ตราบใดที่ สตีฟ แม็คคลาเรน กุนซือ “สิงโตคำราม” ยังไม่ยอมประกาศรายชื่อทายาทในตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษต่อจากของเดวิด เบ็คแฮม ก่อนเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติกรีซในคืนวันศุกร์นี้ ตราบนั้นแรงเชียร์และเสียงสนับสนุนแคนดิเดทต่างๆที่มีสิทธิ์ก็คงยังดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
เจ้าของปลอกแขนทีมสิงโตคำรามคนใหม่สุดท้ายแล้วจะตกกับใคร จากการกะเก็งบรรดาที่ติดอยู่ในข่ายตั้งแต่ต้นนั้นก็มี จอห์น เทอร์รี่ ผู้นำของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ซึ่งว่ากันว่ามีบุคลิกเหี้ยมหาญและกระตุ้นลูกทีมได้เก่ง คนต่อมาอย่ามองข้ามนั่นก็คือ แกรี่ เนวิลล์ แบ็คขวาตัวเก๋าอดีตลูกน้องเก่าของ แม็คลาเรน ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นเอง ซึ่งปัจจุบัน แกรี่ ก็สวมปลอกแขนให้กับแมเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ส่วนคนสุดท้ายแน่นอน “สตีวี่จี” สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลิเวอร์พูล นั่นเอง หลายเสียงที่เชียร์เจอร์ราร์ด เพราะเชื่อว่าหากมิดฟิลด์ไดนาโมนี้ได้รับความไว้วางใจ น่าจะทำให้ตัวเขาเองรีดฟอร์มได้เหมือนกับเล่นให้ต้นสังกัด เพราะที่ผ่านมาในยามเล่นให้ทีมชาติ เจอร์ราร์ดไม่เคยโชว์ผลงานได้สมราคาเหมือนเล่นกับ ลิเวอร์พูล เลยก็ว่าได้
ถึงเวลานี้กุนซือ “หงส์แดง” อย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ซึ่งเคยออกมาสนับสนุนให้ แม็คคลาเรน เลือก “สตีวี่จี” ยังคงยืนยันความตั้งใจเดิมอย่างหนักแน่น ราฟาเชื่อว่าการมอบปลอกแขนให้ เจอร์ราร์ด จะทำให้ยอดมิดฟิลด์ผู้นี้พัฒนาฝีเท้าขึ้นไปอีกระดับ
“ปัจจุบัน สตีวี่ เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องมุมมองของเกม ผมมองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ควรให้เขาทำหน้าที่กัปตันทีมทั้งสโมสรและในนามทีมชาติ บางทีมันอาจจะทำให้ตัวเขามีสมาธิและตระหนักถึงความสำคัญในการรับหน้าที่กัปตันทีมชาติ และนั่นน่าจะทำให้ตัวเขาเองโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาในยามรับใช้ชาติ”
กุนซือจากสเปนผู้นี้ยังเผยถึงคุณสมบัติที่กัปตันทีมอย่างเจอร์ราร์ด มีอย่างเปี่ยมล้น “กัปตันทีมของผมจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกทีมคนอื่นๆทั้งในและนอกสนาม จุดเด่นของสตีวี่ ก็คือแรงปรารถนาในการเล่นฟุตบอลของเขา ในฐานะผู้จัดการทีมคุณย่อมต้องการให้นักเตะของคุณพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ตัวผมเองเชื่อมั่นว่าเขามีศักยภาพที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกระดับ ผมหวังว่าสตีวี่ จะพัฒนาเรื่องการเข้าใจเกมมากยิ่งขึ้นในซีซั่นนี้”
ราฟา ยังไม่หยุดชักแม่น้ำทั้งห้า “เจอร์ราร์ด ได้เปรียบอยู่แล้วในการอยู่กับสโมสรใหญ่อย่างเรา เพราะทำให้ตัวเขาเองมีประสบการณ์และได้ลงเล่นในเกมใหญ่ๆ ได้โอกาสไล่ล่าแชมป์สำคัญๆ จึงทำให้ตัวเขาเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมามาก มันต่างกับกรณีที่คุณอยู่ในสโมสรระดับกลางๆตารางได้เล่นในพรีเมียร์ชิปได้เล่นฟุตบอลถ้วย แต่ไม่มีโอกาสลุ้นถ้วยรางวัลและการไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก”
เบนิเตซ เผยว่าตัวเขาเองเคยถามเรื่องปลอกแขนทีมชาติอังกฤษกับ สตีฟ แม็คคลาเรน ซึ่งดอดมาหามาดูฟอร์มนักเตะถึงสนามซ้อมเมลวู้ด ที่เมืองลิเวอร์พูล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่กุนซือสิงโตคนใหม่เอาแต่อมยิ้ม ไม่ยอมแพร่งพรายอะไรออกมาเลย
“ผมคงไม่ต้องถึงขนาดเป็นหัวคะแนนคอยหาเสียงให้เจอร์ราร์ดหรอกนะ ผมเชื่อว่าแม็คคลาเรน คงคิดไว้แล้วในใจ ด้วยความที่เขาเป็นคนคลุกคลีกับนักเตะทีมชาติอังกฤษชุดนี้มาหลายปีในฐานะมือขวาของ สเวน โกรัน อีริคส์สัน เขาน่าจะตัดสินใจได้ดีดีที่สุด”
กุนซือหงส์แดง ย้ำความมั่นใจในตัวลูกทีมคนเก่งตบท้ายว่า “ตลอดสองปีที่ผ่านมาเราต่อสู้เพื่อจะฉุดรั้งให้เจอร์ราร์ดอยู่กับสโมสรต่อไป นั่นคือความสำคัญของตัวเขาระดับยิ่งยวด สุดท้าย สตีวี่จี ก็ตอบแทนเราด้วยการพาทีมสู้ศึกมากมาย และทำให้ลิเวอร์พูล ของเราคือทีมที่ยังมีสิทธิ์คว้าถ้วยสำคัญอยู่ตลอดเวลา”