xs
xsm
sm
md
lg

1 ทศวรรษ“ไทเกอร์ วู้ดส์” 12 เมเจอร์และ 52 พีจีเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

27 สิงหาคม 2539 ไทเกอร์ วู้ดส์ ได้ปรากฏตัวให้แฟนกอล์ฟทั่วโลกได้รู้จักเขาในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ หลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์หนุ่มน้อยวัย 20 ปีก็คว้าแชมป์เมเจอร์รายการยูเอส พีจีเอซึ่งต่อมากลายเป็นหนึ่งใน 12 เมเจอร์ที่ วู้ดส์ คว้ามาครองได้สำเร็จ และหลังจากนั้นอีก 10 ปีในวันที่ 27 สิงหาคม 2549 ไทเกอร์ วู้ดส์ ก็คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่ 52 มาครองได้สำเร็จนับเป็นการสร้างผลงานอันต่อเนื่องและยาวนานถึงหนึ่งทศวรรษนับตั้งแต่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ปรากฏตัวขึ้นในวงการกอล์ฟโลก

สามหลุมสุดท้ายของการเล่นเพลย์ออฟในพีจีเอทัวร์รายการ บริดจ์สโตน อินวิเทชั่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไทเกอร์ วู้ดส์ ต้องดวลวงสวิงกับ สจ๊วร์ต ซิงค์ ในการเล่นบนหลุมที่ 17 วู้ดส์ ที่ดูจะมีความมุ่งมั่นและมีสมาธิมากกว่า ซิงค์ ใช้เหล็ก 8 ส่งลูกขึ้นไปวางบนกรีนห่างจากหลุม 8 ฟุตจากนั้นเบอร์ดี้พัตต์ ของโปรวัย 30 ปีก็กลายเป็นชัยชนะที่ทำให้เขาคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองเป็นครั้งที่ 5 ได้สำเร็จ

โดยการครองแชมป์ในครั้งนี้ตรงวันครบรอบ 10 ปีที่ไทเกอร์ วู้ดส์ ลงสู่สนามนักกอล์ฟอาชีพ และ นับเป็นชัยชนะครั้งที่ 52 ในฐานะนักกอล์ฟอาชีพเท่ากับ ไบรอน เนลสัน ซึ่งภายหลังการแข่งขันวู้ดส์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ในช่วงการแข่งขันหลุมที่ 17 ผมบอกกับตนเองว่า ต้องจบการแข่งขันได้แล้ว เมื่อตัดสินใจดังนั้นผลการแข่งขันก็จบลง"

สำหรับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นนับว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดย สจ๊วร์ต ซิงค์ โปรชาวอเมริกันที่เป็นผู้นำในรอบ 3 ทำผลงาน 1 อันเดอร์พาร์ 69 รวม 4 วันมี 10 อันเดอร์พาร์ 270 เช่นเดียวกับ ไทเกอร์ วู้ดส์ มือหนึ่งของโลก ที่จบรอบนี้ที่ 2 อันเดอร์พาร์ ทำให้ผลสกอร์รวมเท่ากับต้องตัดสินหาแชมป์ด้วยการเล่นเพลย์ออฟ ซึ่งถือว่าเป็นดวลครั้งที่ 2 ของรายการนี้ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2001 โดย ไทเกอร์ ดวล กับ จิม ฟิวริค โปรชาวอเมริกันที่จบอันดับ 3 มี 9 อันเดอร์พาร์ 271

การเล่นเพลย์ออฟเริ่มต้นขึ้นโดย วู้ดส์และซิงค์ ทำคะเเนนได้เท่ากันมาตลอดใน 3 หลุมแรก จนกระทั่งถึงหลุมที่ 4 ฝนก็เริ่มโปรยปรายทำให้ควบคุมลูกได้ลำบาก ในหลุมดังกล่าว “พญาเสือ” หวดช็อตสองขึ้นมาออนกรีนพร้อมเก็บเบอร์ดี้ได้สำเร็จ ส่วน ซิงค์ พลาดตีตกบ่อทรายได้เเค่เซฟพาร์เท่านั้น ส่งผลให้ ยอดโปรมือหนึ่งของโลก คว้าเเชมป์ บริดจ์สโตน อินวิเทชั่นแนล สมัยที่ 5 ไปครองอย่างงดงาม พร้อมฉลองครบรอบ 10 ปีของการเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ

โดยภายหลังครองชัยชนะครั้งที่สี่ในรายการนี้ วู้ดส์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ต้องยอมรับว่าผมโชคดีมากในการแข่งขันวันสุดท้ายที่สามารถประคองตัวไปจนถึงเพลย์ออฟได้" ซึ่งผลการงานครั้งนี้นอกจากวู้ดส์ จะคว้าชัยเป็นครั้งที่ 5 ได้สำเร็จแล้วยังเป็นชัยชนะที่เท่ากันบนสนามไฟร์สโตน คันทรี่คลับอีกด้วย และนับเป็นสนามในในพีจีเอ ทัวร์ที่วู้ดส์ คว้ชัยชนะได้มากที่สุด รองลงมาคือสนาม ออกัสต้า เนชั่นแนล และ ทอร์เรย์ ไพนส์

ชัยชนะติดต่อกันสี่รายการในฤดูกาลนี้ของ ไทเกอร์ วู้ดส์ และสองในสี่ครั้งคือเมเจอร์อย่าง ดิ โอเพ่น และ ยูเอสพีจีเอ ซึ่งผลงานอันโดดเด่นเช่นนี้ของวู้ดส์ ไม่ปรากฏมานานแล้วนับตั้งแต่ “พญาเสือ” คว้าชัยชนะติดต่อกันถึง 6 รายการในช่วงปี 1999 -2000 ซึ่งนั่นคือช่วงเวลาที่วู้ดส์ ขึ้นสู่จุดสูงสุดในชีวิตนักกอล์ฟ และเวลานี้คือการกลับมาอีกครั้งหนึ่งแม้ว่ามันจะไม่ง่ายเหมือนเมื่อ 6 ปีก่อนแต่สุดท้ายแล้ววู้ดส์ ก็สามารถสร้างผลงานให้กับตนเองได้สำเร็จ

สำหรับ สจ๊วร์ต ซิงค์ ที่พลาดแชมป์จากการดวลเพลย์ออฟ ในครั้งนี้กล่าวสั้นๆหลังต้องครองตำแหน่งรองแชมป์ว่า "วู้ดส์สามารถควบคุมสถานการณ์ในเกมได้ ในขณะที่ผมทำไม่ได้และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาครองแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ"

ถึงเวลานี้วู้ดส์ มีเป้าหมายในการคว้าเมเจอร์ ให้ได้ 18 รายการเทียบเท่ากับ แจ็ก นิกคลอส ในขณะที่ชัยชนะ 52 ครั้งในพีจีเอ ของเขานั้นถึงเวลานี้เป็นรองแค่เพียง อาร์โนลต์ พาลเมอร์ (62 ครั้ง) เบน โฮแกน (64 ครั้ง) นิกคลอส (73 ครั้ง) และ แซม สนีด (82 ครั้ง)

ด้วยวัย 30 ปีพร้อมกับถ้วยแชมป์ในวันครบรอบปีที่ 10 ของการเล่นกอล์ฟอาชีพ วู้ดส์ กล่าวถึงผลงานของตนเองว่า "ผมจะประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดหวังหรือไม่นั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมและความตั้งใจของตนเองหากอดทนต่ออุปสรรคและความยากลำบากได้ ความสำเร็จที่ดีกว่าก็น่าจะเกิดขึ้นผมเชื่อว่าผลงานในปัจจุบันมาจากอดีตที่ทุ่มเท และหวังว่าความพยายามและความตั้งใจตั้งแต่อดีตจนถึงเวลานี้จะเพียงพอต่อการสร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น