"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะกดคำว่าชนะเป็นแล้วเมื่อเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฉือน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปแบบสุดหืด 1-0 จากการยิงไกลของ นานี่ ในเกม พรีเมียร์ชิป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา
ศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ฤดูกาล 2007-08
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 - 0 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
แชมป์เก่า แมนฯยูไนเต็ด ผ่าน 3 นัดยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ สเปอร์ส ที่สถานการณ์ไม่ได้ดีเด่นไปกว่ากัน เจ้าถิ่นตัวเลือกจำกัดทำให้ต้องเล่นในระบบ 4-5-1 ทิ้ง คาร์ลอส เตเบซ ไว้แดนหน้าคนเดียว ส่วนทีมเยือนยังไร้ เล็ดลี่ย์ คิง และ ไมเคิ่ล ดอว์สัน สองแนวรับที่มีอาการบาดเจ็บ
เพียงแค่ 20 วินาที สเปอร์ส เกือบขึ้นนำเมื่อ ร็อบบี้ คีน ตั้งใจปั่นด้วยขวาระยะเกือบ 30 หลาบอลผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปแล้วแต่ว่าตกบนคาน จากนั้นเป็นทีมเยือนที่เดินเกมบุกใส่เจ้าถิ่นเป็นระลอกจากเตะมุมด้านซ้าย ปาสกัล ชิมบงด้า โหม่งที่เสาแรกไปเสาสองแต่ว่า แอนโธนี่ย์ การ์ดเนอร์ เข้าซ้ำช้าไปแค่ก้าวเดียว
ถัดจากนั้น สเปอร์ส ได้ฟรีคิกริมเส้นกราบซ้ายเปิดเข้าไปกองหลัง แมนฯยู เคลียร์ออกมาเข้าทาง ริคาร์โด้ โรช่า วิ่งเข้ามาตะบันสุดแรงเกิดทำให้ข้ามคานออกไปไกล จากนั้น ริโอ เฟอร์ดินานด์ เหม่อปล่อยบอลให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ สอดมาจากทางด้านหลังดีที่ เนมานย่า วิดิช ตามาบล็อกได้ทัน
ผ่านช่วง 20 นาทีแรก แมนฯยู เริ่มตั้งเกมได้และมีลุ้นประตูเมื่อ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ยิงไกลติดกองหลัง สเปอร์ส ไปเข้าทาง ริโอ เฟอร์ดินานด์ วอลเลย์แต่ว่า พอล โรบิสัน วันนี้ยังไม่ผิดพลาดเซฟได้หมด บอลตกเป็นของ แมนฯยู ทั้งหมด ไมเคิ่ล คาร์ริค ยิงไกลแต่ก็ถากเสาสองไปนิดเดียว
ท้ายครึ่งแรกทั้งสองทีมไม่ค่อยมีจังหวะลุ้นประตูแต่ว่า ไรอัน กิ๊กส์ ต้องสังเวยใบเหลืองเพราะไปเสียบ ลี ยอง-เปียว ครบ 45 นาที แมนฯยูไนเต็ด ยังคงเสมอกับ สเปอร์ส 0-0 เปิดฉากครึ่งหลัง แมนฯยู ยังคงเล่นยากและกองกลางเยอะเกินไปทำให้ไม่ค่อยมีนักเตะในแดนหน้าเพื่อเปิดบอลให้ เข้าสู่นาที 54 เวส บราวน์ โดนใบเหลืองเพราะไปเสียบ แกเร็ธ เบล
นาที 56 สเปอร์ส เกือบขึ้นนำเมื่อ เบล เปิดลูกเซตพีซให้กับ ริคาร์โด้ โรช่า โหม่งเต็มๆ แต่ว่าสะบัดไม่พอบอลออกหลัง แมนฯยู มีการเปลี่ยนตัวส่ง คริส อีเกิ้ลส์ ลงมาแทน ไมเคิ่ล คาร์ริค แมนฯยู ยิ่งเล่นยิ่งเกร็งนาที 59 ริโอ พลาดพักอกแรงดีที่ตามไปบล็อกบอลออกหลังได้ทัน
แมนฯยู เล่นผิดพลาดเป็นว่าเล่นนาที 63 เกือบเสียประตูเมื่อ วิดิช จ่ายพลาดไปเข้าทาง เบล จี้ขึ้นมาก่อนจ่ายให้ เบอร์บาตอฟ เบียดกับ ริโอ ล้มลงแต่ว่า เบอร์บาตอฟ ยังไวลุกขึ้นมาดีดผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปแล้วบอลกำลังจะข้ามเส้นแต่ว่า ริโอ ตามไปสกัดได้ทัน
เกมเริ่มเข้มข้น เบอร์บาตอฟ หลุดเดี่ยวกระดกบอลหนี ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปแล้วก่อนที่จะแบบโล่งๆ แต่ว่า เวส บราวน์ ใช้ไหล่เปลี่ยนทางบอลออกไป แมนฯยู เดินเครื่องสวนขึ้นมา นานี่ หลุดขึ้นมาทางด้านขวาเปิดเข้ากลาง โรบินสัน ปัดไปเสาสอง เตเบซ ยิงอัดแต่ว่า เจอร์เมน เจนาส สกัดจากเส้น
แต่นาที 69 แมนฯยู ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากการยิงไกลระยะ 25 หลาของ นานี่ บอลพุ่งแรงแฉลบ เตเบซ เล็กน้อยก่อนเสียบตาข่ายสุดสวย สเปอร์ส มีการเปลี่ยนตัวในนาที 75 ส่ง เจอร์เมน เดโฟ และ อเดล ทารับท์ ลงมาแทน ร็อบบี้ และ ลี ยอง-เปียว แมนฯยู เปลี่ยนตัวส่ง ดาร์เรน เฟลตเชอร์ ลงมาแทน เตเบซ
นาที 79 สเปอร์ส เกือบตีเสมอได้เมื่อ เบอร์บาตอฟ ดึงบอลหนีนักเตะ แมนฯยู สองคนก่อนปั่นด้วยขวาบอลไต่สามเหลี่ยมออกหลังไปนิดเดียว ทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาทีก่อนหมดเวลาการแข่งขัน แมนฯยู ชนะนัดแรกในรอบ 4 นัดด้วยการเฉือน สเปอร์ส 1-0
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ปาทริช เอวร่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, หลุยส์ นานี่, พอล สโคลส์, คาร์ลอส เตเบซ
สเปอร์ส - พอล โรบินสัน, แกเร็ธ เบล, ปาสกัล ชิมบงด้า, แอนโธนี่ย์ การ์ดเนอร์, ลี ยอง-เปียว, ริคาร์โด้ โรช่า, ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน, เจอร์เมน เจนาส, สตี๊ด มัลบรองก์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
