"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่กระซวกอาคันตุกะ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ไม่เหลือซาก 4-1 เวย์น รูนี่ย์ และ ปาร์ค จี ซอง ช่วยกันเหมาคนละสองประตู นำเป็นจ่าฝูงต่อไปในเกม พรีเมียร์ชิป เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส
จ่าฝูง แมนฯยู เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ โบลตัน ทีมอันดับ 5 เจ้าถิ่นส่ง เวย์น รูนี่ย์ เป็นหอกตัวเป้าเนื่องจากนักเตะบาดเจ็บระนาว แต่ว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่มีข่าวว่าเจ็บผ่านความฟิตลงคุมแนวรับ ส่วนทีมเยือนพัก เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง
แมนฯยู เกือบนำตั้งแต่ 6 นาทีแรกเมื่อ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น นายด่าน โบลตัน ทุบบอลมาตกตรงหน้า แต่ว่า ปาร์ค จี ซอง กลับซ้ำข้ามคาน เจ้าถิ่นโชคร้ายต้องเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 11 เมื่อ แกรี่ เนวิลล์ โดน แกรี่ สปีด เสียบเข้าที่ข้อเท้าเล่นต่อไม่ไหว โดยเป็น เวส บราวน์ ที่ลงมาแทน
นาทีที่ 14 รูนี่ย์ โหม่งชงให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระชากบอลถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนตบเรียดย้อนเข้ากลางให้กับ ปาร์ค แปเข้าไป แมนฯยู นำ 1-0 จากนั้น 3 นาทีก็หนีไปเป็น 2-0 ในจังหวะโต้กลับ โรนัลโด้ พาบอลขึ้นมาก่อนดีดออกซ้ายให้กับ รูนี่ย์ กระดกข้าม ยัสเคไลเน่น ตุงตาข่าย
แมนฯยู มาฉีกเป็น 3-0 ในนาทีที่ 25 เมื่อ โรนัลโด้ ยิงไกลด้วยซ้ายนอกเขตประมาณ 20 หลา ยัสเคไลเน่น ล้มตัวทุบบอลออกมา ปาร์ค ไวทายาทปรี่เข้าซ้ำไม่เหลือ หลังจากโดนนำห่าง โบลตัน เปลี่ยนตัวส่ง ดิยุฟ ลงมาแทน เฮนริค พีเดอร์เซ่น ครบ 45 นาที แมนฯยู นำอยู่ 3-0
ครึ่งหลังผ่านไป 7 นาที โบลตัน ถอด เควิน เดวี่ส์ ที่ไม่ฟิตเต็มร้อยออกและส่ง อันดรานิค เตย์มูเรี่ยน กองกลางชาวอิหร่าน ลงมาแทน นาทีที่ 55 แมนฯยู เปลี่ยนตัวเก็บ ไรอัน กิ๊กส์ และส่ง คีแรน ริชาร์ดสัน ลงมาลากเลื้อยแทน
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมนี้ของ โบลตัน เกิดขึ้นในนาทีที่ 63 จากลูกทุ่มทางด้านขวา เนมานย่า วิดิช โหม่งสกัดไม่ดีไปเข้าทาง นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ฮาล์ฟวอลเลย์สวนข้ามคานออกหลังไปไกล แมนฯยู เกือบหนีห่างไปอีกในนาทีที่ 68 เมื่อ โรนัลโด้ ลากจี้ก่อนสับไกยิงแต่ว่าตรงตัว ยัสเคไลเน่น ที่ปัดไปได้
นาทีที่ 70 แมนฯยู เก็บ โรนัลโด้ และส่ง อลัน สมิธ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ลงมา โบลตัน เน้นมาใช้แท็คติกเช็กล้ำหน้าซึ่งก็พลาด สมิธ กระดกให้กับ รูนี่ย์ สปีดหนีเข้าไปเอี่ยวตัววอลเลย์เสียบเสาสองสุดสวยส่ง แมนฯยู หนีไปเป็น 4-0 ในนาทีที่ 74
ก่อนหมดเวลา 4 นาที วิดิช ผลัก อับดูลาเย่ ฟาย นิดเดียวกรรมการเป่าเป็นจุดโทษและเป็น สปีด ซัดเข้าไปให้ โบลตัน ตีไข่แตกเป็น 4-1 แต่หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯยู เอาชนะ โบลตัน ท่วมท้น 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 75 คะแนนจาก 30 นัดนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยทิ้ง เชลซี ไปเป็น 6 คะแนนเท่าเดิม ส่วน โบลตัน แพ้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด - โทมัส คูส์ซแซค, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, กาเบรียล ไฮน์เซ่, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, จอห์น โอเชีย, ปาร์ค จี ซอง, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์
โบลตัน - ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, ทาล เบน ฮาอิม, นิคกี้ ฮันท์, อีบัน คัมโป, อับดูลาเย่ ฟาย, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน โนแลน, แกรี่ สปีด, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เควิน เดวี่ส์, เฮนริค พีเดอร์เซ่น
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2550
เชลซี ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 (อังเดร เชฟเชนโก้ 1-0 นาที 4), (ซาโลมอน คาลู 2-0 นาที 17), (มิเชล บัลลัค 3-0 นาที 58)
มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (ซิลแวง ดิสแตง 0-1 นาที 61), (เอมิล เอ็มเพนซ่า 0-2 นาที 74)
เรดดิ้ง เสมอ ปอร์ทสมัธ 0-0
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ชนะ วัตฟอร์ด 3-1 (เจอร์เมน เจนาส 1-0 นาที 41), (พอล โรบินสัน 2-0 นาที 63), (ฮอสซัม กาห์ลี่ 3-0 นาที 85), (ดาริอุส เฮนเดอร์สัน 3-1 นาที 89)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ฟูแล่ม 0-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 4-1 (ปาร์ค จี ซอง 1-0 นาที 14), (เวย์น รูนี่ย์ 2-0 นาที 17), (ปาร์ค จี ซอง 3-0 นาที 25), (เวย์น รูนีย์ 4-0 นาที 74), (แกรี่ สปีด 4-1 จุดโทษนาที 86)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 1-2 (คริสโตเฟอร์ แซมบ้า 1-0 นาที 47), (คาร์ลอส เตเบซ 1-1 จุดโทษนาที 72), (บ็อบบี้ ซาโมร่า 1-2 นาที 75)
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 1 โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส
จ่าฝูง แมนฯยู เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ โบลตัน ทีมอันดับ 5 เจ้าถิ่นส่ง เวย์น รูนี่ย์ เป็นหอกตัวเป้าเนื่องจากนักเตะบาดเจ็บระนาว แต่ว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่มีข่าวว่าเจ็บผ่านความฟิตลงคุมแนวรับ ส่วนทีมเยือนพัก เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ เป็นเพียงแค่ตัวสำรอง
แมนฯยู เกือบนำตั้งแต่ 6 นาทีแรกเมื่อ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น นายด่าน โบลตัน ทุบบอลมาตกตรงหน้า แต่ว่า ปาร์ค จี ซอง กลับซ้ำข้ามคาน เจ้าถิ่นโชคร้ายต้องเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 11 เมื่อ แกรี่ เนวิลล์ โดน แกรี่ สปีด เสียบเข้าที่ข้อเท้าเล่นต่อไม่ไหว โดยเป็น เวส บราวน์ ที่ลงมาแทน
นาทีที่ 14 รูนี่ย์ โหม่งชงให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กระชากบอลถึงสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนตบเรียดย้อนเข้ากลางให้กับ ปาร์ค แปเข้าไป แมนฯยู นำ 1-0 จากนั้น 3 นาทีก็หนีไปเป็น 2-0 ในจังหวะโต้กลับ โรนัลโด้ พาบอลขึ้นมาก่อนดีดออกซ้ายให้กับ รูนี่ย์ กระดกข้าม ยัสเคไลเน่น ตุงตาข่าย
แมนฯยู มาฉีกเป็น 3-0 ในนาทีที่ 25 เมื่อ โรนัลโด้ ยิงไกลด้วยซ้ายนอกเขตประมาณ 20 หลา ยัสเคไลเน่น ล้มตัวทุบบอลออกมา ปาร์ค ไวทายาทปรี่เข้าซ้ำไม่เหลือ หลังจากโดนนำห่าง โบลตัน เปลี่ยนตัวส่ง ดิยุฟ ลงมาแทน เฮนริค พีเดอร์เซ่น ครบ 45 นาที แมนฯยู นำอยู่ 3-0
ครึ่งหลังผ่านไป 7 นาที โบลตัน ถอด เควิน เดวี่ส์ ที่ไม่ฟิตเต็มร้อยออกและส่ง อันดรานิค เตย์มูเรี่ยน กองกลางชาวอิหร่าน ลงมาแทน นาทีที่ 55 แมนฯยู เปลี่ยนตัวเก็บ ไรอัน กิ๊กส์ และส่ง คีแรน ริชาร์ดสัน ลงมาลากเลื้อยแทน
โอกาสลุ้นครั้งแรกในเกมนี้ของ โบลตัน เกิดขึ้นในนาทีที่ 63 จากลูกทุ่มทางด้านขวา เนมานย่า วิดิช โหม่งสกัดไม่ดีไปเข้าทาง นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ฮาล์ฟวอลเลย์สวนข้ามคานออกหลังไปไกล แมนฯยู เกือบหนีห่างไปอีกในนาทีที่ 68 เมื่อ โรนัลโด้ ลากจี้ก่อนสับไกยิงแต่ว่าตรงตัว ยัสเคไลเน่น ที่ปัดไปได้
นาทีที่ 70 แมนฯยู เก็บ โรนัลโด้ และส่ง อลัน สมิธ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ลงมา โบลตัน เน้นมาใช้แท็คติกเช็กล้ำหน้าซึ่งก็พลาด สมิธ กระดกให้กับ รูนี่ย์ สปีดหนีเข้าไปเอี่ยวตัววอลเลย์เสียบเสาสองสุดสวยส่ง แมนฯยู หนีไปเป็น 4-0 ในนาทีที่ 74
ก่อนหมดเวลา 4 นาที วิดิช ผลัก อับดูลาเย่ ฟาย นิดเดียวกรรมการเป่าเป็นจุดโทษและเป็น สปีด ซัดเข้าไปให้ โบลตัน ตีไข่แตกเป็น 4-1 แต่หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯยู เอาชนะ โบลตัน ท่วมท้น 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 75 คะแนนจาก 30 นัดนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยทิ้ง เชลซี ไปเป็น 6 คะแนนเท่าเดิม ส่วน โบลตัน แพ้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด - โทมัส คูส์ซแซค, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, กาเบรียล ไฮน์เซ่, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, จอห์น โอเชีย, ปาร์ค จี ซอง, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์
โบลตัน - ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, ทาล เบน ฮาอิม, นิคกี้ ฮันท์, อีบัน คัมโป, อับดูลาเย่ ฟาย, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน โนแลน, แกรี่ สปีด, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เควิน เดวี่ส์, เฮนริค พีเดอร์เซ่น
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2550
เชลซี ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 (อังเดร เชฟเชนโก้ 1-0 นาที 4), (ซาโลมอน คาลู 2-0 นาที 17), (มิเชล บัลลัค 3-0 นาที 58)
มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (ซิลแวง ดิสแตง 0-1 นาที 61), (เอมิล เอ็มเพนซ่า 0-2 นาที 74)
เรดดิ้ง เสมอ ปอร์ทสมัธ 0-0
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ชนะ วัตฟอร์ด 3-1 (เจอร์เมน เจนาส 1-0 นาที 41), (พอล โรบินสัน 2-0 นาที 63), (ฮอสซัม กาห์ลี่ 3-0 นาที 85), (ดาริอุส เฮนเดอร์สัน 3-1 นาที 89)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ฟูแล่ม 0-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 4-1 (ปาร์ค จี ซอง 1-0 นาที 14), (เวย์น รูนี่ย์ 2-0 นาที 17), (ปาร์ค จี ซอง 3-0 นาที 25), (เวย์น รูนีย์ 4-0 นาที 74), (แกรี่ สปีด 4-1 จุดโทษนาที 86)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด 1-2 (คริสโตเฟอร์ แซมบ้า 1-0 นาที 47), (คาร์ลอส เตเบซ 1-1 จุดโทษนาที 72), (บ็อบบี้ ซาโมร่า 1-2 นาที 75)