ในการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ รายการ ดิ โอเพ่นที่จะลงสนามรอบแรกตรงกับวันพฤหัสที่ 20 กรกฎาคม 49 เอียน วูสแน่ม โปรชื่อดังชาวเวลส์และหนึ่งในสมาชิกของ ไรเดอร์ คัพ ยุโรปกล่าวถึงฟอร์มของไทเกอร์ วู้ดส์ ในเวลานี้ว่า การออกรอบของ วู้ดส์ ในเช้าวันพฤหัสนี้ เปรียบเสมือนการจรดปลายมีดและช้อนซ้อมลงบนสนาม รอยัล ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นบทเริ่มต้นของอาหารเช้าอันแสนโอชะของพญาเสือในการแข่งขันแกรนด์สแลม ดิ โอเพ่น ที่วู้ดส์ พร้อมยิ่งกว่าพร้อมในการขับเคี่ยวนักกอล์ฟทุกคนที่เข้าร่วมชิงชัยในครั้งนี้
ความคาดหมายของ “วูซี่” อาจเป็นจริงเมื่อมีพยากรณ์อากาศออกมาแล้วว่าตลอดสี่วันของการแข่งขันสภาพอากาศในสนามรอยัล ลิเวอร์พูล ฮอยเลค จะปลอดโปร่งอย่างที่โปรทุกคนต้องการ และโอกาสที่จะได้เห็นไทเกอร์วู้ดส์ ทำสกอร์สถิติชนิด 18 อันเดอร์พาร์ก็มีความเป็นไปได้
ทั้งนี้ วูสแน่ม โปรชื่อดังแห่งทีมไรเดอร์ คัพยุโรปนั้นเชื่อว่า วู้ดส์ น่าจะทำผลงานในดิ โอเพ่นครั้งนี้ได้เกินความคาดหมาย หลังจากที่คว้าแชมป์รายการนี้ด้วยสกอร์ 19 อันเดอร์พาร์เมื่อปี 2000 ในสนามเซนต์ แอนดรูว์ส โดยมีอันดับสองคือ โธมัส บิยอร์น และ เออร์นี่ย์ เอลส์
ในการออกรอบซ้อมเมื่อเช้าวันอังคารที่ 18 กรกฏาคมที่ผ่านมา โปรหมายเลขหนึ่งของโลก สร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองด้วยการลงสนามร่วมกับ รอด พัมพ์ลิง โปรจากออสเตรเลีย โดยวู้ดส์นั้นเริ่มต้นการฝึกซ้อมของตนเองตั้งแต่เวลา 6.45 น. และหลังจากได้พูดคุยกับวูสแน่ม พญาเสือ ก็โชว์ความร้อนแรงของตนเองด้วยการเก็บเบอร์ดี้ ตั้งแต่เริ่มต้นหลุมแรก และเล่นชนิดรักษามาตรฐานได้จนจบการฝึกซ้อมทั้ง 18 หลุม
ฟอร์มอันแข็งแกร่งของวู้ดส์ นั้นไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับ วูสแน่ม แม้แต่น้อยเพราะเขาเองเคยเล่นในสนามแห่งนี้มาแล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อนโดยกล่าวถึงสภาพสนามโดยรวมว่า "สนามแห่งนี้ต้องมีลมเป็นอุปสรรค ถ้าขาดไปแล้ว รอยัล ลิเวอร์พูล ก็จะกลายเป็นสนามที่ง่ายสำหรับนักกอล์ฟทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งไทเกอร์ วู้ดส์ เพราะแนวรัฟที่ไม่สูงมากนัก เปรียบเสมือนกับอาหารเช้าให้ ไทเกอร์ วู้ดส์ ได้ขม้ำตั้งแต่หลุมแรกเลยทีเดียว"
นอกจากนี้ วูสแน่ม ยังบรรยายถึงสภาพแฟร์เวย์ของ รอยัล ลิเวอร์พูลว่า "แฟร์เวย์ ของสนามควรจะถูกบีบให้แคบกว่านี้ แต่ที่เป็นอยู่มันไม่ได้ยากเลยสำหรับการวางลูกจากทีออฟ และมีความเป็นไปได้ที่เหล่าโปรจะสามารถทำ ชอตแอพโพรช ได้จากแฟร์เวย์ที่มีพื้นที่เหลือเฟือ สภาพเช่นนี้มีความเป็นไปได้ว่าโปรฝีมือดีนอกเหนือจากไทเกอร์ วู้ดส์จะสามารถทำสกอร์ได้ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันของ ไทเกอร์ วู้ดส์ในปีนี้ นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกเพิ่งบินมาถึงอังกฤษเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจาก เลี่ยงจะเข้าร่วมกิจกรรมอันเป็นประเพณีของ ดิ โอเพ่นที่บรรดานักกอล์ฟต้องร่วมกัน ตกปลา และ ออกรอบซ้อมบนลิงค์คอร์สในไอร์แลนด์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวู้ดส์ เลือกที่จะอยู่บ้านในสหรัฐอเมริกาและประชาสัมพันธ์เกมของเขาที่ออร์ลันโด และภายหลังเดินทางมาถึง ฮอยเลค วู้ดส์ พักผ่อนเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่จะเริ่มต้นการซ้อม 9 หลุมของตนเอง
ทั้งนี้ ไทเกอร์ วู้ดส์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่เข้าร่วมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ในครั้งนี้ว่า "ผมรักที่จะได้ลงสนามเมเจอร์ รายการนี้และทุกครั้งที่ประสบความสำเร็จในรายการแชมเปี้ยนชิป มันเป็นสิ่งพิเศษมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการที่เก่าแก่ที่สุดของวงการกอล์ฟอย่าง ดิ โอเพ่น
"ตอนนี้ผมมี ถ้วย คลาเร็ต จักที่ผ่านมาแล้ว 2 ใบ และทุกครั้งที่ผมมองไปที่ถ้วยมันช่างน่าอัศจรรย์มากที่ได้เห็นชื่อของตนเองปรากฎอยู่บนถ้วยใบนี้ต่อจากนักกอล์ฟระดับตำนานไม่ว่าจะเป็น ทอม มอร์ริส, แฮร์รี่ วาร์ดอ, วอลเตอร์ เฮเกน, บ็อบบี้ โจนส์, แซม สนีด มันเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งสำหรับผมที่ได้จารึกชื่อของตนเองบนถ้วยใบนี้ถึงสองครั้ง"
หากสภาพอากาศที่ “ฮอยเลค” ยังคงเป็นใจให้กับนักกอล์ฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไทเกอร์ วู้ดส์ ตลอดระยะเวลา 4 วันของการแข่งขันนอกจากผลแพ้ชนะแล้วคงต้องมาลุ้นกันว่าสกอร์ที่โปรผู้คว้าแชมป์จะทำได้ใน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 135 จะเทียบได้กับเมื่อหกปีก่อนที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ครองแชมป์ด้วยสกอร์ 19 อันเดอร์พาร์ บนสนามเซนต์ แอนดรูว์สได้หรือไม่
ความคาดหมายของ “วูซี่” อาจเป็นจริงเมื่อมีพยากรณ์อากาศออกมาแล้วว่าตลอดสี่วันของการแข่งขันสภาพอากาศในสนามรอยัล ลิเวอร์พูล ฮอยเลค จะปลอดโปร่งอย่างที่โปรทุกคนต้องการ และโอกาสที่จะได้เห็นไทเกอร์วู้ดส์ ทำสกอร์สถิติชนิด 18 อันเดอร์พาร์ก็มีความเป็นไปได้
ทั้งนี้ วูสแน่ม โปรชื่อดังแห่งทีมไรเดอร์ คัพยุโรปนั้นเชื่อว่า วู้ดส์ น่าจะทำผลงานในดิ โอเพ่นครั้งนี้ได้เกินความคาดหมาย หลังจากที่คว้าแชมป์รายการนี้ด้วยสกอร์ 19 อันเดอร์พาร์เมื่อปี 2000 ในสนามเซนต์ แอนดรูว์ส โดยมีอันดับสองคือ โธมัส บิยอร์น และ เออร์นี่ย์ เอลส์
ในการออกรอบซ้อมเมื่อเช้าวันอังคารที่ 18 กรกฏาคมที่ผ่านมา โปรหมายเลขหนึ่งของโลก สร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองด้วยการลงสนามร่วมกับ รอด พัมพ์ลิง โปรจากออสเตรเลีย โดยวู้ดส์นั้นเริ่มต้นการฝึกซ้อมของตนเองตั้งแต่เวลา 6.45 น. และหลังจากได้พูดคุยกับวูสแน่ม พญาเสือ ก็โชว์ความร้อนแรงของตนเองด้วยการเก็บเบอร์ดี้ ตั้งแต่เริ่มต้นหลุมแรก และเล่นชนิดรักษามาตรฐานได้จนจบการฝึกซ้อมทั้ง 18 หลุม
ฟอร์มอันแข็งแกร่งของวู้ดส์ นั้นไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับ วูสแน่ม แม้แต่น้อยเพราะเขาเองเคยเล่นในสนามแห่งนี้มาแล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อนโดยกล่าวถึงสภาพสนามโดยรวมว่า "สนามแห่งนี้ต้องมีลมเป็นอุปสรรค ถ้าขาดไปแล้ว รอยัล ลิเวอร์พูล ก็จะกลายเป็นสนามที่ง่ายสำหรับนักกอล์ฟทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งไทเกอร์ วู้ดส์ เพราะแนวรัฟที่ไม่สูงมากนัก เปรียบเสมือนกับอาหารเช้าให้ ไทเกอร์ วู้ดส์ ได้ขม้ำตั้งแต่หลุมแรกเลยทีเดียว"
นอกจากนี้ วูสแน่ม ยังบรรยายถึงสภาพแฟร์เวย์ของ รอยัล ลิเวอร์พูลว่า "แฟร์เวย์ ของสนามควรจะถูกบีบให้แคบกว่านี้ แต่ที่เป็นอยู่มันไม่ได้ยากเลยสำหรับการวางลูกจากทีออฟ และมีความเป็นไปได้ที่เหล่าโปรจะสามารถทำ ชอตแอพโพรช ได้จากแฟร์เวย์ที่มีพื้นที่เหลือเฟือ สภาพเช่นนี้มีความเป็นไปได้ว่าโปรฝีมือดีนอกเหนือจากไทเกอร์ วู้ดส์จะสามารถทำสกอร์ได้ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันของ ไทเกอร์ วู้ดส์ในปีนี้ นักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกเพิ่งบินมาถึงอังกฤษเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจาก เลี่ยงจะเข้าร่วมกิจกรรมอันเป็นประเพณีของ ดิ โอเพ่นที่บรรดานักกอล์ฟต้องร่วมกัน ตกปลา และ ออกรอบซ้อมบนลิงค์คอร์สในไอร์แลนด์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยวู้ดส์ เลือกที่จะอยู่บ้านในสหรัฐอเมริกาและประชาสัมพันธ์เกมของเขาที่ออร์ลันโด และภายหลังเดินทางมาถึง ฮอยเลค วู้ดส์ พักผ่อนเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่จะเริ่มต้นการซ้อม 9 หลุมของตนเอง
ทั้งนี้ ไทเกอร์ วู้ดส์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่เข้าร่วมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ในครั้งนี้ว่า "ผมรักที่จะได้ลงสนามเมเจอร์ รายการนี้และทุกครั้งที่ประสบความสำเร็จในรายการแชมเปี้ยนชิป มันเป็นสิ่งพิเศษมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการที่เก่าแก่ที่สุดของวงการกอล์ฟอย่าง ดิ โอเพ่น
"ตอนนี้ผมมี ถ้วย คลาเร็ต จักที่ผ่านมาแล้ว 2 ใบ และทุกครั้งที่ผมมองไปที่ถ้วยมันช่างน่าอัศจรรย์มากที่ได้เห็นชื่อของตนเองปรากฎอยู่บนถ้วยใบนี้ต่อจากนักกอล์ฟระดับตำนานไม่ว่าจะเป็น ทอม มอร์ริส, แฮร์รี่ วาร์ดอ, วอลเตอร์ เฮเกน, บ็อบบี้ โจนส์, แซม สนีด มันเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งสำหรับผมที่ได้จารึกชื่อของตนเองบนถ้วยใบนี้ถึงสองครั้ง"
หากสภาพอากาศที่ “ฮอยเลค” ยังคงเป็นใจให้กับนักกอล์ฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไทเกอร์ วู้ดส์ ตลอดระยะเวลา 4 วันของการแข่งขันนอกจากผลแพ้ชนะแล้วคงต้องมาลุ้นกันว่าสกอร์ที่โปรผู้คว้าแชมป์จะทำได้ใน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 135 จะเทียบได้กับเมื่อหกปีก่อนที่ ไทเกอร์ วู้ดส์ ครองแชมป์ด้วยสกอร์ 19 อันเดอร์พาร์ บนสนามเซนต์ แอนดรูว์สได้หรือไม่