xs
xsm
sm
md
lg

คุ้มไม่คุ้มกีฬา ม.โลก / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ "สุดฟากสนาม" โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

ผ่านพ้นไปแล้วนะครับ สำหรับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกครั้งที่ 24 ซึ่งประเทศไทยเรารับอาสาเป็นเจ้าจัดการแข่งขัน ระหว่าง 8-18 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่ากันว่าเป็นงานใหญ่ระดับน้องๆโอลิมปิก ดึงมาได้นี่ก็ถือว่าต่างชาติเขาเห็นศักยภาพของชาติเราอยู่พอสมควร

คำถามที่ผมมักจะได้รับจากน้องๆ ตลอดช่วงการแข่งขันที่ผ่านมาก็คือ “คุ้มมั้ยเนี่ย ไทยเราเป็นเจ้าภาพ เสียไปตั้งสองพันล้าน”

ผมตอบให้มันกลับไปคิดว่า “ขึ้นอยู่ว่าเอ็งจะเอาอะไรตัดสินคำว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม”

“ถ้าเอารายรับ-รายจ่ายเป็นตัวตัดสิน ไม่ต้องคิดเพราะไม่คุ้มแน่นอน ถ้าจะเอายอดผู้ชมเป็นตัวตัดสินก็ไม่มีทางคุ้มอีก เพราะชื่อการแข่งขันบอกอยู่แล้วว่าเป็นกีฬามหาวิทยาลัยโลก ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันจะเอาระดับซูเปอร์สตาร์มีชื่อเรียกแขกได้มีไม่มากนัก คุณภาพและมาตรฐานก็ได้อยู่ในระดับหนึ่ง”

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าคุ้มที่สุดคือเรื่อง “Know How” หรือความรู้และประสบการณ์ที่คนของเราจะได้จากการจัดการแข่งขันระดับอินเตอร์ เจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งทุกคนมีวิธีทำงานต่างกัน เตรียมตัวมาดีบ้าง ลองผิดลองถูกบ้าง แต่จบทัวร์นาเม้นท์แล้วหากย้อนไปมองเชื่อว่าทุกคนคงได้ข้อคิดและบทเรียนราคาแพงกลับไปมากทีเดียว ถือเป็นการพัฒนาบุคลากรสำหรับเตรียมการจัดงานกีฬาอื่นๆในอนาคต ไม่ต้องคิดถึงขนาดโอลิมปิก เอาแค่เอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ไม่ให้ขายหน้า เพราะเดี๋ยวนี้มาตรฐานของการจัดการแข่งขันสำหรับกีฬาในภูมิภาคนี้ถูกยกระดับไปมากตั้งแต่ “โดฮาเกมส์”

การได้ทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายควบคุมการจัดการแข่งขัน ฝ่ายตัดสิน และฝ่ายเทคนิค แน่นอนจะทำให้คนของเราได้เรียนรู้ว่าการทำงานแบบมืออาชีพเขาทำกันอย่างไร ตรงนี้ได้มาก เพราะ กีฬา ม.โลก นี่คือบททดสอบใหญ่ในเรื่องการจัดการแข่งขันและการควบคุมมาตรฐานการตัดสินจริงๆ

นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆที่น่าประทับใจไม่แพ้กันอย่างเรื่องของ “นักศึกษาอาสา” ที่ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานตรงนี้ ได้ฝึกงานสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์บนสนามจริง ซึ่งห้องเรียนที่ไหนก็ไม่มีสอน

ส่วนข้อบกพร่องจากการจัดครั้งนี้ก็มีบ้างเป็นธรรมดาของการจัดงานใหญ่ แต่เรื่องที่น่าคิดระยะยาวคือระบบการขนส่งคนของบ้านเราที่ป่วยที่สุด ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปดูกีฬาสนามไหนมีปัญหาทั้งนั้น ราชมังคลากีฬาสถานนั้นรถติดวินาศสันตะโรโดยเฉพาะช่วงเย็น ถนนหน้ารามฯมีอยู่แค่นั้นไม่มีรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกแบ่งเบา อยากดูกีฬาก็อยากดูอยู่ แต่พอคิดถึงการเดินทางก็ท้อพาลหมดอารมณ์

ส่วนสนามธรรมศาสตร์ รังสิตไกลจริงแต่หากจัดระบบขนส่งดีๆ หรือมีที่จอดรถยนต์ส่วนบุคคลที่สะดวกสบายหน่อยก็พอทำเนา แต่นี่เล่นกันไว้ให้เจ้าหน้าที่และแขก VIP ซะเยอะ จนทำให้คนดูกลายเป็นประชาชนชั้นสองไปซะฉิบ ถ้าจะเตรียมพร้อมสำหรับงานใหญ่ในอนาคตอย่าลืมคิดถึงตรงนี้ มิฉะนั้นสุดท้ายก็คงต้องมานั่งบ่นว่าทำไมผู้ชมน้อยเหลือเกิน

แต่สุดท้ายการให้โอกาสคนของเราทำงาน ให้นักกีฬาของเราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ให้เด็กของเราได้ฝึกฝน มีความรู้มีวิสัยทัศน์เรียนรู้จากข้อผิดพลาดคือการพัฒนาคนที่สำคัญ ตรงนี้ที่ผ่านๆมาถูกมองข้ามหรือละเลยตลอดไม่ว่ารัฐบาลไหน

เสียไปสองพันล้านเทียบกับที่โดนนักการเมืองขี้ฉ้อหลายๆ คนฉกไปแล้ว ไม่เห็นจะต้องคิด ถ้าคิดมากไม่ต้องทำอะไรกันพอดี เหมือนกับที่โค้ชกีฬาเก่งๆ มักจะสอนผู้เล่นของเขายามอยู่ในสนามเสมอว่า

“Do something” ทำอะไรบ้าง (สิวะ!) ไม่ใช่ “Do nothing”
คนที่ไม่เคยทำอะไรพลาด นั่นคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลยนั่นเองครับ

กำลังโหลดความคิดเห็น