ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ นักชกเหรียญรางวัลโอลิมปิกคนแรกของประเทศไทย เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรค "โรคเอแอลเอส" หรือโรคที่เกิดจากการตายของเซลล์ประสาทในไขสันหลัง ทำให้เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลศิริราชโดยเมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2549
ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ นักชกเหรียญรางวัลโอลิมปิกคนแรกของประเทศไทย เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรค “โรคเอแอลเอส” หรือเส้นเลือดในสมองตีบ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช
โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2549 ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ นักชกเหรียญทองแดงโอลิมปิก และเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันรายการกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรค “โรคเอแอลเอส” หรือเส้นเลือดในสมองตีบ หลังจากต่อสู้กับโรคร้ายมายาวนานหลายปีด้วยกัน ในที่สุดฮีโร่ผู้คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกก็เสียชีวิตในวัย 49 ปี 10 เดือน หลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช อยู่นานถึง 8 เดือนเต็ม ซึ่ง นางอดาวัลย์ พูลธรัตน์ ภรรยาของยอดนักกีฬา ได้เปิดเผยว่า จะทำการตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่วัดตรีทศเทพ ในวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2549
สำหรับ พเยาว์ เด็กหนุ่มจากบางสะพานที่ใช้ชื่อในการชกมวยไทยว่า “พเยาว์ ศิษย์ครูทัศน์” เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ในปี 2519 และสามารถคว้าเหรียญทองแดงกลับมาบ้านเกิด และยังเป็นเหรียญรางวัลจากการเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเหรียญแรกของประเทศไทย จากกีฬามวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลต์ฟลายเวต
โดยในวัย 19 ปี พร้อมกับประสบการณ์ชกมวยสากลเพียง 2 ปี พเยาว์ กลายเป็นขวัญใจคนทั้งประเทศเพียงชั่วข้ามคืน หลังพิชิตเหรียญรางวัลโอลิมปิก พเยาว์ ก็ก้าวสู่วงการมวยสากลอาชีพตามความใฝ่ฝัน และได้ครองแชมป์โลกสำเร็จในปี 2526 หลังเอาชนะ ราฟาเอล โอโรโน่ จากนั้น พเยาว์ ก็ชนะติดต่อกันเรื่อยมา 8 ไฟต์รวด ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับ วาตานาเบ้ นักชกชาวญี่ปุ่น และ ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ นักชกชาวไทย เมื่อถึงปลายทางของเวทีผ้าใบ พเยาว์ ตัดสินใจแขวนนวม
หลังอำลาชีวิตพ่อค้ากำปั้น “พเยาว์” กลับไปรับราชการเป็นนายตำรวจ จนติดยศร้อยตำรวจเอก ก่อนผันตนเองมาเป็นนักการเมือง โดยได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2544 ในนามพรรคประชาธิปัตย์
แต่ดูเหมือนชีวิตของ พเยาว์ จะคืนสู่สามัญเร็วเกินไป ในปี 2545 “อดีตนักมวยเหรียญทองแดงโอลิมปิก” ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ จนร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนและพูดจาได้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็นมาโดยตลอด เป็นผลให้หมดสภาพการเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแทบจะต้องต่อสู้กับโรคร้ายโดยลำพัง และมีเพียงภรรยาคู่ชีวิต และครอบครัวที่คอยเคียงข้าง