xs
xsm
sm
md
lg

“Super Bowl XLI” พิสูจน์กึ๋นโค้ชผิวสี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 41 หรือ "Super Bowl XLI" กลายเป็นการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์เมื่อสองหัวหน้าโค้ช แชมป์สายเอ็นเอฟซี และ เอเอฟซี โลวี่ สมิธ แห่งทีม "พญาหมี" ชิคาโก้ แบร์ส และ "โทนี่ ดันจี้" หัวหน้าโค้ชอินเดียนาโปลิส โคลต์ส ต่างพิสูจน์ให้เห็นว่า การวางแผนอย่างชาญฉลาดทำให้พวกเขาพาลูกทีมเข้าชิงชัย ถ้วย “วินซ์ลอมบาร์ดี้” ประจำฤดูกาล 2006 ได้สำเร็จ

ศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล ซึ่งเดินทางมาถึงการแข่งขันชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี และ เอเอฟซีเพื่อเข้าไปชิงชัยกันในซูเปอร์โบว์ลเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 50ที่ผ่านมา โดยเกมการแข่งขันเริ่มต้นด้วยการชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี เมื่อ"ทีมนักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ต้องบุกไปพบกับ "พญาหมี" ชิคาโก้ แบร์ส ที่สนาม "โซลเจอร์ ฟิลด์" สังเวียนปราบเซียนซึ่งอากาศหนาวเย็นแตะหลัก 0 องศาเซลเซียส

เกมการแข่งขันเริ่มขึ้นด้วยความผิดพลาดของ เซ็นต์ส ทีมซึ่งเพิ่งผ่านเข้าชิงแชมป์สายเป็นครั้งแรก ทั้ง ดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ็กตัวเก่งและ มาร์คิวส์ โคลสตัน ปีกนอกรุคกี้เสียฟัมเบิล แต่ยังดีที่เกมรับต้านทานเกมบุกของเจ้าถิ่นไว้ได้ทำให้ตามแค่ 0-9 เมื่อเข้าสู่กลางควอเตอร์ที่ 2 ความไม่คุ้นเคยกับพื้นสนามที่ค่อนข้างแข็งและลื่นจากสภาพอากาศอันหนาวเย็น ทำให้ แบร์ส ฉวยโอกาสดังกล่าวส่ง โธมัส โจนส์ ลงมาวิ่งสร้างเพลย์สำคัญและทำให้เจ้าบ้านนำห่างถึง 16-0 อย่างไรก็ตาม เวลาที่เหลือแค่นาทีเศษของครึ่งแรก บรีส์ ประสานงานโคลสตัน ก่อนนำมาซึ่งการขว้างทัชดาวน์ให้ปีกคู่ใจ 13 หลา ทำให้เซ็นต์สไล่ขึ้นมาที่ 7-16 คะแนน

เกมในครึ่งหลังสภาพอากาศเริ่มเลวร้ายหลังหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาในสนามแต่ เซ็นต์ส ยังทำคะแนนไล่มาเหลือแค่ 14-16 ทีมนักบุญเกือบขึ้นนำเมื่อ ไบรอัน คันดิฟฟ์ ได้เตะฟิลด์โกลไกลระยะ 47 หลาแต่บอลสั้นไม่ถึงเสาประตูทำให้คะแนนยังตามอยู่อีก 2 แต้ม จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นเมื่อ บรีส์ เจตนาขว้างในเขตเอ็นด์โซนทำให้กรรมการเรียกเป็นเซฟตี้ให้ แบร์ส ฉีกนำ 18-14 คะแนน เมื่อถึงการแข่งขันในช่วงควอเตอร์สุดท้าย เร็กซ์ กรอสส์แมน ขว้างระยะ 33 หลาให้ เบอร์นาร์ด เบอร์เรียน รับเป็นทัชดาวน์คะแนนห่างออกไป 25-14 และโอกาสกลับเข้าสู่เกมของ เซ็นต์ส ยิ่งริบรี่เมื่อ บรีส์ โดน อเดวาเล่ โอกุนเลเย่ ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ ตะปบเสียฟัมเบิลโดนชิงบอลและ เซดริก เบนสัน รันนิ่งแบ็กทรงพลังลงมาวิ่งปิดไดร์ฟการบุกให้ แบร์ส นำห่างไปไกล 32-14

เฮือกสุดท้ายของผู้มาเยือนต้องเก็บฉากเมื่อ บรีส์ เสียอินเทอร์เซปต์ ทำให้ โจนส์ ลงมาวิ่งทัชดาวน์ที่สองของตนเองปิดท้ายส่งให้ แบร์ส ตะปบเซ็นต์สไปด้วยสกอร์ 39-14 คะแนน ส่ง โลวี่ สมิธ กลายเป็นหัวหน้าโค้ชผิวสีคนแรกที่ได้เข้าสู่ “ซูเปอร์โบว์ล” และพา แบร์ส เข้าสู่การแข่งขันอันยิ่งใหญ่หลังห่างหายมานานถึง 21 ปีนับตั้งแต่ปี 1985

หลังจบเกมของสายเอ็นเอฟซี การแข่งขันในสาย เอเอฟซี ก็เริ่มต้นขึ้นโดย โทนี่ ดันจี้ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับ โลวี่ สมธิ คุมลูกทีม อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ลงสนามพบกับ " นักรบกู้ชาติ" นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ที่มียอดควอเตอร์แบคอย่าง ทอม เบรดี้ เป็นกำลังสำคัญ ในขณะที่ ดันจี้ ก็พาลูกทีมลงสนาม "อาร์ซีเอ โดม" ในถิ่นของตนเองเพื่อหวังเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ลให้ได้เป็นครั้งแรก แม้จะค่อนข้างแพ้ทาง “นักรบกู้ชาติ” เพราะเจอกันในเพลย์ออฟมาสองหน โคลต์ส แพ้เรียบวุธทั้งในเกมชิงแชมป์สายเมื่อปี 2003 และเกมดิวิชั่นนัลในปีถัดมาก็ตาม

ในครึ่งเวลาแรก ทอม เบรดี้ ได้มาถึง 3 ทัชดาวน์ เริ่มจาก โลแกน แมนกินส์ ผู้เล่นออฟเฟนด์ซีฟ ไลน์แมน เก็บส้มหล่นพุ่งไปคว้าบอลที่เป็นฟัมเบิลในเอ็นด์โซน ตามมาด้วยการวิ่งของ คอรี่ย์ ดิลล่อน และจังหวะอินเตอร์เซปต์ตัดหน้าปีกของ อซานเต้ ซามูเอล ในขณะที่ โคลต์ส เก็บมาได้ 2 ฟิลด์โกลจาก ของ อดัม วินาเทียรี่ จบครึ่ง เจ้าถิ่นตามหลัง 18 แต้ม

ครึ่งหลัง ดันจี้ ที่แก้เกมอย่างชาญฉลาดทำให้ เพย์ตัน แมนนิ่ง เริ่มเปิดเกมขว้างของตัวเองได้ ก่อนที่จะเป็นควอเตอร์แบ็กจะวิ่งเอง 1 หลาเป็นทัชดาวน์ทำคะแนนไล่ตาม 13-21 คะแนน หลังจากนั้นเกมกลับมาเป็นของ โคลต์ส เมื่อ แมนนิ่ง ขว้างเข้าเอ็นด์โซนให้ เรจจี้ เวย์น ปีกคู่ใจก่อนที่กรรมการจะโยนธงว่ากองหลัง "แพทส์"รบกวนปีก เจ้าถิ่นได้บอลบุกที่เส้นหนึ่งหลา ดันจี้และโค้ชทีมบุกใช้กลเม็ดส่ง แดน เคล็คโก้ มาเป็นปีกใน ก่อนจะรับบอลจากแมนนิ่ง เป็นทัชดาวน์ จากนั้น มาร์วิน แฮร์ริสัน ยังรับเปลี่ยนสองแต้มสำเร็จทำให้สกอร์มาเสมอกัน 21-21 แต่ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ เบรดี้ ขว้างบอลให้ จาบาร์ แก๊บบ์นี่ย์ รับทัชดาวน์ "นักรบกู้ชาติ" ขึ้นนำ 28-21 เมื่อจบควอเตอร์ที่ 3

ควอเตอร์สุดท้าย แมนนิ่ง ได้บอลกลับมาอยู่ในมือและนำทีมเก็บมาได้อีกหนึ่งทัชดาวน์ตามเสมอ 28-28 ในช่วงท้ายสถานการณ์กดดันเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นทั้งสองฝั่งโดย แพทริออตส์ นำอยู่ 34-31 และเหลืออีกสามนาทีจะหมดเวลา แมนนิ่ง ขว้างบิ๊กเพลย์ระยะ 32 หลาเข้ามือ ไบรอัน เฟล็ทเชอร์ ก่อนจะเป็น แอดดาย วิ่งทะลวงทัชดาวน์ 3 หลา ช่วยให้เจ้าบ้านนำครั้งแรกของเกม 38-34 และเป็นการขึ้นนำที่พามาซึ่งชัยชนะเพราะปาฎิหารย์ ไม่เกิดทำให้ โทนี่ ดันจี้ พา โคลต์ส ไปเล่นในซูเปอร์โบว์ลได้เป็นครั้งแรกของทีม และเป็นโค้ชผิวสีคนที่สองต่อจาก โลวี่ สมิธ ที่ได้เดินเข้าสู่ศึกซูเปอร์โบว์ล

โดยการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 41 จะมีขึ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 (ตามเวลาในประเทศไทย) ที่สนาม ดอลฟิน สเตเดี้ยม ไมอามี่ ฟลอริด้าโดย ชิคาโก้ แบร์ส จะเป็นทีมเหย้าในขณะที่ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส จะเป็นทีมเยือน
กำลังโหลดความคิดเห็น