หากเอ่ยชื่อเชลซี แฟนฟุตบอลยุคนี้ล้วนตระหนักดีว่าคือทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งโลกลูกหนังในปัจจุบัน เพราะมีประธานสโมสรชื่อ โรมัน อบราโมวิช ซึ่งร่ำรวยจากธุรกิจน้ำมันในประเทศรัสเซีย นักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ล้วนอยากมาอยู่ในถิ่น “สแตมฟอร์ดบริดจ์”ด้วยอำนาจเงิน แต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยอดจอมทัพในทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เองกลับปันใจเผยว่า ถ้ามีโอกาสในวันหนึ่งข้างหน้าเขาอยากย้ายไปร่วมทีม บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังสเปน!!!
ทีมสีเลือดหมูหรือ “บาร์ซ่า” นั้นคือคู่ปรับตัวยงและเพิ่งจะเขี่ย เชลซี ตกรอบในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จากนั้นพวกเขาก็ดั้นด้นจนไปถึงแชมป์ถ้วยยักษ์ได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเฉือน อาร์เซนอล จากอังกฤษเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่ บาร์เซโลน่าคือยอดปรารถนาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็เพราะตัวเขาเองเผยว่าซี้ย่ำปึ้กกับ โรนัลดินโญ่ และแอบเชียร์ทีมสีเลือดหมูมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง
แลมพาร์ด มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษซึ่งโชว์ฟอร์มไม่ออกในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่ผ่านมาเผยว่า “หลังเกมที่เราแพ้ให้กับบาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ผมได้โอกาสแลกเสื้อกับรอนนี่ด้วยมิตรภาพและความยอมรับในฝีเท้าซึ่งกันและกัน คุณเชื่อหรือไม่เขาหยอกล้อกับผมว่าในอนาคตเราอาจจะได้เล่นทีมเดียวกัน ประโยคนั้นทำให้ผมคิดมากเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวหลุดออกมาว่า บาร์ซ่า สนใจและอยากได้ตัวผม ซึ่งผู้อำนวยการสโมสรของพวกเขานั้นก็น่ารักมาก ตอนเราเจอกันในงานมอบรางวัลเวิลด์เพลเยอร์อวอร์ด”
ข่าวการย้ายทีมของเขาปูดขึ้นหลังจากเชลซี ได้ตัดสินใจดึงตัว มิชาเอล บัลลัค จอมทัพซึ่งหมดสัญญากับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว โดยไกเซอร์น้อยนั้นมีตำแหน่งการเล่นใกล้เคียงกับ แลมพาร์ด แต่หลังจากที่กุนซือ โฮเซ่ มูรินโญ่ ออกมานืนยันว่าทั้งคู่สามารถเล่นร่วมกันได้ เลยทำให้ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของมิดฟิลด์ ทีมชาติอังกฤษผู้นี้เงียบหายไป
อย่างไรก็ดี แลมพาร์ด ไม่ได้ปิดบังถึงความประทับใจของเขาที่มีต่อทีมสีเลือดหมูตั้งแต่ในวัยเด็ก “แน่นอนที่สุด บาร์เซโลน่า คือสุดยอดทีมในยุโรปซึ่งผมสนใจมากที่สุด ผมเชียร์พวกเขามาตั้งแต่เด็กสมัยที่ มาราโดน่า, โรมาริโอ และ โรนัลโด้ ยังเล่นร่วมกันอยู่ที่นั่น นอกจากนั้นผมยังความทับใจสนามของพวกเขาคัมป์นู ซึ่งยิ่งใหญ่อลังการเหลือเกิน
ยอดมิดฟิลด์วัย 28 ปีซึ่งเซ็นสัญญากับเชลซีจนถึงปี 2009 ยังเผยถึงสาเหตุอื่นด้วยว่า “ที่สำคัญบาร์เซโลน่าคือเมืองซึ่งทำให้ผมได้พบกับคู่หมั่นคนนี้ เอเลน และทำให้ได้ไปเยี่ยมครอบครัวของเธอที่นั่นบ่อยครั้ง แต่ขอยืนยันว่าเธอไม่มีส่วนแนะนำหรือชักจูงอะไรผมทั้งสิ้น หลายคนอาจครหาว่า เอเลน น่าจะมีส่วนที่ทำให้ผมอยากอำลา เชลซี แต่ที่จริงแล้วไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนเธอก็ตามใจทั้งนั้น”
บาร์เซโลน่า เจ้าบุญทุ่มจากสเปนนั้นเพิ่งจะชวดได้ตัวยอดดาวเตะจากพรีเมียร์ชิปอย่างเธียร์รี่ อองรี ของอาร์เซนอล ไปไม่นาน เมื่อหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส กลับใจขอต่อสัญญาอยู่ในกรุงลอนดอนต่อไป เพื่อเป็นตัวหลักให้กับทีม “ปืนใหญ่” ยุคเจนเนอร์เรชั่นเอ็กซ์
เช่นเดียวกับการการย้ายไปอยู่สเปนของแลมพาร์ด ในปัจจุบันที่อาจจะยังลำบาก เนื่องจาก บาร์ซ่า ยังมี เดโก้, ชาบี้ เฮอร์นานเดซ, อินเยสต้า, มาร์ค ฟาน บอมเมล ฯลฯ ในแดนมิดฟิลด์ขวางอยู่เพียบ แต่อนาคตก็ไม่แน่เหมือนกันสถานการน่าจะอำนวยมากกว่านี้ และเมื่อ แลมพาร์ด อายุใกล้ 30 ปีอาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในอาชีพค้าแข้งของเขาเพื่อความท้าทายก็เป็นได้
สุดท้ายมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษผู้นี้ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ผมได้แต่คิดว่าการมีข่าวว่าทีมอย่างบาร์เซโลน่าสนใจนั้นคือความภาคภูมิใจ และนั่นคือความปรารถนาโดยส่วนตัวของผมด้วย หากมีโอกาสได้ไปเล่นยังต่างแดนในอนาคตแล้ว บาร์เซโลน่า คือสโมสรที่ผมอยากไปร่วมทีมด้วยมากที่สุด”
ทีมสีเลือดหมูหรือ “บาร์ซ่า” นั้นคือคู่ปรับตัวยงและเพิ่งจะเขี่ย เชลซี ตกรอบในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จากนั้นพวกเขาก็ดั้นด้นจนไปถึงแชมป์ถ้วยยักษ์ได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเฉือน อาร์เซนอล จากอังกฤษเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่ บาร์เซโลน่าคือยอดปรารถนาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็เพราะตัวเขาเองเผยว่าซี้ย่ำปึ้กกับ โรนัลดินโญ่ และแอบเชียร์ทีมสีเลือดหมูมาตั้งแต่เด็กนั่นเอง
แลมพาร์ด มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษซึ่งโชว์ฟอร์มไม่ออกในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่ผ่านมาเผยว่า “หลังเกมที่เราแพ้ให้กับบาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ผมได้โอกาสแลกเสื้อกับรอนนี่ด้วยมิตรภาพและความยอมรับในฝีเท้าซึ่งกันและกัน คุณเชื่อหรือไม่เขาหยอกล้อกับผมว่าในอนาคตเราอาจจะได้เล่นทีมเดียวกัน ประโยคนั้นทำให้ผมคิดมากเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวหลุดออกมาว่า บาร์ซ่า สนใจและอยากได้ตัวผม ซึ่งผู้อำนวยการสโมสรของพวกเขานั้นก็น่ารักมาก ตอนเราเจอกันในงานมอบรางวัลเวิลด์เพลเยอร์อวอร์ด”
ข่าวการย้ายทีมของเขาปูดขึ้นหลังจากเชลซี ได้ตัดสินใจดึงตัว มิชาเอล บัลลัค จอมทัพซึ่งหมดสัญญากับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว โดยไกเซอร์น้อยนั้นมีตำแหน่งการเล่นใกล้เคียงกับ แลมพาร์ด แต่หลังจากที่กุนซือ โฮเซ่ มูรินโญ่ ออกมานืนยันว่าทั้งคู่สามารถเล่นร่วมกันได้ เลยทำให้ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของมิดฟิลด์ ทีมชาติอังกฤษผู้นี้เงียบหายไป
อย่างไรก็ดี แลมพาร์ด ไม่ได้ปิดบังถึงความประทับใจของเขาที่มีต่อทีมสีเลือดหมูตั้งแต่ในวัยเด็ก “แน่นอนที่สุด บาร์เซโลน่า คือสุดยอดทีมในยุโรปซึ่งผมสนใจมากที่สุด ผมเชียร์พวกเขามาตั้งแต่เด็กสมัยที่ มาราโดน่า, โรมาริโอ และ โรนัลโด้ ยังเล่นร่วมกันอยู่ที่นั่น นอกจากนั้นผมยังความทับใจสนามของพวกเขาคัมป์นู ซึ่งยิ่งใหญ่อลังการเหลือเกิน
ยอดมิดฟิลด์วัย 28 ปีซึ่งเซ็นสัญญากับเชลซีจนถึงปี 2009 ยังเผยถึงสาเหตุอื่นด้วยว่า “ที่สำคัญบาร์เซโลน่าคือเมืองซึ่งทำให้ผมได้พบกับคู่หมั่นคนนี้ เอเลน และทำให้ได้ไปเยี่ยมครอบครัวของเธอที่นั่นบ่อยครั้ง แต่ขอยืนยันว่าเธอไม่มีส่วนแนะนำหรือชักจูงอะไรผมทั้งสิ้น หลายคนอาจครหาว่า เอเลน น่าจะมีส่วนที่ทำให้ผมอยากอำลา เชลซี แต่ที่จริงแล้วไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนเธอก็ตามใจทั้งนั้น”
บาร์เซโลน่า เจ้าบุญทุ่มจากสเปนนั้นเพิ่งจะชวดได้ตัวยอดดาวเตะจากพรีเมียร์ชิปอย่างเธียร์รี่ อองรี ของอาร์เซนอล ไปไม่นาน เมื่อหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส กลับใจขอต่อสัญญาอยู่ในกรุงลอนดอนต่อไป เพื่อเป็นตัวหลักให้กับทีม “ปืนใหญ่” ยุคเจนเนอร์เรชั่นเอ็กซ์
เช่นเดียวกับการการย้ายไปอยู่สเปนของแลมพาร์ด ในปัจจุบันที่อาจจะยังลำบาก เนื่องจาก บาร์ซ่า ยังมี เดโก้, ชาบี้ เฮอร์นานเดซ, อินเยสต้า, มาร์ค ฟาน บอมเมล ฯลฯ ในแดนมิดฟิลด์ขวางอยู่เพียบ แต่อนาคตก็ไม่แน่เหมือนกันสถานการน่าจะอำนวยมากกว่านี้ และเมื่อ แลมพาร์ด อายุใกล้ 30 ปีอาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในอาชีพค้าแข้งของเขาเพื่อความท้าทายก็เป็นได้
สุดท้ายมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษผู้นี้ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ผมได้แต่คิดว่าการมีข่าวว่าทีมอย่างบาร์เซโลน่าสนใจนั้นคือความภาคภูมิใจ และนั่นคือความปรารถนาโดยส่วนตัวของผมด้วย หากมีโอกาสได้ไปเล่นยังต่างแดนในอนาคตแล้ว บาร์เซโลน่า คือสโมสรที่ผมอยากไปร่วมทีมด้วยมากที่สุด”
