อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ กองกลางทีมชาติเบลารุส กลายเป็นพระเอกของพลพรรค “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ด้วยการสังหารประตูชัยให้ทีมพลิกกลับมาชนะ ฟูแล่ม ได้ 2-1 ทั้งที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนตั้งแต่นาทีแรกในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2550
อาร์เซนอล 2 – 1 ฟูแลม

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาล 2007-2008 ประจำวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ประเดิมสนามด้วยการเฝ้าบ้านเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของตัวเองต้อนรับการมาเยือนของ ฟูแล่ม โดยนัดนี้ถือเป็นศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ด้วย
นัดนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ยังไม่ส่ง เอดูอาร์โด ดา ซิลวา หัวหอกคนใหม่ชาวโครเอเชียลงล่าตาข่าย และไม่มีในรายชื่อสำรองด้วย โดยมอบหมายให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เล่นหน้าเป้าคนเดียวในระบบ 4-5-1 ให้ โทมัส โรซิคกี้ และ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ คอยทำเกมรุกสนับสนุน แต่ บาการี่ ซาญ่า กองหลังคนใหม่ชาวฝรั่งเศสได้ลงตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา และดัน เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ขึ้นไปเล่นเป็นตัวริมเส้น
ด้าน “เจ้าสัวน้อย” ทีมเยือนจัดแจงส่ง อาเมอร์ บูอัซซ่า ปีกซ้ายหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก วัตฟอร์ด ลงประจำการทันที โดยขุมกำลังที่เหลือถือว่าฟูลทีมนำโดย ไซมอน เดวี่ส์, อเล็กเซ สเมอร์ติน และคู่หัวหอกอย่าง เดวิด ฮีลี กับ ไบรอัน แม็คไบรด์
เพียงแค่ 51 วินาทีแรกหลังเสียงนกหวีดเริ่มเกมของ ฟิล ดาวด์ ฟูแล่มก็บุกมาแหย่รังปืนได้ก่อนโดย เดวิด ฮีลี หัวหอกทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่จัดการสำเร็จโทษเข้าไปจากความผิดพลาดของ เยนส์ เลห์มันน์ ทำให้ อาร์เซนอล ตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ต้นเกม 0-1

พอถูกลูบคม เดอะ กันเนอร์ส ก็โหมเกมรุกเข้าใส่อาคันตุกะทันที นาทีที่ 11 ก็น่าจะได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ โยกหนี คริส แบร์ด แล้วกระชากเข้าเขตโทษก่อนจะถูกตามมาเสียบล้มลง แต่ ฟิล ดาวด์ ปล่อยให้เล่นต่อไป ก่อนที่อีก 2 นาทีให้หลัง โรซิคกี้ จะตวัดยิงฮาล์ฟวอลเลย์แถวจุดโทษ แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลเฉี่ยวกรอบออกไปแบบน่าหวาดเสียว
เกมยังส่วนใหญ่คงเป็นของเจ้าถิ่น นาทีที่ 18 เอบูเอ้ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ ซาญ่า ก่อนจะหลุดเข้าไปเกือบถึงเส้นหลังแล้วหักเข้ามาตรงกลางให้ ฮเล็บ สอดเข้ามากระหน่ำแบบเน้นๆ แต่ แซต ไนท์ ยังล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้ ก่อนที่ 3 นาทีให้หลัง ฮเล็บ จะพาบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วถูก สตีเว่น เดวิส กระแทกล้มลง แต่ ฟิล ดาวด์ ก็ยังใจแข็งไม่เป่าลูกจุดโทษให้ อาร์เซนอล
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมง ฟูแล่ม เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ และมีโอกาสตอบโต้บ้างเป็นระยะๆ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ ขณะที่พลพรรคปืนใหญ่พยายามหาช่องเจาะเข้าไปทวงประตูตีเสมอ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่อาจเจาะแนวรับทีมเยือนได้ นาทีที่ 34 โรซิคกี้ ลากบอลเข้ามาส่องไกลจากระยะเกือบ 30 หลา บอลทำท่าจะพุ่งเรียดเสียบโคนเสาแรก แต่ โทนี่ วอร์เนอร์ ยังเหยียดมือขวาปัดออกไปได้แบบหวุดหวิด
5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อาร์เซนอล ใกล้เคียงกับการได้ลูกตีเสมอมากที่สุด เมื่อ ฟาเบรกาส จ่ายบอลจากกลางสนามทะลุแผงหลัง ฟูแล่ม ให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปทางซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะดึงจังหวะแล้วไหลเข้ามากลางให้ ฮเล็บ สอดเข้ามาแปเน้นๆ แต่ วอร์เนอร์ ยังล้มตัวเซฟด้วยขาได้อย่างเหลือเชื่อ และในจังหวะต่อเนื่อง ฟาน เพอร์ซี่ ก็กดด้วยซ้ายยัดเข้าเสาแรก วอร์เนอร์ ก็ยังล้มตัวทุบออกไปได้อีก หมดครึ่งแรก ฟูแล่ม บุกมานำแบบเซอร์ไพรส์ 1-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ลอว์รี่ ซานเชซ กุนซือทีมเยือนส่ง คลินท์ เดมพ์ซีย์ ดาวเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกาลงมา แทน บูอัซซ่า แต่ อาร์เซนอล ก็จวนเจียนจะได้ประตูตีเสมอตั้งแต่เขี่ยลูกเริ่มเล่นโดย โรซิคกี้ ได้บอลวางยาวข้ามฟากบริเวณฝั่งซ้ายก่อนแตะหนี แบร์ด เข้าไปดวลเดี่ยวกับ วอร์เนอร์ แต่นายทวารทีมเยือนที่วันนี้โชว์ฟอร์มมหาอุตม์ยังออกมาล้มตัวขวางเอาไว้ได้

3 นาทีต่อมา ฟูแล่ม เกือบช็อกแฟนบอลทั้งสนามอีกครั้งด้วยการมีลุ้นนำห่างเป็น 2-0 แต่ แม็คไบรด์ ที่ยืนอยู่โล่งๆ ในเขตโทษกลับยิงไม่คมพอ บอลไปตรงตัว เยนส์ เลห์มันน์
เข้าสู่นาทีที่ 60 โรซิคกี้ มีโอกาสเก็บตกจังหวะสองที่กองหลัง ฟูแล่ม เคลียร์ไม่ขาดแล้ววางเท้ายิงเน้นๆ บอล ไปแฉลบ ไนท์ เฉี่ยวเสาไปแบบได้ลุ้นก่อนที่ เวนเกอร์ จะแก้เกมด้วยการส่ง ธีโอ วัลคอตต์ กองหน้าดาวรุ่งลงมาเติมเกมรุกแทน เอบูเอ้ ส่วนทีมเยือนก็เอา ฮีลี คนทำประตูออกแล้วใส่ ดิโอมองซี กามารา ลงมาเพิ่มความสดในแดนหน้า
7 นาทีให้หลัง อาร์เซนอล ได้ฟรีคิกในระยะหวังผลโดย ฟาน เพอร์ซี่ รับอาสายิงบอลโค้งหนี วอร์เนอร์ ไปแล้ว แต่ลูกเลี้ยวมากเกินไปจึงผ่านเสาประตูไปแบบน่าเสียดาย ก่อนที่ปืนใหญ่จะทิ้งไพ่อีกใบด้วยการส่ง นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงมาแทน โรซิคกี้ ขณะที่ ฟูแล่ม ส่ง ปาเป้ บูบา ดิย็อป ลงมาแทน อเล็กเซ สเมอร์ติน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 73 โคโล ตูเร่ ได้ลูกจากการเตะมุมสั้นแล้วลากเข้ามาอัดเต็มข้อริมกรอบเขตโทษ แต่ วอร์เนอร์ ยังเหินกายเซฟไว้ได้อย่างเหนียวหนึบ จากนั้นอีก 2 นาที ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลทำชิ่งกับ ตูเร่ แล้วยิงด้วยซ้ายแต่บอลเบาและเข้าซองของ วอร์เนอร์ นาทีที่ 77 ฟูแล่ม ที่โดนบุกจนป้อแป้ไปพักใหญ่ก็หาจังหวะสวนกลับ โดย เดมพ์ซี่ย์ ประสานงานกับ แม็คไบรด์ ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงด้วยขวาข้างเท้าด้านนอก แต่ให้มุมกว้างไปส่งลูกออกหลังแบบไม่ค่อยได้ลุ้น
จนกระทั่ง 8 นาทีสุดท้าย เดอะ กันเนอร์ส ก็มาได้ลูกจุดโทษเสียที เมื่อ ตูเร่ พาบอลแหวกผู้เล่นทีมเยือน 2-3 คนก่อนโดนขวางล้มลงในเขตโทษ และ ฟาน เพอร์ซี่ รับหน้าที่สังหารเข้าเสยเพดานตาข่ายอย่างเฉียบขาดทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 ทว่า ในจังหวะที่จะเอาบอลกลับมาเล่นใหม่ก็มีการยื้อแย่งกันของผู้เล่นทั้ง 2 ทีมก่อนที่ ดาวด์ จะแจกใบเหลืองให้กับ โทนี่ วอร์เนอร์ และ มาติเยอ ฟลามินี่
หลังได้ลูกตีเสมอ อาร์เซนอล ก็ได้ใจและดาหน้าบุกเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง จนมาได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-1 ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ฟาเบรกาส เก็บบอลได้ก่อนงัดบอลมาให้ ฮเล็บ พักอกดึงบอลลงหนึ่งจังหวะจน แบร์ด หลงทางก่อนจะสับไกด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมอย่างเด็ดขาด โดยที่ วอร์เนอร์ พุ่งไปคนละทาง ครบ 90 นาที อาร์เซนอล พลิกกลับมาแซงชนะ ฟูแล่มได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนแรกของฤดูกาล 2007-2008 ได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, บาการี่ ซาญ่า, โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ, โทมัส โรซิคกี้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ฟูแล่ม – โทนี่ วอร์เนอร์, คริส แบร์ด, คาร์ลอส โบคาเนกร้า, แซต ไนท์, พอล คอนเชสกี้, ไซมอน เดวี่ส์, อเล็กเซ สเมอร์ติน, สตีเว่น เดวิส, อาเมอร์ บูอัซซ่า, เดวิด ฮีลี, ไบรอัน แม็คไบรด์
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2550
อาร์เซนอล ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เดวิด ฮีลี่ย์ 0-1 นาที 1), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 1-1 จุดโทษนาที 83), (อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ 2-1 นาที 90)
เชลซี ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 3-2 (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 0-1 นาที 15), (เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ 1-1 นาที 18), (ฟลอรองต์ มาลูด้า 2-1 นาที 31), (โอลิวิเยร์ กาโป 2-2 นาที 36), (มิชาเอล เอสเซียง 3-2 นาที 50)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ เรดดิ้ง 0-0
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2550
อาร์เซนอล 2 – 1 ฟูแลม
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาล 2007-2008 ประจำวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ประเดิมสนามด้วยการเฝ้าบ้านเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของตัวเองต้อนรับการมาเยือนของ ฟูแล่ม โดยนัดนี้ถือเป็นศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ด้วย
นัดนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ยังไม่ส่ง เอดูอาร์โด ดา ซิลวา หัวหอกคนใหม่ชาวโครเอเชียลงล่าตาข่าย และไม่มีในรายชื่อสำรองด้วย โดยมอบหมายให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เล่นหน้าเป้าคนเดียวในระบบ 4-5-1 ให้ โทมัส โรซิคกี้ และ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ คอยทำเกมรุกสนับสนุน แต่ บาการี่ ซาญ่า กองหลังคนใหม่ชาวฝรั่งเศสได้ลงตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา และดัน เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ขึ้นไปเล่นเป็นตัวริมเส้น
ด้าน “เจ้าสัวน้อย” ทีมเยือนจัดแจงส่ง อาเมอร์ บูอัซซ่า ปีกซ้ายหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก วัตฟอร์ด ลงประจำการทันที โดยขุมกำลังที่เหลือถือว่าฟูลทีมนำโดย ไซมอน เดวี่ส์, อเล็กเซ สเมอร์ติน และคู่หัวหอกอย่าง เดวิด ฮีลี กับ ไบรอัน แม็คไบรด์
เพียงแค่ 51 วินาทีแรกหลังเสียงนกหวีดเริ่มเกมของ ฟิล ดาวด์ ฟูแล่มก็บุกมาแหย่รังปืนได้ก่อนโดย เดวิด ฮีลี หัวหอกทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่จัดการสำเร็จโทษเข้าไปจากความผิดพลาดของ เยนส์ เลห์มันน์ ทำให้ อาร์เซนอล ตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ต้นเกม 0-1
พอถูกลูบคม เดอะ กันเนอร์ส ก็โหมเกมรุกเข้าใส่อาคันตุกะทันที นาทีที่ 11 ก็น่าจะได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ โยกหนี คริส แบร์ด แล้วกระชากเข้าเขตโทษก่อนจะถูกตามมาเสียบล้มลง แต่ ฟิล ดาวด์ ปล่อยให้เล่นต่อไป ก่อนที่อีก 2 นาทีให้หลัง โรซิคกี้ จะตวัดยิงฮาล์ฟวอลเลย์แถวจุดโทษ แต่โดนไม่เต็มเท้าบอลเฉี่ยวกรอบออกไปแบบน่าหวาดเสียว
เกมยังส่วนใหญ่คงเป็นของเจ้าถิ่น นาทีที่ 18 เอบูเอ้ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ ซาญ่า ก่อนจะหลุดเข้าไปเกือบถึงเส้นหลังแล้วหักเข้ามาตรงกลางให้ ฮเล็บ สอดเข้ามากระหน่ำแบบเน้นๆ แต่ แซต ไนท์ ยังล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้ ก่อนที่ 3 นาทีให้หลัง ฮเล็บ จะพาบอลเข้าไปในเขตโทษแล้วถูก สตีเว่น เดวิส กระแทกล้มลง แต่ ฟิล ดาวด์ ก็ยังใจแข็งไม่เป่าลูกจุดโทษให้ อาร์เซนอล
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมง ฟูแล่ม เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ และมีโอกาสตอบโต้บ้างเป็นระยะๆ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ ขณะที่พลพรรคปืนใหญ่พยายามหาช่องเจาะเข้าไปทวงประตูตีเสมอ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่อาจเจาะแนวรับทีมเยือนได้ นาทีที่ 34 โรซิคกี้ ลากบอลเข้ามาส่องไกลจากระยะเกือบ 30 หลา บอลทำท่าจะพุ่งเรียดเสียบโคนเสาแรก แต่ โทนี่ วอร์เนอร์ ยังเหยียดมือขวาปัดออกไปได้แบบหวุดหวิด
5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อาร์เซนอล ใกล้เคียงกับการได้ลูกตีเสมอมากที่สุด เมื่อ ฟาเบรกาส จ่ายบอลจากกลางสนามทะลุแผงหลัง ฟูแล่ม ให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นไปทางซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะดึงจังหวะแล้วไหลเข้ามากลางให้ ฮเล็บ สอดเข้ามาแปเน้นๆ แต่ วอร์เนอร์ ยังล้มตัวเซฟด้วยขาได้อย่างเหลือเชื่อ และในจังหวะต่อเนื่อง ฟาน เพอร์ซี่ ก็กดด้วยซ้ายยัดเข้าเสาแรก วอร์เนอร์ ก็ยังล้มตัวทุบออกไปได้อีก หมดครึ่งแรก ฟูแล่ม บุกมานำแบบเซอร์ไพรส์ 1-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ลอว์รี่ ซานเชซ กุนซือทีมเยือนส่ง คลินท์ เดมพ์ซีย์ ดาวเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกาลงมา แทน บูอัซซ่า แต่ อาร์เซนอล ก็จวนเจียนจะได้ประตูตีเสมอตั้งแต่เขี่ยลูกเริ่มเล่นโดย โรซิคกี้ ได้บอลวางยาวข้ามฟากบริเวณฝั่งซ้ายก่อนแตะหนี แบร์ด เข้าไปดวลเดี่ยวกับ วอร์เนอร์ แต่นายทวารทีมเยือนที่วันนี้โชว์ฟอร์มมหาอุตม์ยังออกมาล้มตัวขวางเอาไว้ได้
3 นาทีต่อมา ฟูแล่ม เกือบช็อกแฟนบอลทั้งสนามอีกครั้งด้วยการมีลุ้นนำห่างเป็น 2-0 แต่ แม็คไบรด์ ที่ยืนอยู่โล่งๆ ในเขตโทษกลับยิงไม่คมพอ บอลไปตรงตัว เยนส์ เลห์มันน์
เข้าสู่นาทีที่ 60 โรซิคกี้ มีโอกาสเก็บตกจังหวะสองที่กองหลัง ฟูแล่ม เคลียร์ไม่ขาดแล้ววางเท้ายิงเน้นๆ บอล ไปแฉลบ ไนท์ เฉี่ยวเสาไปแบบได้ลุ้นก่อนที่ เวนเกอร์ จะแก้เกมด้วยการส่ง ธีโอ วัลคอตต์ กองหน้าดาวรุ่งลงมาเติมเกมรุกแทน เอบูเอ้ ส่วนทีมเยือนก็เอา ฮีลี คนทำประตูออกแล้วใส่ ดิโอมองซี กามารา ลงมาเพิ่มความสดในแดนหน้า
7 นาทีให้หลัง อาร์เซนอล ได้ฟรีคิกในระยะหวังผลโดย ฟาน เพอร์ซี่ รับอาสายิงบอลโค้งหนี วอร์เนอร์ ไปแล้ว แต่ลูกเลี้ยวมากเกินไปจึงผ่านเสาประตูไปแบบน่าเสียดาย ก่อนที่ปืนใหญ่จะทิ้งไพ่อีกใบด้วยการส่ง นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงมาแทน โรซิคกี้ ขณะที่ ฟูแล่ม ส่ง ปาเป้ บูบา ดิย็อป ลงมาแทน อเล็กเซ สเมอร์ติน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 73 โคโล ตูเร่ ได้ลูกจากการเตะมุมสั้นแล้วลากเข้ามาอัดเต็มข้อริมกรอบเขตโทษ แต่ วอร์เนอร์ ยังเหินกายเซฟไว้ได้อย่างเหนียวหนึบ จากนั้นอีก 2 นาที ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลทำชิ่งกับ ตูเร่ แล้วยิงด้วยซ้ายแต่บอลเบาและเข้าซองของ วอร์เนอร์ นาทีที่ 77 ฟูแล่ม ที่โดนบุกจนป้อแป้ไปพักใหญ่ก็หาจังหวะสวนกลับ โดย เดมพ์ซี่ย์ ประสานงานกับ แม็คไบรด์ ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงด้วยขวาข้างเท้าด้านนอก แต่ให้มุมกว้างไปส่งลูกออกหลังแบบไม่ค่อยได้ลุ้น
จนกระทั่ง 8 นาทีสุดท้าย เดอะ กันเนอร์ส ก็มาได้ลูกจุดโทษเสียที เมื่อ ตูเร่ พาบอลแหวกผู้เล่นทีมเยือน 2-3 คนก่อนโดนขวางล้มลงในเขตโทษ และ ฟาน เพอร์ซี่ รับหน้าที่สังหารเข้าเสยเพดานตาข่ายอย่างเฉียบขาดทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 ทว่า ในจังหวะที่จะเอาบอลกลับมาเล่นใหม่ก็มีการยื้อแย่งกันของผู้เล่นทั้ง 2 ทีมก่อนที่ ดาวด์ จะแจกใบเหลืองให้กับ โทนี่ วอร์เนอร์ และ มาติเยอ ฟลามินี่
หลังได้ลูกตีเสมอ อาร์เซนอล ก็ได้ใจและดาหน้าบุกเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง จนมาได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-1 ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ฟาเบรกาส เก็บบอลได้ก่อนงัดบอลมาให้ ฮเล็บ พักอกดึงบอลลงหนึ่งจังหวะจน แบร์ด หลงทางก่อนจะสับไกด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมอย่างเด็ดขาด โดยที่ วอร์เนอร์ พุ่งไปคนละทาง ครบ 90 นาที อาร์เซนอล พลิกกลับมาแซงชนะ ฟูแล่มได้ 2-1 เก็บ 3 คะแนนแรกของฤดูกาล 2007-2008 ได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, บาการี่ ซาญ่า, โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ, โทมัส โรซิคกี้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ฟูแล่ม – โทนี่ วอร์เนอร์, คริส แบร์ด, คาร์ลอส โบคาเนกร้า, แซต ไนท์, พอล คอนเชสกี้, ไซมอน เดวี่ส์, อเล็กเซ สเมอร์ติน, สตีเว่น เดวิส, อาเมอร์ บูอัซซ่า, เดวิด ฮีลี, ไบรอัน แม็คไบรด์
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2550
อาร์เซนอล ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เดวิด ฮีลี่ย์ 0-1 นาที 1), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 1-1 จุดโทษนาที 83), (อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ 2-1 นาที 90)
เชลซี ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 3-2 (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 0-1 นาที 15), (เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ 1-1 นาที 18), (ฟลอรองต์ มาลูด้า 2-1 นาที 31), (โอลิวิเยร์ กาโป 2-2 นาที 36), (มิชาเอล เอสเซียง 3-2 นาที 50)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ เรดดิ้ง 0-0