ก่อนหน้าการแข่งขันแกรนด์ สแลมรายการแรกของปีจะเริ่มต้นขึ้น สำนักข่าวชื่อดังของสหรัฐฯอย่างฟ็อกซ์สปอร์ต ได้พยากรณ์ว่าฤดูกาล 2007 โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกจะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง และไม่สามารถคว้าแกรนด์สแลมประจำฤดูกาลนี้มาครองได้แม้รายการเดียว
เมื่อการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเทนนิสชายเดี่ยวใน ร็อด เลเวอร์ อารีน่าในวันอาทิตย์ 28 มกราคม เสร็จสิ้นลงคำพยากรณ์ดังกล่าวดูจะเชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป เพราะยอดนักเทนนิสชาวสวิตเซอร์แลนด์คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งที่ 10 มาครองโดยเอาชนะ เฟอร์นานโด กอนซาเลซ นักเทนนิสชาวชิลีไปสามเซตรวด
สำหรับแฟนเทนนิสแล้วชัยชนะของเฟเดอเรอร์ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแข่งขันเวลาเดิม สถานที่เดิม แชมป์คนเดิม และถ้วยใบเดิม แล้วยังเป็นชัยชนะชนิดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนกับเมื่อครั้งปี 2006 ที่ เฟด-เอ็กซ์ นั้นมีชัยเหนือ “แบกห์ดาติส” เพียงแต่เปลี่ยนคู่ชิงมาเป็น เฟอร์นานโด กอนซาเลซ ผู้ปราบ ราฟาเอล นาดาล ทำให้มีคำถามตามมาว่า “ยังจะมีนักเทนนิสรายใดที่สามารถต่อกรในระดับเดียวกันกับยอดนักเทนนิสชาวสวิสผู้นี้ได้บ้าง”
หลังนักเทนนิสชาวสวิสวัย 25 ปีผู้ได้รับฉายาว่า “แร็กเก็ตเทพ” คว่ำจอมหวดหนักอย่าง กอนซาเลซ และคว้าแชมป์ไปครองนั้นมีสถิติตามหลังที่น่าสนใจมาอีกมากเริ่มตั้งแต่ตำแหน่ง นักเทนนิสรายที่สี่ที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมโดยไม่เสียเซต โดยก่อนหน้านี้มี บิยอร์น บอร์ก ที่ทำได้ในเฟรนช์โอเพ่นปี 1980 นอกจากนี้ยังมี เคน โรสวอลล์ ที่นั่งอยู่ใน ที่นั่งวีไอพีของนัดชิงชนะเลิศ ที่คว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นที่ คูยอง โดยเล่น 5 นัดไม่เสียเซตเลย
นอกจากนี้ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นปี 2007 นับเป็นแกรนด์สแลมครั้งที่ 10 ของนักเทนนิสวัย 25 ปีชาวสวิส เป็นสถิติที่เท่ากับ บิลล์ ทิลเดน อดีตนัดเทนนิสระดับตำนานของสหรัฐฯ ซึ่งทำได้ระหว่างปี 1920-1930 โดยคว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่น 7 ครั้ง ซึ่งห้าในเจ็ดครั้งเป็นการพบกับคู่ต่อสู้รายเดิมคือ บิลล์ จอห์นสัน ในขณะที่ และคว้า
วิมเบิลดันมาครองได้ถึง 3 ครั้ง
จนถึงเวลานี้มีเพียง ราฟาเอล นาดาล เท่านั้นที่ เฟเดอเรอร์ พ่ายแพ้ใน เฟรนช์ โอเพ่น รอบชิงชนะเลิศเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ในขณะที่การแข่งขันออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ครั้งนี้ผู้ที่ถูกจับตาว่าจะคว่ำเฟเดอเรอร์ ได้มีอยู่สองราย ไม่ว่าจะเป็นคู่ปรับเก่าอย่าง ราฟาเอล นาดาล หรือ เพื่อนรุ่นเดียวกัน แอนดี้ ร็อดดิก ที่เปลี่ยนโค้ชมาเป็นจิมมี่ คอร์เนอร์ หลังฟอร์มการเล่นของร็อดดิก ที่เปลี่ยนรูปแบบไปอย่างผิดหูผิดตาจนสามารถเอาชนะมารัต ซาฟิน ได้ในรอบที่สามก่อนจะเอาชนะมาริโอ อันชิช ในรอบ 16 คนสุดท้ายผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ มาร์ดี้ ฟิช และ เข้าไปชิงชัย กับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายให้กับยอดนักเทนนิสสวิสไปอย่างง่ายดายสามเซตรวด
รอบชิงชนะเลิศซึ่งเฟเดอเรอร์ ต้องลงสนามสู้กับนักเทนนิสหนุ่มเจ้าของลูกยิงวินเนอร์อันร้อนแรงชาวชิลี เฟอร์นานโด กอนซาเลซ ที่เอาชนะ ราฟาเอล นาดาล มาแบบหมดทางสู้ในรอบตัดเชือก ซึ่งการพบกันครั้งนี้ ร็อดดิก ซึ่งพ่ายให้กับ เฟด-เอ็กซ์ ไปก่อนแล้วกล่าวว่า “เป็นการยากที่ “กอนซาเลซ” จะเอาชนะได้”
ซึ่งก็เป็นไปตามจริงดังคำทำนายของ เอ-ร็อด เมื่อชื่อของ นักเทนนิสวัย 25 ปีชาวสวิสถูกสลักลงบนถ้วย นอร์แมน บรูคส์ เป็นครั้งที่สามและบันทึกเป็นสถิติชัยชนะเหนือ กอนซาเลซ เป็นครั้งที่สิบจากทั้ง 10 สนามที่พบกันมานับตั้งแต่ปี 2004
ในอดีตนั้นวงการเทนนิสหากมีนักเทนนิสที่โดดเดนขึ้นมาสักหนึ่งราย ย่อมต้องมีคู่ปรับของแต่ละรายเกิดขึ้นมาพร้อมกันดังเช่นในยุคทศวรรษที่ 70-80 บิยอร์น บอร์ก ต้องขับเคี่ยวกับ จิมมี่ คอร์เนอร์ หรือ จอห์น แมคแอนโร เมื่อข้ามมาถึงทศววรรษที่ 90 อีวาน เลนเดิ้น ก็ต้องขับเคี่ยวกับ สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก หรือ บอริส เบกเกอร์ และก่อนจะถึงยุคสมัยของ เฟเดอเรอร์ พีท แซมพราส ต้องสู้กับเพื่อนร่วมชาติอย่าง อังเดร อากัสซี่ จนกระทั่งเลิกราตามกันไป
ปัจจุบันดูเหมือนว่าความโดดเด่นของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จะฉายแววยิ่งใหญ่แต่เพียงรายเดียวแม้ช่วงปี 2000-2002 ชื่อของ เลย์ตัน ฮิววิตต์ หรือ แอนดี้ ร็อดดิก จะเป็นคู่ต่อสู้ที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่ภายหลังจากที่ เฟเดอเรอร์ พัฒนาฝีมือและใจของตนเองให้ผสานเป็นหนึ่งเดียวความยิ่งใหญ่เฟด-เอ็กซ์ ก็ทิ้งทั้งคู่มาไกลและถึงแม้จะกำเนิดคู่ต่อกรหน้าใหม่อย่าง ราฟาเอล นาดาล หรือ เฟอร์นานโด กอนซาเลซ ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีทีท่าว่าจะหานักเทนนิสรายใดมาปราบ “แร็กเก็ตเทพ” อย่างเฟเดอเรอร์ลงได้
