xs
xsm
sm
md
lg

“ผมเกลียดเกย์”เรื่องวุ่นๆของเอ็นบีเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดูเหมือนว่าการแข่งขันเอ็นบีเอ ออลสตาร์เกมประจำฤดูกาล 2007 จะกลายเป็นการแข่งขันบนความขมขื่นของ ทิม ฮาร์ดอเวย์ อดีตนักบาสเกตบอลวัย 40 ปีที่ถูกห้ามลงสนามหลังปากพาจน ให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุท้องถิ่นพาดพิงไปถึงกรณี ที่ จอห์น อเมชี่ ออกมาเปิดเผยกับสังคมว่าเขาเป็นเกย์ พร้อมกับการเปิดตัวหนังสือ “Man in the middle” เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 50 ที่ผ่านมา

อดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังแห่งทีมไมอามี่ ฮีท ที่บัดนี้มีวัยวุฒิขึ้นเลขสี่อย่าง ทิม ฮาร์ดอเวย์ ต้องตกเป็นข่าวดังอีกครั้งหลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของจอห์น อเมชี่ แถมยังกล่าวพาดพิงไปถึงชาวรักร่วมรวมเพศด้วยประโยคที่ทำให้บรรดาชาวสีม่วงต้องสะดุ้งกันทั้งเมืองไมอามี่ว่า "ผมเกลียดเกย์"

ฮาร์ดอเวย์ พ่นคำพูดดังกล่าวผ่านสถานีวิทยุท้องถิ่นชนิดไม่รู้สึกสะทกสะท้านเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก จอห์น อเมชี่ เปิดตัวหนังสือที่เผยถึงความรู้สึกข้างในของพวกรักร่วมเพศ

“คุณรู้ไหม ผมเกลียดพวกเกย์ อยากให้ทุกคนรับรู้ไว้ ผมไม่ชอบเกย์ ไม่ชอบที่จะต้องอยู่ท่ามกลางคนที่มีความวิปริตทางเพศ ที่สำคัญผมกลัวพวกนี้มากที่สุด ไม่เคยทำใจให้ชอบคนพวกนี้ได้เลย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเกย์ไม่ควรจะมีอยู่ในสหรัฐฯหรือบนโลกนี้ด้วยซ้ำ"

ถือเป็นคำพูดอันรุนแรงต่อชาวรักร่วมเพศ และครั้งล่าสุดที่มีคนกล้าแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้คือนักเทศน์ชื่อดังอย่าง เทด ฮักการ์ด ที่สุดท้ายก็ต้องออกมากล่าวขอโทษ เช่นเดียวกับ ฮาร์ดอเวย์ ที่ภายหลังให้สัมภาษณ์และเกิดปฏิกิริยาจากสังคมต่อต้านคำพูดของเขา อดีตเด็กเกเรแห่งเอ็นบีเอก็ต้องออกมาขอโทษกับคำพูดที่แสดงทัศนะแบบไม่คิด

การแสดงทัศนะต่อสื่อสาธารณะ นับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แม้ว่าคุณจะเป็นอดีตนักกีฬาก็ตาม สิ่งที่ฮาร์ดอเวย์ พูดทั้งที่เป็นเป็นผู้ใหญ่ในวัย 40 ปีดูแล้วแทบจะเทียบกันไม่ได้กับ แชคคิว โอ นีล นักบาสเกตบอลรุ่นน้องที่ดูจะให้สัมภาษณ์ได้ดีกว่า โดยแชค แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องของ อเมชี่ว่า

“ถ้าเขาอยู่ในทีมผมจะปกป้องเพื่อนคนนี้จากคนที่จิตใจคับแคบ ผมไม่ใช่คนที่เกลียดพวกรักร่วมเพศ หรือไม่ว่าจะมีรสนิยมเรื่องนี้แบบไหนและจะไม่ตัดสินใครด้วยความรู้สึกของตนเอง ผมอยากได้มิตรภาพจากพวกเขามากกว่า" นี่คือความคิดเห็นของ โอ นีล ซึ่งได้กล่าวเอาไว้ในคืนวันสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน

นับเป็นการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ต่อความรู้สึกที่กับการประกาศสถานะทางเพศของอเมชี่ ความคิดของ โอ นีล นั้นเป็นผู้ใหญ่และรู้จักแบ่งแยกในขณะที่ ฮาร์ดอเวย์ นั้นพูดจาเหมือนกับเด็กอายุ 6 ขวบ ที่กลัวจะเป็นเหา

คำพูดอันร้ายกาจของ ฮาร์ดอเวย์ ยังไม่หมดแค่นั้นเมื่อ เจ้าตัวยังให้สัมภาษณ์ต่อว่า "นอกจากผมจะเกลียดพวกเกย์แล้ว ถ้ารู้ว่ามีพวกนี้อยู่ในทีม คุณรู้ไหม ผมจะไม่เฉียดเข้าใกล้เลย แม้จะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ผมว่าพวกเขาไม่ควรเข้ามาอยู่ในห้องล็อกเกอร์ รูมเลยได้ก็จะยิ่งดี"

ถ้า ฮาร์ดอเวย์ เคยพูดว่าเขาไม่ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางพวกเกย์ ถึงเวลานี้อดีตนักบาสเกตบอลชื่อดังแห่ง ไมอามี่ ฮีทคงต้องหาคำอธิบายว่าทำไมเขาถึงอยู่ในเมืองอย่างไมอามี่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสวรรค์ของชาวเกย์ (จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยไซราซุสที่พบว่าไมอามี่ นั้นเป็นเมืองในฝันอันดับ 5 ที่ชาวเกย์ทั้งหลายโปรดปราน)

เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติของ ฮาร์ดอเวย์ จะพบว่าอดีตเด็กเกเรแห่งเอ็นบีเอ ก็เคยถูกปฏิเสธเข้าร่วมทีมในระดับมหาวิทยาลัยเมื่อโค้ชของทีม เคนตั๊กกี้ ปฏิเสธที่จะร่วมงานกับนักบาสเกตบอลผิวสีผู้นี้ แม้ว่าจะทำผลงานด้วยการพาทีมมหาวิทยาลัย เท็กซัส เอล ปาโซ คว้าชัยในการแข่งขันเอ็นซีเอเอ รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งการถูกปฏิเสธในครั้งนั้น ทิม น่าจะเข้าใจหัวอกของคนที่ถูกรังเกียจได้เป็นอย่างดี แต่ครั้งนี้เขากลับผิดพลาดด้วยการแสดงอาการรังเกลียดพวกรักร่วมเพศจนเกินรับ

นอกจากจะเป็นคนที่มีทัศนะคติชนิดสุดขั้วแล้ว สมัยที่ ฮาร์ดอเวย์ ยังทำมาหากินในสนามยัดห่วงนั้นเขาก็ได้ชื่อว่าเป็น “แบดบอย” ของวงการที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดเคยแม้กระทั่งขว้างโทรทัศน์ลงไปในสนามด้วยความโกรธ หรือแม้กระทั้งมีเรื่องกับกรรมการอย่าง ดิ๊ก บาเวตต้า และถึงเวลานี้เขาได้สร้างความหายนะให้กับตนเองครั้งใหม่เป็นภัยที่มากับปาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุ 40 ปีแล้ว และไม่มีใครทราบเช่นกันว่าเวลานั้นจิตใจของเขารู้สึกอย่างไร

การเหยียดเพศนั้นถือเป็นการแสดงออกที่ต่ำช้าไม่แพ้การเหยียดผิว และอาจสร้างความแตกแยก ความวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้ทั้งภายในล็อคเกอร์รูมของศึกบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ รวมถึงการขยายวงกว้างไปเป็นวัฒนธรรมเชียร์ที่ผิดๆให้กับกลุ่มกองเชียร์จอมแสบได้อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น