"เดอะบีสต์" ฮูลิโอ บัปติสต้า กองกลางชาวบราซิลของ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล โชว์ฟอร์มเหนือชั้นกดไป 4 เม็ดพร้อมพาทีมบุกมายำ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถึงรังแบบเละเทะ 6-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลคาร์ลิง คัพ เรียบร้อย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
ลิเวอร์พูล 3-6 อาร์เซนอล
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งเพิ่งตกรอบฟุตบอลเอฟ.เอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ต้องนำลูกทีมเปิดบ้านเพื่อล้างแค้น "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในรอบ 3 วัน โดยถอดผู้เล่นชุดเดิมออกไปเกือบยกทีม เหลือเพียง เจอร์ซี่ ดูเด็ค ผู้รักษาประตู และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีม นอกนั้น นายใหญ่ชาวสเปนส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ, สตีเฟ่น วอร์น็อค,ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เคร็ก เบลลามี่ ที่ไม่ได้เล่นนัดที่แล้ว ลงเล่นเป็นตัวจริง ผสมผสานกับผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง แดนนี่ กัธรี่ และ ลี เปลเทียร์
ด้าน อาแซน เวนเกอร์ โค้ชชาวฝรั่งเศสของ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล จัดการพัก เธียร์รี่ อองรี พร้อมส่งนักเตะสำรองและดาวรุ่ง ตั้งแต่ มานูเอล อัลมูเนีย , โยฮัน ฌูรู , จัสติน ฮอยต์ , อาร์กมองด์ ตราโอเร่ , ฮูลิโอ บัปติสต้า, เนเวส เดนิลสัน และ อเล็กซานเดอร์ ซง ลงมายืดเส้นยืดสาย
เริ่มต้นครึ่งแรก ลิเวอร์พูลต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่น เมื่อ มาร์ค กอนซาเลส ปีกความเร็วสูงชาวชิลีได้รับบาดเจ็บขาขวาและต้องใช้เวลาปฐมพยาบาลนานพอควร ต่อมานาที 10 หลุยส์ การ์เซีย ลงมาเล่นแทน เกมกลับมาสู่ช่วงปกติ ทั้งสองทีมผลัดกันขึ้นทำเกมรุกได้อย่างสูสี โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสบ่อยครั้ง ในนาที 18 สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลองซัดไกลระยะ 25 หลาแต่ ติดเซฟของ มานูเอล อัลมูเนีย
ทว่าในนาที 27 อาร์เซนอล ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เจเรมี่ อาลิยาดิแอร์ รับบอลโด่งจาก โคโล่ ตูเร่ แล้วควบหนีกองหลังของลิเวอร์พูลที่ปล่อยให้ผ่านเข้าไปในเขตโทษเพราะคิดว่าล้ำหน้า ทว่า อาลิยาดิแอร์ ไม่รีรอลากเข้าไปแล้ววิ่งแตะด้วยซ้ายบอลไหลเข้าตาข่าย ถัดมาในนาที 32 เจ้าบ้านมาตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากฟรีคิกหน้าเขตโทษ เมื่อ ออเรลิโอ เปิดอัดกำแพงอาร์เซนอล อัลมูเนีย ปัดมาเข้ามาทาง หลุยส์ การ์เซีย แทงต่อให้ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ไขว้ด้วยเท้าซ้ายระยะ 6 หลา
จากนั้น ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกขึ้นมาเรื่อยๆ และในนาที 38 มีโอกาสใกล้เคียงจาก เจอร์ราร์ด เลาะริมเส้นขวาถึงเส้นหลังหลับแนวรับทีมเยือนก่อนซัดไปติดตัวอัลมูเนียที่ออกมาปิดมุมได้ทัน อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่กลับมาขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะลูกฟรีคิกของ บัปติสต้าที่ซัดด้วยขวาบอลลอยโค้งหยอดเข้าตุงตาข่าย ดูเด็ค ยืนนิ่งหมดสิทธิเซฟ ในนาที 43 หงส์แดง ได้บุกขึ้นมาอีกครั้ง จากจังหวะของ เคร็ก เบลลามี่ ที่มีโอกาสหลุดเดี่ยวไปในเขตโทษ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำห่างออกไป 3-1 จากจังหวะลูกเตะมุม เมื่อ เชส ฟาเบรกาส เปิดยาวมากลางประตู บอลลอยมาชนตัว ฮูเปีย และ อเล็กซานเดอร์ ซง อาศัยความเร็วจิ้มด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ ถัดมาอีก 1 นาที ปืนโต หนีไกลเป็น 4-1 แนวรับของลิเวอร์พูลพลาด อาลิยาดิแอร์ แทงต่อให้ บัปติสต้า ซัดด้วยขวาระยะ 12 หลาเข้าไปอย่างง่ายดาย หมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 55 ปืนใหญ่มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ฮูเปีย สกัด ธีโอ วัลค็อตต์ ล้มในเขตโทษ แต่ บัปติสต้าที่ต้องการทำแฮตทริกในเกมนี้ ซัดเต็มข้อบอลลอยไปทางซ้ายและดูเด็คโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกเส้นหลังไปได้อย่างหวุดหวิด ถึงกระนั้นก็ตาม ในนาที 60 ทีมดังจากกรุงลอนดอน ขึ้นนำแบบสบาย 5-1 จากฝีเท้าของ บัปติสต้าซึ่งทำแฮตทริกได้สำเร็จ รับบอลจาก อาลิยาดิแอร์ แล้วจับด้วยขวาซัดเบียดโคนเสาเข้าไป
เจ้าบ้านยังคงหาทางทำประตูเพิ่มและในนาที 67 หงส์ไล่มาเป็น 2-5 เมื่อ อลอนโซ่ ตัวสำรองเปิดฟรีคิก เปิดวอลเลย์เต็มข้อของ ต่อมาในนาที 70 หลุยส์ การ์เซีย เจ็บเข่าขวาไปอีกรายต้องส่ง เจมี่ คาราเกอร์ ลงมาเล่นแทน ถัดมานาที 78 เจอร์ราร์ด ได้โอกาสส่องไกลจากลูกฟรีคิกอีกรอบแต่ยังดีที่ อัลมูเนีย กระโดดปัดชนคานออกไปได้ นาที 80 หงส์แดง ตีตื้นเป็น 3-5 จากจังหวะที่ ปาเล็ตต้า เปิดให้ ฮูเปีย โหม่งเช็ดเข้าไป
เกมบุกของเจ้าบ้านทำท่าจะดีขึ้นแต่มาโดนปืนใหญ่ หนีห่าง 6-3 ในนาที 84 เมื่อ อาลิยาดิแอร์ ใช้ความเร็วไปรับบอลยาวจากเพื่อน ก่อนลากตัดเข้าไปถึงหน้าประตูแล้วไหลต่อให้ บัปติสต้า แปด้วยขวา เข้าไป นาที 87 หงส์ น่าจะได้ประตูเพิ่มจากลูกยิงของ เจมี่ คาราเกอร์ แต่อัลมูเนียปัดได้อีก หมดเวลาการแข่งขัน อาร์เซนอล บุกมายำ ลิเวอร์พูล คาถิ่น 6-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ คาร์ลิง คัพ ไปพบกับ สเปอร์ส
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เจอร์ซี่ ดูเด็ค, ซามี ฮูเปีย , กาเบรียล ปาเลตต้า , แดนนี่ กัธรี่ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด ,มาร์ค กอนซาเลส (หลุยส์ การ์เซีย น.11(เจมี่ คาราเกอร์ น.71 )) , ฟาบิโอ ออเรลิโอ, สตีเฟ่น วอร์น็อค (ซาบี้ อลอนโซ่ น.58), ลี เปลเทียร์ ,ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เคร็ก เบลลามี่
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , โยฮัน ฌูรู , จัสติน ฮอยต์, โคโล ตูเร่ , อาร์กมองด์ ตราโอเร่ , ฮูลิโอ บัปติสต้า, เนเวส เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซานเดอร์ ซง , เจเรมี่ อาลิยาดิแอร์ , ธีโอ วัลค็อตต์ (อาบู ดิอาบี้ น.74)
ศึกฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
ลิเวอร์พูล 3-6 อาร์เซนอล
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งเพิ่งตกรอบฟุตบอลเอฟ.เอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ต้องนำลูกทีมเปิดบ้านเพื่อล้างแค้น "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ในรอบ 3 วัน โดยถอดผู้เล่นชุดเดิมออกไปเกือบยกทีม เหลือเพียง เจอร์ซี่ ดูเด็ค ผู้รักษาประตู และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีม นอกนั้น นายใหญ่ชาวสเปนส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ, สตีเฟ่น วอร์น็อค,ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เคร็ก เบลลามี่ ที่ไม่ได้เล่นนัดที่แล้ว ลงเล่นเป็นตัวจริง ผสมผสานกับผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง แดนนี่ กัธรี่ และ ลี เปลเทียร์
ด้าน อาแซน เวนเกอร์ โค้ชชาวฝรั่งเศสของ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล จัดการพัก เธียร์รี่ อองรี พร้อมส่งนักเตะสำรองและดาวรุ่ง ตั้งแต่ มานูเอล อัลมูเนีย , โยฮัน ฌูรู , จัสติน ฮอยต์ , อาร์กมองด์ ตราโอเร่ , ฮูลิโอ บัปติสต้า, เนเวส เดนิลสัน และ อเล็กซานเดอร์ ซง ลงมายืดเส้นยืดสาย
เริ่มต้นครึ่งแรก ลิเวอร์พูลต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่น เมื่อ มาร์ค กอนซาเลส ปีกความเร็วสูงชาวชิลีได้รับบาดเจ็บขาขวาและต้องใช้เวลาปฐมพยาบาลนานพอควร ต่อมานาที 10 หลุยส์ การ์เซีย ลงมาเล่นแทน เกมกลับมาสู่ช่วงปกติ ทั้งสองทีมผลัดกันขึ้นทำเกมรุกได้อย่างสูสี โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสบ่อยครั้ง ในนาที 18 สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลองซัดไกลระยะ 25 หลาแต่ ติดเซฟของ มานูเอล อัลมูเนีย
ทว่าในนาที 27 อาร์เซนอล ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เจเรมี่ อาลิยาดิแอร์ รับบอลโด่งจาก โคโล่ ตูเร่ แล้วควบหนีกองหลังของลิเวอร์พูลที่ปล่อยให้ผ่านเข้าไปในเขตโทษเพราะคิดว่าล้ำหน้า ทว่า อาลิยาดิแอร์ ไม่รีรอลากเข้าไปแล้ววิ่งแตะด้วยซ้ายบอลไหลเข้าตาข่าย ถัดมาในนาที 32 เจ้าบ้านมาตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากฟรีคิกหน้าเขตโทษ เมื่อ ออเรลิโอ เปิดอัดกำแพงอาร์เซนอล อัลมูเนีย ปัดมาเข้ามาทาง หลุยส์ การ์เซีย แทงต่อให้ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ไขว้ด้วยเท้าซ้ายระยะ 6 หลา
จากนั้น ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกขึ้นมาเรื่อยๆ และในนาที 38 มีโอกาสใกล้เคียงจาก เจอร์ราร์ด เลาะริมเส้นขวาถึงเส้นหลังหลับแนวรับทีมเยือนก่อนซัดไปติดตัวอัลมูเนียที่ออกมาปิดมุมได้ทัน อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่กลับมาขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะลูกฟรีคิกของ บัปติสต้าที่ซัดด้วยขวาบอลลอยโค้งหยอดเข้าตุงตาข่าย ดูเด็ค ยืนนิ่งหมดสิทธิเซฟ ในนาที 43 หงส์แดง ได้บุกขึ้นมาอีกครั้ง จากจังหวะของ เคร็ก เบลลามี่ ที่มีโอกาสหลุดเดี่ยวไปในเขตโทษ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำห่างออกไป 3-1 จากจังหวะลูกเตะมุม เมื่อ เชส ฟาเบรกาส เปิดยาวมากลางประตู บอลลอยมาชนตัว ฮูเปีย และ อเล็กซานเดอร์ ซง อาศัยความเร็วจิ้มด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ ถัดมาอีก 1 นาที ปืนโต หนีไกลเป็น 4-1 แนวรับของลิเวอร์พูลพลาด อาลิยาดิแอร์ แทงต่อให้ บัปติสต้า ซัดด้วยขวาระยะ 12 หลาเข้าไปอย่างง่ายดาย หมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 55 ปืนใหญ่มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ฮูเปีย สกัด ธีโอ วัลค็อตต์ ล้มในเขตโทษ แต่ บัปติสต้าที่ต้องการทำแฮตทริกในเกมนี้ ซัดเต็มข้อบอลลอยไปทางซ้ายและดูเด็คโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกเส้นหลังไปได้อย่างหวุดหวิด ถึงกระนั้นก็ตาม ในนาที 60 ทีมดังจากกรุงลอนดอน ขึ้นนำแบบสบาย 5-1 จากฝีเท้าของ บัปติสต้าซึ่งทำแฮตทริกได้สำเร็จ รับบอลจาก อาลิยาดิแอร์ แล้วจับด้วยขวาซัดเบียดโคนเสาเข้าไป
เจ้าบ้านยังคงหาทางทำประตูเพิ่มและในนาที 67 หงส์ไล่มาเป็น 2-5 เมื่อ อลอนโซ่ ตัวสำรองเปิดฟรีคิก เปิดวอลเลย์เต็มข้อของ ต่อมาในนาที 70 หลุยส์ การ์เซีย เจ็บเข่าขวาไปอีกรายต้องส่ง เจมี่ คาราเกอร์ ลงมาเล่นแทน ถัดมานาที 78 เจอร์ราร์ด ได้โอกาสส่องไกลจากลูกฟรีคิกอีกรอบแต่ยังดีที่ อัลมูเนีย กระโดดปัดชนคานออกไปได้ นาที 80 หงส์แดง ตีตื้นเป็น 3-5 จากจังหวะที่ ปาเล็ตต้า เปิดให้ ฮูเปีย โหม่งเช็ดเข้าไป
เกมบุกของเจ้าบ้านทำท่าจะดีขึ้นแต่มาโดนปืนใหญ่ หนีห่าง 6-3 ในนาที 84 เมื่อ อาลิยาดิแอร์ ใช้ความเร็วไปรับบอลยาวจากเพื่อน ก่อนลากตัดเข้าไปถึงหน้าประตูแล้วไหลต่อให้ บัปติสต้า แปด้วยขวา เข้าไป นาที 87 หงส์ น่าจะได้ประตูเพิ่มจากลูกยิงของ เจมี่ คาราเกอร์ แต่อัลมูเนียปัดได้อีก หมดเวลาการแข่งขัน อาร์เซนอล บุกมายำ ลิเวอร์พูล คาถิ่น 6-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ คาร์ลิง คัพ ไปพบกับ สเปอร์ส
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เจอร์ซี่ ดูเด็ค, ซามี ฮูเปีย , กาเบรียล ปาเลตต้า , แดนนี่ กัธรี่ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด ,มาร์ค กอนซาเลส (หลุยส์ การ์เซีย น.11(เจมี่ คาราเกอร์ น.71 )) , ฟาบิโอ ออเรลิโอ, สตีเฟ่น วอร์น็อค (ซาบี้ อลอนโซ่ น.58), ลี เปลเทียร์ ,ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เคร็ก เบลลามี่
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , โยฮัน ฌูรู , จัสติน ฮอยต์, โคโล ตูเร่ , อาร์กมองด์ ตราโอเร่ , ฮูลิโอ บัปติสต้า, เนเวส เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซานเดอร์ ซง , เจเรมี่ อาลิยาดิแอร์ , ธีโอ วัลค็อตต์ (อาบู ดิอาบี้ น.74)
