยกันเลือกนักเตะในใจที่ชื่นชอบมา 5 คน จัดเรียงลำดับมาเลย นักเตะคนไหนเข้าป้ายอันดับหนึ่งก็มี 5 คะแนน อันดับ 2 กับรับไป 4 คะแนน ตามลำดับจนถึงอันดับ 5 ได้ 1 คะแนน สุดท้ายก็เอาคะแนนของกรรมการแต่ละคนมารวมกัน ใครได้คะแนนรวมสูงสุดก็ได้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป ซึ่งนักเตะคนแรกที่ได้รับลูกบอลทองคำในปี 1956 ก็คือ เซอร์ สแตนเลย์ แมทธิวส์ ( Sir Stanley Matthews ) พ่อมดจอมเลื้อย กองกลางทีมชาติอังกฤษจากทีมแบล็คพูล หลังจากนั้นก็มีนักเตะดังๆทะยอยกับขึ้นแท่น บางคนรับแล้วรับอีกหลายสมัย เช่น โยฮัน ครอยฟ์ ( Johan Cruyff ) กองหน้ากังหันสีส้มจากทีมบาร์เซโลนา ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ปราการหลังทีมชาติเยอรมนีของบาแยร์น มึนเช่น เควิน คีแกน กองหน้าทีมชาติอังกฤษจากสโมสรฮัมบวร์ก เอสเฟา มิเชล ปลาตินี นโปเลองลูกหนังของฝรั่งเศสจากทีมยูเวนตุส รวมทั้ง มาร์โก ฟัน บาสเทน ศูนย์หน้าดัตช์จากเอ ซี มิลาน แต่ไม่ยักมีชื่อตำนานนักเตะอย่าง เปเล่ มาริโอ เคมเปส เอนโซ ฟรานเชสโกลี หรือ ดิเอโก มาราโดนา เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ถือสัญชาติใดในทวีปยุโรป แม้ว่าบางคนจะเคยเข้ามาเล่นให้สโมสรในทวีปยุโรปก็ตาม
จนกระทั่งเข้าสู่ปี 1995 มีนักฟุตบอลจากทวีปอื่นๆเข้ามาค้าแข้งกับสโมสรต่างๆในทวีปยุโรปมากมาย หลายคนต่างก็ยอมรับในฝีเท้าของพวกเขาเหล่านั้น และมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปิดใจให้กว้าง มอบรางวัลเกียรติยศนี้ให้แก่พวกเขาบ้าง ดังนั้นฟร็องซ์ ฟุตบอลจึงปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ตรงที่ไม่ต้องเป็นสัญชาติยุโรป จะมาจากไหนก็ได้ ขอให้ค้าแข้งอยู่ในลีกของทวีปยุโรปก็พอ นั่นทำให้
“มิสเตอร์ จอร์จ” จอร์จ เวอาห์ ( George Weah ) กองหน้าทีมชาติไลบีเรียแห่งทีมเอ ซี มิลานคว้ารางวัลบัลลง ดอร์ไปครองในปีนั้น พูดถึงหมอนี่ ตอนนั้นก็ได้รางวัลบัลลง ดอร์แห่งทวีปอัฟริกามาครองครบ 3 สมัย แถมปีเดียวกันนั้น ยังได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกด้วย ปัจจุบันนี้ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นขวัญใจคนไลบีเรีย เลยยิ่งอาจหาญนำตัวเองเข้าสู่การเมือง ถึงขั้นลงสมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีของไลบีเรียซะเลยในปี 2005 แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งในปี 1995 ก็คือ ทางนิตยสาร ฟร็องซ์ ฟุตบอลจะจัดทำรายชื่อสุดยอดนักเตะที่อยู่ในข่ายจำนวน 50 คนมาให้ก่อน ถือเป็นไกด์ลายน์ ใครจะเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปก็ต้องไม่ผิดไปจาก 50 คนที่ฟร็องซ์ ฟุตบอลเลือกมา
และล่าสุด รางวัลบัลลง ดอร์ในปี 2007 นี้ จะมีการปรับเปลี่ยนอีกแล้ว โดยหลักเกณฑ์สำคัญก็คือ คราวนี้ นักเตะจากทุกมุมโลกไม่ว่าสัญชาติใด และลงเตะให้สโมสรใด ทวีปใดก็มีโอกาสรับรางวัลนี้ทั้งนั้น นั่นคือกระเถิบฐานะให้เป็นสุดยอดนักเตะของโลก เทียบกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของฟีฟ่าเลย นอกจากนั้น จากที่เคยเชิญนักหนังสือพิมพ์ของชาติสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลทวีปยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟ่า ( UEFA ) มาเป็นคณะกรรมการเท่านั้น คราวนี้ เขาจะเชิญตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลทวีปอื่นๆมาร่วมเป็นกรรมการด้วย แต่มีข้อแม้ว่า เอาเฉพาะชาติที่เคยได้เข้าร่วมแข่งฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอย่างน้อย 1 ครั้ง ทำให้จากเดิมที่เคยมีคณะกรรมการ 53 คน ก็จะกลาย 96 คน โดย ฟร็องซ์ ฟุตบอล จะประกาศรายชื่อนักเตะที่ติดอันดับ 50 คนในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ และสรุปผลคะแนน ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยม รับรางวัลบัลลง ดอร์ ครั้งที่ 52 ในรายการ “ เตเลฟุต ” ( Telefoot ) ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง TF1 ของฝรั่งเศสในวันที่ 2 ธันวาคมนี้
สำหรับบัลลง ดอร์โฉมใหม่ปีนี้ แม้ว่า ฟร็องซ์ ฟุตบอล จะเปิดกว้างให้โอกาสนักเตะจากทุกมุมโลกได้สัมผัสกับรางวัลนี้ ผมก็ยังว่าไม่พ้นนักเตะสัญชาติยุโรปที่ลงเตะให้กับสโมสรในทวีปยุโรปอยู่ดี เพราะผมเชียร์คนนี้ครับ คริชติอานู โรเนาดู หรือ คริชติอาโน โรนัลโด สุดยอดกองหน้าเมโทรเซ็กชวลทีมชาติโปรตุเกสจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด