xs
xsm
sm
md
lg

“สิงโตคำราม”สู่ยุควิกฤตินายทวาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สองคู่หู สตีฟ แม็คลาเรน (ขวา) และเทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ ผู้จะเข้ามาแก้ปัญหาให้ทีมชาติอังกฤษ
ในอดีต อังกฤษ คือดินแดนที่เคยสร้างผู้รักษาประตูมือดีๆขึ้นมาประดับโลกลูกหนังอย่างต่อเนื่อง ไม่น่าเชื่อถึงวันนี้พวกเขากลับเผชิญหน้ากับวิกฤติการขาดแคลนนายทวารมือดีอย่างแท้จริง การประกาศรายชื่อเกมอุ่นเครื่องล่าสุดกับทีมชาติกรีซนั้น สตีฟ แม็คลาเรน จำต้องเรียกนายทวารที่ไม่มีตำแหน่งตัวจริงกับต้นสังกัดอย่าง เบน ฟอร์สเตอร์ และ คริส เคิร์กแลนด์ ติดทีมมาด้วย
กอร์ดอน แบงค์ส อดีตนายทวารชุดแชมป์โลกปี 1966
หากย้อนเวลากลับไปทีมชาติอังกฤษไม่เคยสิ้นไร้ยอดนายทวาร สมัยทศวรรษ 60 ยุคนั้นเป็นยุคทองของกอร์ดอน แบงค์สที่พา “สิงโตคำราม” เป็นแชมป์โลกได้ในปี 1966 แถมยังมีตัวสำรองที่ไว้ใจได้อย่าง “ไอ้แมวป่า” ปีเตอร์ โบเน็ตติ

ต่อมาเมื่อหมดยุค แบงค์ส ยอดฝีมืออย่าง ปีเตอร์ ชิลตันก็ก้าวขึ้นมารับช่วงและทำสถิติติดทีมชาติอย่างยาวนานที่สุดถึง 125 นัด ได้เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึงสามสมัยคือปี 1982, 1986 และ 1990 นอกจากนั้นในสมัยของ ชิลตัน อังกฤษ ยังมีผู้รักษาประตูมือดีมากมายอย่าง โจ คอริแกน, ฟิล ปาร์คส์ และ เรย์ คลีเมนซ์ ซึ่งเบียดแย่งมือหนึ่งในทีมชาติกับ ชิลตัน อยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะโรยราไป ปัจจุบัน คลีเมนซ์ ได้ผันตัวเป็นโค้ชผู้รักษาประตูให้กับทีมชาติอังกฤษ

ถัดมาในยุค 90 หัวหน้าโค้ชทีมชาติก็ยังไม่เดือดร้อน มีตัวเลือกให้ใช้งานไม่ขาดสาย ตั้งแต่ คริส วู้ดส์, ทิม ฟลาวเวอร์ส, ไนเจล มาร์ติน ไปจนถึงเดวิด ซีแมน
ปีเตอร์ ชิลตัน ผู้สืบทอดตำนานความเหนียวมาจาก แบงค์ส
แต่พอถึงปัจจุบันกลับกลายเป็นว่า ทีมชาติอังกฤษตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ถือเป็นช่วงเวลาที่ขาดแคลนประตูมือดีอย่างแท้จริง หลังการจากไปของเดวิด ซีแมน ได้ทิ้งช่องว่างมหาศาลไว้กับสองทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ล่าสุดอย่าง ฟุตบอลยูโร 2004 และ ฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งอังกฤษเลือกใช้ เดวิด เจมส์ และ พอล โรบินสัน ตามลำดับ แต่นายทวารทั้งสองคนดูเหมือนจะช่วยทีมไม่ได้มากนัก ทั้งเรื่องของฝีไม้ลายมือและบุคลิกภาพซึ่งไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับแผงหลังและเพื่อนร่วมทีม ปัจจุบันอนาคตทีมชาติของ เดวิด เจมส์ ในวัย 36 ปีน่าจะถึงทางตันแล้ว แต่หากมองหาตัวที่จะขึ้นมากดดันพอล โรบินสัน ยังแทบไม่มี
สุดยอดนายทวารของอังกฤษอีกคน เดวิด ซีแมน
การประกาศตัวล่าสุด สตีฟ แม็คลาเรน ต้องไปเรียก คริส เคิร์กแลนด์ ซึ่งไม่มีที่ว่างแม้กระทั่งตำแหน่งมือสามในทีมลิเวอร์พูลต้นสังกัด เนื่องจากร่างกายที่เปราะบางบาดเจ็บบ่อย ทำให้ “หงส์แดง” ปล่อยตัวให้ วีแกน ยืมไปใช้งาน แต่การติดทีมชาติครั้งนี้ เคิร์กแลนด์ มีสิทธิ์สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคุณพ่อของเขา เอ็ดดี้ เคิร์กแลนด์ ซึ่งมีโอกาสได้ลาภลอยเป็นจำนวนเงินถึง 1 หมื่นปอนด์ (ประมาณ 7 แสนบาท) เนื่องจากครั้งที่ลูกชาย คริส เคิร์กแลนด์ อายุ 13 ขวบ คุณพ่อของเขาแอบไปแทงพนันไว้ 100 ปอนด์ (ราว 7 พันบาท) กับบริษัทรับพนันถูกกฎหมายว่าลูกชายของเขาจะได้ลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษก่อนอายุ 30 ปี

ขณะที่โกล์สำรองทีมชาติอีกคนในเที่ยวนี้ก็คือ เบน ฟอร์สเตอร์ ผู้ไม่มีพื้นที่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง จน อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องให้วัตฟอร์ด ยืมไปใช้งานอีกหนึ่งฤดูกาล ด้าน สกอตต์ คาร์สัน มือ 3 ซึ่ง สเวน โกรัน อีริคส์สัน หนีบไปเยอรมนีด้วยในฟุตบอลโลก 2006 ก็เป็นเพียงมือ 3 ในนามต้นสังกัดลิเวอร์พูล และล่าสุดก็ถูกปล่อยให้ ชาร์ลตัน ยืมตัวไป
พอล โรบินสัน มือหนึ่งทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบัน
สาเหตุแห่งวิกฤตินี้อาจเป็นเพราะบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ชิปไม่มีความเชื่อมั่นในฝีมือนายทวารท้องถิ่น ต่างหันไปพึ่งบริการของนายทวารต่างชาติกันหมด เชลซี เลือก ปีเตอร์ เช็ก ของสาธารณรัฐเช็กเป็นมือหนึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ใช้งาน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทีมชาติฮอลแลนด์ อาร์เซนอลใช้ เยนส์ เลห์มันน์ทีมชาติเยอรมนี ส่วนลิเวอร์พูลก็มอบความไว้วางใจให้กับ โฮเซ่ เรย์น่า ของสเปน

หรือมองในทางกลับกันก็คือเพราะไม่มีผู้รักษาประตูอังกฤษฝีมือดีจริงๆขึ้นมาให้ใช้งาน สโมสรจึงต้องไปเลือกนายทวารต่างชาติแทน

นี่คือการบ้านสำคัญของ สตีฟ แม็คลาเรน กุนซือทีมชาติคนใหม่และวงการลูกหนังเมืองผู้ดี เกิดอะไรขึ้นกับพัฒนาการของผู้เล่นตำแหน่งสำคัญนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนพวกเขาเคยขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยสุดยอดนายทวารอย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น