คอลัมน์ "ทางก้าวฤายาวไกล" โดย คมทวน คันธนู
หนึ่งในความสำเร็จและเป็นเคล็ดนำมาสู่การบรรลุนั้นๆ คือการยึดถือความผิดพลาดทุกส่วนใช้ทบทวนดังบทเรียนเพื่อพากเพียรแก้ไข ไม่มีใครรู้แจ้งโดยไม่แทงทะลุยังความผิดหวังซึ่งก่อเกิดเห็นการระเบิดฟอร์มของ มาเรีย ชาราโปว่า จากการตีดีขึ้นผิดตาผิดหู ดูเนียนความรู้สึกไปหมด เธอคงได้บทเรียนซ้ำๆ ประหนึ่งตำรายาบอกแน่นอน จุดอ่อนที่ซ้อนแทรกเช่น แบ็คแฮนด์ก็แทบลบกลบเกลี่ยเสียสิ้น, การนิ่ง, การยิงโฟร์แฮนด์พาสซิ่งช็อต ตลอดจนลูกเสิร์ฟ ไม่กะเปิ๊บกะป๊าบเช่นเก่า และมิรู้ว่าหูเฝื่อนหรือเปล่าเพราะเสียงตะโกนเจาะโสตก็พลอยลดลงด้วยจนเป็นตัวช่วยอีกแรง น่าจะแซงปลายครองมือหนึ่งได้อีกครั้งหากยังไม่เบื่อการเรียนรู้อยู่เช่นนี้ที่สำคัญ ชาราโปว่ามีแววตาบอกนัยความเป็นผู้ใหญ่เต็มเต็มหัวสมอง น่าลองติดตามสัก 2-3 ยกว่าเธอจะเป็นหยกเพชรหรือเม็ดกรวดกันแน่...
การไม่ยอมแพ้ชะตากรรมทำให้เป็นพลังหนุนช่วย นักเตะขุนค้อนเวสต์แฮม เก็บสามแต้มเต็มตลอดเกมจึงเห็นการเล่นแบบถวายหัวของตัวนักเตะแต่ละตนจนช่วยลบล้างเส้นทางอาถรรพ์ของ อลัน พาร์ดิว ที่จ่อรอคิวถูกเชือดคลายระอุเดือดไปไม่น้อย การถอยหลัง (แพ้หลายครั้ง) ใช่ว่าจะกดดันการเดินหน้าได้เนิ่นนาน ถ้าวิญญาณทรหดอดทนเพียงพอกับการต่อสู้อุปสรรคเช่นนักต่อสู้ที่ดีทั้งหลาย คล้าย ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่เฝ้ารอโอกาส กระทั่งหงส์แดงมิอาจขาดเขาได้ในแมตช์สำคัญ ทำนองเดียวกันกับ บัลลัค นักเตะอินทรีเหล็กที่เขยกเขย่งเกร็งๆ กับสิงห์น้ำเงินคราม พอตั้งหลักได้การเป็นหัวใจแห่งแดนกลางเริ่มสว่างเรือง (ตัดเรื่องเสียบหนักออกไปซักนิดจะเพิ่มอิทธิพลบนตำแหน่งได้แกร่งขึ้น)
โดยพื้นฐานผู้จัดการทีมควรใช้วิธีนิ่มๆ แก้ปัญหาอันน่าเห็นและเป็นอยู่คือผู้บงการเกม จอห์น เทอร์รี่ ยังทำหน้าที่ขับเคลื่อนไม่เลื่อนไหลนัก น่าจะใช้บัลลัคแทน เพราะด้วยแก่นในกลวิธี บัลลัคนี่แหละเหมาะสม (แม้เพื่อนๆ จะไม่ชื่นชมเท่าไหร่) พร้อมกับกำชับให้ เอสเซียง เลิกลำเลียงลูกดุ่ยๆ ลุยยิงเอง หรือเลิกเล็งแต่จะส่งตรงให้ ดร็อกบา คนเดียว ปัญหาแค่เสี้ยวผมบังภูเขาก็จริงแต่ยิ่งทิ้งเชลซียิ่งจะตะกักตะกุกเกมรุกไปทุกนัด เสียดายเกมฟัดกะบาร์เซโลน่ามิมีโอกาสชม แต่ผมเชื่อว่าเชลซีเติมเสริมทีละนิดปิดประตูตายการพ่ายแพ้ได้เลย...ชัวร์ แม้การเปิดตัวเริ่มต้นบนพรีเมียร์ยังฉีกหนีแมนยูฯ มิออกแถมวอกแวกเล่นแปลกๆ หลายหน
อดทนรอต่อไป เพราะใจลึกๆ นึกและเห็นว่าเชลซีนี่แหละจะทำแฮตทริกแชมป์พรีเมียร์ลีกสมดังหวังถึงหนทางจะยังค่อนข้างไกลก็เหอะน่า...ความจริงมารยาทเป็นสิ่งที่นักกีฬาควรจะโดยเฉพาะนักกีฬาบ้านเรา ใครเขาจะสำแดงความแข็งกร้าว หยาบคายราวโจรใจบาป เห็นภาพการชกของนักชกไทยในเชิงมวยสากล คนหนึ่งชื่อยอดสนั่น อีกคนนั้นนามว่า สถาพร (สำเนียงอ่อนหวานผิดหู) แต่ดูแล้วกลับผิดแนวผิดคาด สถาพรดันเล่นบทบาทยียวนกวนโทสะเหมือนไม่ยี่หระคู่ต่อสู้ด้วย
เชิงมวยไม่เบาไฉนเล่ากลับเลือกบทผู้ร้ายทางสายตาเช่นนี้ แทนที่ผู้ชม (เยี่ยงผม) จะวางตัวเป็นกลาง จึงเอนเอียงข้างเชียร์ยอดสนั่นซะฉิบ พยายามรีบตัดรีบถอนตัวทิ้งไปก็ไม่ทันเพราะยอดสนั่นชิงน้อคเสียก่อน นักชกนามสถาพร ถ้าจะกลับมาใหม่ลองกลับนิสัยตามด้วย นักมวยอย่างนี้นักกีฬาซึ่งยึดพฤติกรรมต่ำระนาบสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวกุมหัวใจในความเก่งความเป็นนักเลงแท้ๆ ไม่ได้ไม่พอยังกุมข้อง่ายๆ อะไรมิได้ดอก นอกจากรอเวลาอ่อนล้าและล้าอ่อนก่อนกำหนดแค่นั้นเอง
วิสัยนักเลงกีฬาหรือว่าสปิริตคือวิถีชีวิตที่ดีงามทุกสนามทุกสมรภูมิ แม้กระทั่งบนหลุมฝังศพด้วยการจบลมหายใจไม่ใช่การจบตำนานก็ตาม ความจริงอยากถามรัฐมนตรีกีฬาใหม่ใจแทบขาดว่ามาเฟียอำนาจล้นฟ้าในสมาคมต่างๆ ทั้งกร่างสีกร่างบารมีกร่างเครื่องแบบ ตัวแสบเหล่านี้กัดกร่อนวงจรกีฬาไทยจนไปไม่เป็น อย่าทำเล่นเชียวกับพวกเขี้ยวลากดินหินชาติ อาจตกเป็นเหยื่อง่ายๆ หรือตายท้องกลมเอา
การเข้ามา ถ้าตั้งใจจริงสิ่งแรกที่ต้องทำและสำเหนียกคือเมื่อวางมือแล้วได้แผ้วถางหรือสร้างอนุสรณ์ความดีงามใดไว้ มิใช่ท่านนั่งแบบซังกะตายคล้ายเพื่ออยู่เหนือความขัดแย้ง ยามไปใครไม่แช่งไม่ด่า...ถ้าเช่นนั้นเรื่องมันคงจบเหมือนๆ เก่า
ว่าเข้ามาทำไมครับ?
หนึ่งในความสำเร็จและเป็นเคล็ดนำมาสู่การบรรลุนั้นๆ คือการยึดถือความผิดพลาดทุกส่วนใช้ทบทวนดังบทเรียนเพื่อพากเพียรแก้ไข ไม่มีใครรู้แจ้งโดยไม่แทงทะลุยังความผิดหวังซึ่งก่อเกิดเห็นการระเบิดฟอร์มของ มาเรีย ชาราโปว่า จากการตีดีขึ้นผิดตาผิดหู ดูเนียนความรู้สึกไปหมด เธอคงได้บทเรียนซ้ำๆ ประหนึ่งตำรายาบอกแน่นอน จุดอ่อนที่ซ้อนแทรกเช่น แบ็คแฮนด์ก็แทบลบกลบเกลี่ยเสียสิ้น, การนิ่ง, การยิงโฟร์แฮนด์พาสซิ่งช็อต ตลอดจนลูกเสิร์ฟ ไม่กะเปิ๊บกะป๊าบเช่นเก่า และมิรู้ว่าหูเฝื่อนหรือเปล่าเพราะเสียงตะโกนเจาะโสตก็พลอยลดลงด้วยจนเป็นตัวช่วยอีกแรง น่าจะแซงปลายครองมือหนึ่งได้อีกครั้งหากยังไม่เบื่อการเรียนรู้อยู่เช่นนี้ที่สำคัญ ชาราโปว่ามีแววตาบอกนัยความเป็นผู้ใหญ่เต็มเต็มหัวสมอง น่าลองติดตามสัก 2-3 ยกว่าเธอจะเป็นหยกเพชรหรือเม็ดกรวดกันแน่...
การไม่ยอมแพ้ชะตากรรมทำให้เป็นพลังหนุนช่วย นักเตะขุนค้อนเวสต์แฮม เก็บสามแต้มเต็มตลอดเกมจึงเห็นการเล่นแบบถวายหัวของตัวนักเตะแต่ละตนจนช่วยลบล้างเส้นทางอาถรรพ์ของ อลัน พาร์ดิว ที่จ่อรอคิวถูกเชือดคลายระอุเดือดไปไม่น้อย การถอยหลัง (แพ้หลายครั้ง) ใช่ว่าจะกดดันการเดินหน้าได้เนิ่นนาน ถ้าวิญญาณทรหดอดทนเพียงพอกับการต่อสู้อุปสรรคเช่นนักต่อสู้ที่ดีทั้งหลาย คล้าย ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่เฝ้ารอโอกาส กระทั่งหงส์แดงมิอาจขาดเขาได้ในแมตช์สำคัญ ทำนองเดียวกันกับ บัลลัค นักเตะอินทรีเหล็กที่เขยกเขย่งเกร็งๆ กับสิงห์น้ำเงินคราม พอตั้งหลักได้การเป็นหัวใจแห่งแดนกลางเริ่มสว่างเรือง (ตัดเรื่องเสียบหนักออกไปซักนิดจะเพิ่มอิทธิพลบนตำแหน่งได้แกร่งขึ้น)
โดยพื้นฐานผู้จัดการทีมควรใช้วิธีนิ่มๆ แก้ปัญหาอันน่าเห็นและเป็นอยู่คือผู้บงการเกม จอห์น เทอร์รี่ ยังทำหน้าที่ขับเคลื่อนไม่เลื่อนไหลนัก น่าจะใช้บัลลัคแทน เพราะด้วยแก่นในกลวิธี บัลลัคนี่แหละเหมาะสม (แม้เพื่อนๆ จะไม่ชื่นชมเท่าไหร่) พร้อมกับกำชับให้ เอสเซียง เลิกลำเลียงลูกดุ่ยๆ ลุยยิงเอง หรือเลิกเล็งแต่จะส่งตรงให้ ดร็อกบา คนเดียว ปัญหาแค่เสี้ยวผมบังภูเขาก็จริงแต่ยิ่งทิ้งเชลซียิ่งจะตะกักตะกุกเกมรุกไปทุกนัด เสียดายเกมฟัดกะบาร์เซโลน่ามิมีโอกาสชม แต่ผมเชื่อว่าเชลซีเติมเสริมทีละนิดปิดประตูตายการพ่ายแพ้ได้เลย...ชัวร์ แม้การเปิดตัวเริ่มต้นบนพรีเมียร์ยังฉีกหนีแมนยูฯ มิออกแถมวอกแวกเล่นแปลกๆ หลายหน
อดทนรอต่อไป เพราะใจลึกๆ นึกและเห็นว่าเชลซีนี่แหละจะทำแฮตทริกแชมป์พรีเมียร์ลีกสมดังหวังถึงหนทางจะยังค่อนข้างไกลก็เหอะน่า...ความจริงมารยาทเป็นสิ่งที่นักกีฬาควรจะโดยเฉพาะนักกีฬาบ้านเรา ใครเขาจะสำแดงความแข็งกร้าว หยาบคายราวโจรใจบาป เห็นภาพการชกของนักชกไทยในเชิงมวยสากล คนหนึ่งชื่อยอดสนั่น อีกคนนั้นนามว่า สถาพร (สำเนียงอ่อนหวานผิดหู) แต่ดูแล้วกลับผิดแนวผิดคาด สถาพรดันเล่นบทบาทยียวนกวนโทสะเหมือนไม่ยี่หระคู่ต่อสู้ด้วย
เชิงมวยไม่เบาไฉนเล่ากลับเลือกบทผู้ร้ายทางสายตาเช่นนี้ แทนที่ผู้ชม (เยี่ยงผม) จะวางตัวเป็นกลาง จึงเอนเอียงข้างเชียร์ยอดสนั่นซะฉิบ พยายามรีบตัดรีบถอนตัวทิ้งไปก็ไม่ทันเพราะยอดสนั่นชิงน้อคเสียก่อน นักชกนามสถาพร ถ้าจะกลับมาใหม่ลองกลับนิสัยตามด้วย นักมวยอย่างนี้นักกีฬาซึ่งยึดพฤติกรรมต่ำระนาบสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวกุมหัวใจในความเก่งความเป็นนักเลงแท้ๆ ไม่ได้ไม่พอยังกุมข้อง่ายๆ อะไรมิได้ดอก นอกจากรอเวลาอ่อนล้าและล้าอ่อนก่อนกำหนดแค่นั้นเอง
วิสัยนักเลงกีฬาหรือว่าสปิริตคือวิถีชีวิตที่ดีงามทุกสนามทุกสมรภูมิ แม้กระทั่งบนหลุมฝังศพด้วยการจบลมหายใจไม่ใช่การจบตำนานก็ตาม ความจริงอยากถามรัฐมนตรีกีฬาใหม่ใจแทบขาดว่ามาเฟียอำนาจล้นฟ้าในสมาคมต่างๆ ทั้งกร่างสีกร่างบารมีกร่างเครื่องแบบ ตัวแสบเหล่านี้กัดกร่อนวงจรกีฬาไทยจนไปไม่เป็น อย่าทำเล่นเชียวกับพวกเขี้ยวลากดินหินชาติ อาจตกเป็นเหยื่อง่ายๆ หรือตายท้องกลมเอา
การเข้ามา ถ้าตั้งใจจริงสิ่งแรกที่ต้องทำและสำเหนียกคือเมื่อวางมือแล้วได้แผ้วถางหรือสร้างอนุสรณ์ความดีงามใดไว้ มิใช่ท่านนั่งแบบซังกะตายคล้ายเพื่ออยู่เหนือความขัดแย้ง ยามไปใครไม่แช่งไม่ด่า...ถ้าเช่นนั้นเรื่องมันคงจบเหมือนๆ เก่า
ว่าเข้ามาทำไมครับ?