เคร็ก เบลลามี่ ควงคู่ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ช่วยกันทำประตูให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลิกล็อกบุกไปแซงชนะ “แชมป์เก่า” บาร์เซโลน่า 2-1 ด้าน “สิงห์บลูส์” เชลซี อาศัยลูกยิงของ อังเดร เชฟเชนโก้ ทีมจึงบุกไปตีเสมอ เอฟซี ปอร์โต้ 1-1 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำคืนวันพุธ
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-2 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
แฟร้งค์ ไรจ์การ์ท นำทัพ “แชมป์เก่า” บาร์เซโลน่า เปิดรังคัมป์ นู รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้กุนซือชาวดัตช์ไม่ใส่ชื่อ ซามูเอล เอโต้ ซึ่งมีปัญหากันก่อนหน้านี้ไว้ในทีม โดยเกมรุกเป็นการประสานงานกันระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ , ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า และโรนัลดินโญ่ ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับแต่งทีม “หงส์แดง” ด้วยการให้ อัลบาโร่ อาร์เบลัว ยืนแบ็กขวา พร้อมกับดัน สตีฟ ฟินแนน ไปเล่นปีกขวา ส่วน ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ และเคร็ก เบลลามี่ ซึ่งมีข่าวว่าทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือได้ลงสนามด้วยกันทั้งคู่
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นตั้งแต่นาทีที่ 5 เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด งัดบอลหลุดกับดักล้ำหน้าให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ หลุดไปทางด้านซ้ายเห็น เคร็ก เบลลามี่ อยู่ตรงกลางแต่แบ็กซ้ายเท้าหนักดันเปิดบอลแรงเกินไป ทำให้ดาวยิงซึ่งเพิ่งมีปัญหาทะเลาะกันเข้าบอลไม่ถึง แม้ว่าทีมเยือนจะครองบอลได้ดีกว่า แต่จังหวะสวนของ บาร์เซโลน่า เกือบเป็นผลเมื่อ โรนัลดินโญ่ ดีดบอลเร็วให้ ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า หลุดเดี่ยวไปยิงติดตัว โฮเซ่ เรน่า แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
เจ้าบ้านเริ่มจับจังหวะได้และก็เร่งเครื่องเป็นการใหญ่ โรนัลดินโญ่ ทำชิ่งกับเพื่อนหลุดเข้าเขตโทษแต่โดน สตีฟ ฟินแนน เบียดล้มลงแต่ผู้ตัดสินจากกรีซยังใจแข็ง ไม่กี่ฮึดใจการทำชิ่งเร็วของเจ้าถิ่นเกือบได้ผลอีกเมื่อ ซาวิโอล่า ได้ยิงจ่อๆ แต่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ แหย่เท้าสกัดได้ทัน หลังจากบี้อยู่พักหนึ่ง บาร์เซโลน่า มาขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ จิอันลูก้า ซามบร็อตต้า กระชากเติมขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนเปิดบอลไปเสาสองให้ เดโก้ ซูซ่า โหม่งบอลเสียบโคนเสาเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 14
ผ่านครึ่งชั่วโมงเกมตกเป็นของ บาร์เซโลน่า อย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะการครองบอล อย่างไรก็ตาม แข้ง “เลือดหมู-น้ำเงิน” ผ่อนเกมลงไปทำให้ “หงส์แดง” ได้ลุ้นในนาทีที่ 37 เมื่อ เจอร์ราร์ด ปั่นฟรีคิกด้านซ้ายไปให้ เบลลามี่ ได้โหม่งที่เสาสองแต่บอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย แต่อีก 6 นาทีถัดมา เบลลามี่ แก้ตัวสำเร็จพุ่งโหม่งลูกเปิดฟรีคิกจากกลางสนามของ ชาบี้ อลอนโซ่ แม้ บิคตอร์ บัลเดส จะรับไว้ได้แต่บอลเลยผ่านเส้นประตูไปแล้วทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์มาเสมอกันที่ 1-1
เปิดฉากครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ดันเกมขึ้นมาก่อนและก็มาได้ลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ด ลองซัดด้วยขวาระยะประมาณ 30 หลาบอลพุ่งไปตรงตัว บัลเดส ผ่านไปสิบนาที บาร์เซโลน่า ดูจะตันๆ ไม่สามารถขึ้นเกมได้ทำให้ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ท ต้องแก้เกมด้วยการส่ง อันเดรส อิเนสต้า ลงมาเล่นแทน ติอาโก้ ม็อตต้า หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมของเจ้าบ้านยังไม่ดีขึ้น กุนซือชาวดัตช์จึงต้องเติม ลูโดวิช ชูลี่ ซึ่งเป็นผู้เล่นประเภทเกมรุกมาเล่นแทน ชาบี้ เออร์นานเดซ
อีก 8 นาทีถัดมาความเฟอะฟะของ บัลเดส เกือบทำให้ทีมเยือนได้เฮ เมื่อนายทวารบาร์ซ่ารับบอลคืนหลังจากเพื่อนทำให้เสียลูกฟรีคิกสองจังหวะในกรอบโทษ อลอนโซ่ เขี่ยบอลให้ เจอร์ราร์ด ยิง บัลเดส ใช้เท้าเซฟไม่พ้นอันตราย รีเซ่ เปิดบอลจากซ้ายไปเสาสองให้ เดิร์ค เคาท์ ได้โหม่งจ่อๆ แต่ดันโขกบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย เจ้าถิ่นมาฮึดบุกอีกครั้ง เมสซี่ ลากเลื้อยเข้าเขตโทษก่อนจิ้มบอลให้ ซาวิโอล่า ยิงไปติดตัว เรน่า บอลกระเด้งมาเข้าทาง เมสซี่ ล็อคหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวาบอลไปแฉลบ อาร์เบลัว ออกหลังไป แต่ถึงนาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1 เมื่อ เคาท์ ได้จังหวะหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงติดบล็อกของนายทวาร ราฟาเอล มาร์เกซ โหม่งเคลียร์ไม่ขาดทำให้ เบลลามี่ ได้บอลก่อนไหลให้ รีเซ่ ยิงบอลเสียบตาข่าย
สิบนาทีท้าย บาร์เซโลน่า ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ลงมาล่าตาข่ายแทน ซาวิโอล่า นาทีที่ 87 เจ้าถิ่นดูเหมือนจะไม่มีโชคเมื่อลูกปั่นฟรีคิกทางฝั่งขวาของ เดโก้ ลอยละลิ่วไปกระแทกเสาออกมาเต็มๆ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล บุกมาพลิกแซงชนะ 2-1 มีโอกาสเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสูงทีเดียว เนื่องจากอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะได้กลับไปเล่นที่รังแอนฟิลด์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส , ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ , คาร์เลส ปูโยล , ราฟาเอล มาร์เกซ , จิอันลูก้า ซามบร็อตต้า , ชาบี้ เออร์นานเดซ , ติอาโก้ ม็อตต้า , เดโก้ ซูซ่า , ลิโอเนล เมสซี่ , ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า , โรนัลดินโญ่
ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , อัลบาโร่ อาร์เบลัว , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอ๊กเกอร์ , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , สตีฟ ฟินแนน , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ชาบี้ อลอนโซ่ , โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ , เคร็ก เบลลามี่ , เดิร์ค เคาท์
ผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำคืนวันพุธ
บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-2 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
[1-0 : เดโก้ ซูซ่า (น.14) , 1-1 : เคร็ก เบลลามี่ (น.43) , 1-2 : ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (น.74)]
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 2-2 บาเลนเซีย (สเปน)
[1-0 : เอสเตบัน คัมบิอาสโซ่ (น.29) , 1-1 : ดาวิด บีญ่า (น.64) , 2-1 : ดั๊กลาส ไมค่อน (น.76) , 2-2 : ดาวิด ซิลวา (น.86)]
ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 1-1 เชลซี (อังกฤษ)
[1-0 : ราอูล เมยเรเลส (น.12) , 1-1 : อังเดร เชฟเชนโก้ (น.16)]
โรม่า (อิตาลี) 0-0 โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส)
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-2 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
แฟร้งค์ ไรจ์การ์ท นำทัพ “แชมป์เก่า” บาร์เซโลน่า เปิดรังคัมป์ นู รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้กุนซือชาวดัตช์ไม่ใส่ชื่อ ซามูเอล เอโต้ ซึ่งมีปัญหากันก่อนหน้านี้ไว้ในทีม โดยเกมรุกเป็นการประสานงานกันระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ , ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า และโรนัลดินโญ่ ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ ปรับแต่งทีม “หงส์แดง” ด้วยการให้ อัลบาโร่ อาร์เบลัว ยืนแบ็กขวา พร้อมกับดัน สตีฟ ฟินแนน ไปเล่นปีกขวา ส่วน ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ และเคร็ก เบลลามี่ ซึ่งมีข่าวว่าทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือได้ลงสนามด้วยกันทั้งคู่
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นตั้งแต่นาทีที่ 5 เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด งัดบอลหลุดกับดักล้ำหน้าให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ หลุดไปทางด้านซ้ายเห็น เคร็ก เบลลามี่ อยู่ตรงกลางแต่แบ็กซ้ายเท้าหนักดันเปิดบอลแรงเกินไป ทำให้ดาวยิงซึ่งเพิ่งมีปัญหาทะเลาะกันเข้าบอลไม่ถึง แม้ว่าทีมเยือนจะครองบอลได้ดีกว่า แต่จังหวะสวนของ บาร์เซโลน่า เกือบเป็นผลเมื่อ โรนัลดินโญ่ ดีดบอลเร็วให้ ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า หลุดเดี่ยวไปยิงติดตัว โฮเซ่ เรน่า แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
เจ้าบ้านเริ่มจับจังหวะได้และก็เร่งเครื่องเป็นการใหญ่ โรนัลดินโญ่ ทำชิ่งกับเพื่อนหลุดเข้าเขตโทษแต่โดน สตีฟ ฟินแนน เบียดล้มลงแต่ผู้ตัดสินจากกรีซยังใจแข็ง ไม่กี่ฮึดใจการทำชิ่งเร็วของเจ้าถิ่นเกือบได้ผลอีกเมื่อ ซาวิโอล่า ได้ยิงจ่อๆ แต่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ แหย่เท้าสกัดได้ทัน หลังจากบี้อยู่พักหนึ่ง บาร์เซโลน่า มาขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ จิอันลูก้า ซามบร็อตต้า กระชากเติมขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนเปิดบอลไปเสาสองให้ เดโก้ ซูซ่า โหม่งบอลเสียบโคนเสาเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 14
ผ่านครึ่งชั่วโมงเกมตกเป็นของ บาร์เซโลน่า อย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะการครองบอล อย่างไรก็ตาม แข้ง “เลือดหมู-น้ำเงิน” ผ่อนเกมลงไปทำให้ “หงส์แดง” ได้ลุ้นในนาทีที่ 37 เมื่อ เจอร์ราร์ด ปั่นฟรีคิกด้านซ้ายไปให้ เบลลามี่ ได้โหม่งที่เสาสองแต่บอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย แต่อีก 6 นาทีถัดมา เบลลามี่ แก้ตัวสำเร็จพุ่งโหม่งลูกเปิดฟรีคิกจากกลางสนามของ ชาบี้ อลอนโซ่ แม้ บิคตอร์ บัลเดส จะรับไว้ได้แต่บอลเลยผ่านเส้นประตูไปแล้วทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์มาเสมอกันที่ 1-1
เปิดฉากครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ดันเกมขึ้นมาก่อนและก็มาได้ลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ด ลองซัดด้วยขวาระยะประมาณ 30 หลาบอลพุ่งไปตรงตัว บัลเดส ผ่านไปสิบนาที บาร์เซโลน่า ดูจะตันๆ ไม่สามารถขึ้นเกมได้ทำให้ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ท ต้องแก้เกมด้วยการส่ง อันเดรส อิเนสต้า ลงมาเล่นแทน ติอาโก้ ม็อตต้า หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมของเจ้าบ้านยังไม่ดีขึ้น กุนซือชาวดัตช์จึงต้องเติม ลูโดวิช ชูลี่ ซึ่งเป็นผู้เล่นประเภทเกมรุกมาเล่นแทน ชาบี้ เออร์นานเดซ
อีก 8 นาทีถัดมาความเฟอะฟะของ บัลเดส เกือบทำให้ทีมเยือนได้เฮ เมื่อนายทวารบาร์ซ่ารับบอลคืนหลังจากเพื่อนทำให้เสียลูกฟรีคิกสองจังหวะในกรอบโทษ อลอนโซ่ เขี่ยบอลให้ เจอร์ราร์ด ยิง บัลเดส ใช้เท้าเซฟไม่พ้นอันตราย รีเซ่ เปิดบอลจากซ้ายไปเสาสองให้ เดิร์ค เคาท์ ได้โหม่งจ่อๆ แต่ดันโขกบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย เจ้าถิ่นมาฮึดบุกอีกครั้ง เมสซี่ ลากเลื้อยเข้าเขตโทษก่อนจิ้มบอลให้ ซาวิโอล่า ยิงไปติดตัว เรน่า บอลกระเด้งมาเข้าทาง เมสซี่ ล็อคหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวาบอลไปแฉลบ อาร์เบลัว ออกหลังไป แต่ถึงนาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1 เมื่อ เคาท์ ได้จังหวะหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงติดบล็อกของนายทวาร ราฟาเอล มาร์เกซ โหม่งเคลียร์ไม่ขาดทำให้ เบลลามี่ ได้บอลก่อนไหลให้ รีเซ่ ยิงบอลเสียบตาข่าย
สิบนาทีท้าย บาร์เซโลน่า ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ลงมาล่าตาข่ายแทน ซาวิโอล่า นาทีที่ 87 เจ้าถิ่นดูเหมือนจะไม่มีโชคเมื่อลูกปั่นฟรีคิกทางฝั่งขวาของ เดโก้ ลอยละลิ่วไปกระแทกเสาออกมาเต็มๆ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล บุกมาพลิกแซงชนะ 2-1 มีโอกาสเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายสูงทีเดียว เนื่องจากอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะได้กลับไปเล่นที่รังแอนฟิลด์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส , ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ , คาร์เลส ปูโยล , ราฟาเอล มาร์เกซ , จิอันลูก้า ซามบร็อตต้า , ชาบี้ เออร์นานเดซ , ติอาโก้ ม็อตต้า , เดโก้ ซูซ่า , ลิโอเนล เมสซี่ , ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า , โรนัลดินโญ่
ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , อัลบาโร่ อาร์เบลัว , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอ๊กเกอร์ , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , สตีฟ ฟินแนน , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ชาบี้ อลอนโซ่ , โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ , เคร็ก เบลลามี่ , เดิร์ค เคาท์
ผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำคืนวันพุธ
บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-2 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
[1-0 : เดโก้ ซูซ่า (น.14) , 1-1 : เคร็ก เบลลามี่ (น.43) , 1-2 : ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ (น.74)]
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 2-2 บาเลนเซีย (สเปน)
[1-0 : เอสเตบัน คัมบิอาสโซ่ (น.29) , 1-1 : ดาวิด บีญ่า (น.64) , 2-1 : ดั๊กลาส ไมค่อน (น.76) , 2-2 : ดาวิด ซิลวา (น.86)]
ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 1-1 เชลซี (อังกฤษ)
[1-0 : ราอูล เมยเรเลส (น.12) , 1-1 : อังเดร เชฟเชนโก้ (น.16)]
โรม่า (อิตาลี) 0-0 โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส)
