คาร์ลอส บูเซอร์ โชว์ฟอร์มคุ้มเงินทุกดอลล่าร์เก็บไปคนเดียว 35 แต้ม มีส่วนสำคัญในการพา ยูท่าห์ แจ๊ซซ์ บุกโค่น ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ถึงถิ่น 103-99 คะแนน พลิกสถานการณ์เข้าสู่เพลย์ออฟรอบสองของศึกบาสเกตบอล NBA ประจำฤดูกาล 2006/07
ที่ฮุสตัน : ซีรี่ส์บ้านใครบ้านมันที่ดวลกันมา 6 เกม มาจบลงที่น้ำตาของแฟนๆ เจ้าถิ่นเสียอย่างนั้น เมื่อ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ไม่สามารถอาศัยความได้เปรียบจากสิทธิ Home Court Advantage ปราชัยคา โตโยต้า เซ็นเตอร์ ให้แก่ทีมพลังหนุ่มอย่าง ยูท่าห์ แจ๊ซซ์ 99-103 คะแนน
โดยทีมเยือนได้ คาร์ลอส บูเซอร์ ฟอร์เวิร์ดฟรีเอเย่นต์ที่ทีมไปดึงมาจาก คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส เมื่อสามปีที่แล้ว โชว์ไปคนเดียว 35 แต้ม 14 รีบาวด์ 5 แอสซิสต์ เดรอน วิลเลี่ยมส์ การ์ดดาวรุ่งจ่ายไปถึง 14 แอสซิสต์ และก็ทำเองไป 20 แต้ม เพิ่มเติมกับ เมห์เม็ต โอคัวร์ เซ็นเตอร์ทีมชาติตุรกีอีก 16 แต้ม 11 รีบาวด์ ทำให้ แจ๊ซซ์ ทะลุเข้าสู่รอบสองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคที่เฟรนไชส์เคยมี จอห์น สต็อคตัน และคาร์ล มาโลน เป็นความหวังสูงสุด
นอกจากนี้ แจ๊ซซ์ ยังกลายเป็นทีมที่ 7 ในประวัติศาสตร์ NBA และเป็นทีมล่าสุดจากปี 2001 ที่พลิกสถานการณ์จากเป็นรอง 0-2 เกม แต่กลับมาพิชิตชัยในซีรี่ส์สำเร็จ ทำให้ลูกทีมของ เจอร์รี่ สโลน ทีมอันดับ 4 ของฝั่งตะวันตก เตรียมกลับไปเฝ้าบ้านรับการมาเยือนของเหล่า “นักรบ” โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ทีมอันดับ 8 ที่แผลงฤทธิ์พลิกล็อกเอาชนะ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ซึ่งมีสถิติดีที่สุดในลีกช่วงฤดูกาลปกติมาได้ 4-2 เกม
ด้านเจ้าบ้านแม้ว่าคู่ประสาน เหยา หมิง และเทรซี่ย์ แม็คเกรดี้ จะเก็บไปคนละ 29 แต้ม โดยเซ็นเตอร์ทีมชาติจีนมีอีก 6 รีบาวด์ “ที-แม็ค” ได้มาอีก 13 แอสซิสต์ 5 รีบาวด์ เชน เบ็ตติเย่ร์ สอยเพิ่ม 16 แต้ม 4 รีบาวด์ 3 แอสซิสต์ แต่ ร็อคเก็ตส์ ยังพ่ายซีรี่ส์ไปอย่างเจ็บปวด 3-4 เกม ซ้ำรอยเมื่อปี 2005 ที่นำ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ 2-0 เกมแต่ก็พลิกตกรอบไป อีกทั้ง แม็คเกรดี้ ดีกรีออล-สตาร์ 7 สมัย เหมือนต้องคำสาป พ่ายในเพลย์ออฟทั้ง 6 ซีรี่ส์ที่ลงสนาม
ส่วนผลการแข่งขันทางฝั่งตะวันออกเป็นศึกเพลย์ออฟ รอบสอง เกมแรก ปรากฏว่า ดีทรอยต์ พิสตันส์ อาศัย ริชาร์ด แฮมิลตัน และชอนซี่ย์ บิลล์อัพส์ เก็บไปคนละ 20 แต้ม ผนวกกับเกมรับอันเลื่องชื่อเปิดบ้านหยุดซ่า “กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก้ บูลส์ 95-69 คะแนน ออกนำซีรี่ส์ไปก่อน 1-0 เกม
ที่ฮุสตัน : ซีรี่ส์บ้านใครบ้านมันที่ดวลกันมา 6 เกม มาจบลงที่น้ำตาของแฟนๆ เจ้าถิ่นเสียอย่างนั้น เมื่อ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ไม่สามารถอาศัยความได้เปรียบจากสิทธิ Home Court Advantage ปราชัยคา โตโยต้า เซ็นเตอร์ ให้แก่ทีมพลังหนุ่มอย่าง ยูท่าห์ แจ๊ซซ์ 99-103 คะแนน
โดยทีมเยือนได้ คาร์ลอส บูเซอร์ ฟอร์เวิร์ดฟรีเอเย่นต์ที่ทีมไปดึงมาจาก คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส เมื่อสามปีที่แล้ว โชว์ไปคนเดียว 35 แต้ม 14 รีบาวด์ 5 แอสซิสต์ เดรอน วิลเลี่ยมส์ การ์ดดาวรุ่งจ่ายไปถึง 14 แอสซิสต์ และก็ทำเองไป 20 แต้ม เพิ่มเติมกับ เมห์เม็ต โอคัวร์ เซ็นเตอร์ทีมชาติตุรกีอีก 16 แต้ม 11 รีบาวด์ ทำให้ แจ๊ซซ์ ทะลุเข้าสู่รอบสองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคที่เฟรนไชส์เคยมี จอห์น สต็อคตัน และคาร์ล มาโลน เป็นความหวังสูงสุด
นอกจากนี้ แจ๊ซซ์ ยังกลายเป็นทีมที่ 7 ในประวัติศาสตร์ NBA และเป็นทีมล่าสุดจากปี 2001 ที่พลิกสถานการณ์จากเป็นรอง 0-2 เกม แต่กลับมาพิชิตชัยในซีรี่ส์สำเร็จ ทำให้ลูกทีมของ เจอร์รี่ สโลน ทีมอันดับ 4 ของฝั่งตะวันตก เตรียมกลับไปเฝ้าบ้านรับการมาเยือนของเหล่า “นักรบ” โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ทีมอันดับ 8 ที่แผลงฤทธิ์พลิกล็อกเอาชนะ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ซึ่งมีสถิติดีที่สุดในลีกช่วงฤดูกาลปกติมาได้ 4-2 เกม
ด้านเจ้าบ้านแม้ว่าคู่ประสาน เหยา หมิง และเทรซี่ย์ แม็คเกรดี้ จะเก็บไปคนละ 29 แต้ม โดยเซ็นเตอร์ทีมชาติจีนมีอีก 6 รีบาวด์ “ที-แม็ค” ได้มาอีก 13 แอสซิสต์ 5 รีบาวด์ เชน เบ็ตติเย่ร์ สอยเพิ่ม 16 แต้ม 4 รีบาวด์ 3 แอสซิสต์ แต่ ร็อคเก็ตส์ ยังพ่ายซีรี่ส์ไปอย่างเจ็บปวด 3-4 เกม ซ้ำรอยเมื่อปี 2005 ที่นำ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ 2-0 เกมแต่ก็พลิกตกรอบไป อีกทั้ง แม็คเกรดี้ ดีกรีออล-สตาร์ 7 สมัย เหมือนต้องคำสาป พ่ายในเพลย์ออฟทั้ง 6 ซีรี่ส์ที่ลงสนาม
ส่วนผลการแข่งขันทางฝั่งตะวันออกเป็นศึกเพลย์ออฟ รอบสอง เกมแรก ปรากฏว่า ดีทรอยต์ พิสตันส์ อาศัย ริชาร์ด แฮมิลตัน และชอนซี่ย์ บิลล์อัพส์ เก็บไปคนละ 20 แต้ม ผนวกกับเกมรับอันเลื่องชื่อเปิดบ้านหยุดซ่า “กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก้ บูลส์ 95-69 คะแนน ออกนำซีรี่ส์ไปก่อน 1-0 เกม