คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
นับตั้งแต่นาที 109 ของนัดชิงชนะเลิศเวิลด์ คัพ 2006 ที่โฮราซิโอ อีลิซอนโด้ ผู้ตัดสินชาวอาร์เจนติน่าชูใบแดงไล่ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพของฝรั่งเศสฐานใช้ศีรษะโขกยอดอกมาร์โก มาเตรัซซี กองหลังจอมซุบซิบชาวอิตาลี ข่าวสารเกี่ยวซีดาน แพร่กระจายไปทั่วโลกนานกว่าสัปดาห์ ทำให้การเฉลิมฉลองแชมป์โลกในโรมจืดลงไปเยอะ
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ซีดานมาจากทุกสารทิศ อลัน แฮนเซ่น อดีตดาวดังลิเวอร์พูลยิงลูกโทษใส่ซีดานว่าฝรั่งเศสไม่ได้ครองแชมป์โลกเพราะการกระทำของเขา ฟร้องซ์ เลอเบิฟ เพื่อนนักเตะชาวฝรั่งเศสกับบิซองเต้ ลิซาลาซู ที่เคยครองแชมป์ฟร้องซ์ 98 ด้วยกันตำหนิอย่างรุนแรงว่ารับไม่ได้ และไม่น่าเสียค่าโง่ ดาวิด เทรเซเกต์ ผู้ยิงลูกที่จุดไม่เข้าบอกว่าทุกคนไม่น่าโทษซีดาน
สื่อยุโรปจ้างนักอ่านริมฝีปากมาแกะข้อความช่วงซีดานกับมาเตรัซมีปากเสียงกัน แล้วแพร่ว่ามาเตรัซซีด่าว่าซีดานเป็นพวกผู้ก่อการร้าย และสาปแช่งมารดาของซีดาน ความจริงจากปากซีดานแพร่ทางโทรทัศน์ฝรั่งเศส ซีดานบอกว่าเขาสบประมาทแม่กับน้องสาวสามครั้งจึงทนไม่ไหว อย่างไรก็ตาม เขายืนยันจะไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป แต่เขาเสียใจและขอโทษเด็กทั่วโลกที่ได้ชมภาพอันไม่งดงามนั้น
ไม่ว่า เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า จะออกมาตำหนิหรือขู่จะริบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 2006 ต่อเรื่องนี้ซีดานวางเฉย ลูกบอลทองคำเป็นสิ่งสมมติที่สามารถริบกลับไปได้ ทว่า ฝีเท้าอันเลิศเลอเป็นที่ประจักษ์องค์กรอิทธิพลไหนริบจากเขาไม่ได้
ถ้อยคำและท่าทีอันมั่นคงของซีดาน และการไม่ตอบโต้ใคร ไม่ตอบโต้เพื่อนนักฟุตบอลที่กล่าวตำหนิ ทำให้ผมนึกถึง ‘เมอโซ’ ตัวเอกในนิยาย ‘คนนอก’ ของ อัลแบร์ กามู (Albert Camus) นักเขียนรางวัลโนเบลชาวฝรั่งเศสผู้เกิดและใช้ชีวิตวัยเยาว์ในแอลจีเรีย เมอโซเป็นปัจเจกชนผู้แตกต่างจากคนอื่น และกล้าประการว่า “เขารักแม่มากกว่าความยุติธรรม”
แฟนบอลบางท่านคงทราบว่า ซีเนอดีน ซีดาน ก็เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรีย เขาเกิดในแอลจีเรียเหมือนกามู เกิดในครอบครัวยากจน นับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาพ่อแม่ย้ายครอบครัวมาอยู่ปารีส พ่อของเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซีดานกับพี่น้องเติบโตเป็นเด็กข้างถนน เขามีพ่อเป็นแรงบันดาลใจ ซีดานภาคภูมิใจและรักเทิดทูลในครอบครัวที่อพยพกันอยู่ในฝรั่งเศสอยากแร้นแค้น และใช้เวลานานกว่าจะได้ถือสัญชาติฝรั่งเศส
ถ้ามาเตรัซซีด่าว่าเขาเป็นพวกผู้ก่อการร้าย(เหมาโหลเอาในฐานะเขานับถือศาสนาอิสลาม) หรือดูถูกแม่และน้อง (ครอบครัว) ถือว่าทุบโครมลงบนกระดูกสันหลังของซีดานตรงเผงเลยทีเดียว แต่จนถึงบัดนี้มาเตรัซซียังปากแข็ง ไม่กล้าแม้จะสารภาพว่าตนพูอะไรออกไปให้โลกรับรู้
เมอโซรักแม่มากกว่าความยุติธรรม บทสุดท้ายเขาถูกประหารชีวิตเพราะเป็นคนแปลก ไม่เหมือนคนอื่น เขาไม่ร้องไห้เมื่อแม่ตาย คนอื่นคิดว่าเขาไม่รักแม่ ซีดานอาจไม่รักแชมป์เวิลด์คัพเท่ากับครอบครัว (เขาเคยสัมผัสรสชาติมาแล้ว) จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงว่าฝรั่งเศสไม่ได้แชมป์เพราะเขา เมอโซถูกประหารเพราะไม่ร้องไห้ที่แม่ตาย ผมคิดเรื่อยเปื่อยไปว่า…ฝรั่งเศสไม่ใช่แผ่นดินให้กำเนิด จึงไม่อาจเป็นแม่ที่แท้จริง เหมือนแม่ที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลก็ได้ สิ่งที่ซีดานทำน่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในสนามฟุตบอลบ้าง
กรณีซีดาน..ประธานาธิบดีชาร์ค ชีรัก ของฝรั่งเศสแสดงออกถึงความเป็นยอดผู้นำอีกครั้ง คำพูดหลังเกมการแข่งขันไม่กี่นาที ชีรักบอกว่าซีดานเป็นยอดนักเตะที่หาได้ยากคนหนึ่ง ฝรั่งเศสต่างหากที่ยังเป็นหนี้ผู้ชายคนนี้ ลมปากของผู้มากประสบการณ์เหมือนอ้อมกอดที่อบอุ่น ซึ่งของมีทำให้ชาวฝรั่งเศสมากกว่าครึ่งให้อภัยซีดาน นอกนั้นต่างแสดงความเห็นอกเห็นใจ
นับตั้งแต่นาที 109 ของนัดชิงชนะเลิศเวิลด์ คัพ 2006 ที่โฮราซิโอ อีลิซอนโด้ ผู้ตัดสินชาวอาร์เจนติน่าชูใบแดงไล่ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพของฝรั่งเศสฐานใช้ศีรษะโขกยอดอกมาร์โก มาเตรัซซี กองหลังจอมซุบซิบชาวอิตาลี ข่าวสารเกี่ยวซีดาน แพร่กระจายไปทั่วโลกนานกว่าสัปดาห์ ทำให้การเฉลิมฉลองแชมป์โลกในโรมจืดลงไปเยอะ
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ซีดานมาจากทุกสารทิศ อลัน แฮนเซ่น อดีตดาวดังลิเวอร์พูลยิงลูกโทษใส่ซีดานว่าฝรั่งเศสไม่ได้ครองแชมป์โลกเพราะการกระทำของเขา ฟร้องซ์ เลอเบิฟ เพื่อนนักเตะชาวฝรั่งเศสกับบิซองเต้ ลิซาลาซู ที่เคยครองแชมป์ฟร้องซ์ 98 ด้วยกันตำหนิอย่างรุนแรงว่ารับไม่ได้ และไม่น่าเสียค่าโง่ ดาวิด เทรเซเกต์ ผู้ยิงลูกที่จุดไม่เข้าบอกว่าทุกคนไม่น่าโทษซีดาน
สื่อยุโรปจ้างนักอ่านริมฝีปากมาแกะข้อความช่วงซีดานกับมาเตรัซมีปากเสียงกัน แล้วแพร่ว่ามาเตรัซซีด่าว่าซีดานเป็นพวกผู้ก่อการร้าย และสาปแช่งมารดาของซีดาน ความจริงจากปากซีดานแพร่ทางโทรทัศน์ฝรั่งเศส ซีดานบอกว่าเขาสบประมาทแม่กับน้องสาวสามครั้งจึงทนไม่ไหว อย่างไรก็ตาม เขายืนยันจะไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป แต่เขาเสียใจและขอโทษเด็กทั่วโลกที่ได้ชมภาพอันไม่งดงามนั้น
ไม่ว่า เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่า จะออกมาตำหนิหรือขู่จะริบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 2006 ต่อเรื่องนี้ซีดานวางเฉย ลูกบอลทองคำเป็นสิ่งสมมติที่สามารถริบกลับไปได้ ทว่า ฝีเท้าอันเลิศเลอเป็นที่ประจักษ์องค์กรอิทธิพลไหนริบจากเขาไม่ได้
ถ้อยคำและท่าทีอันมั่นคงของซีดาน และการไม่ตอบโต้ใคร ไม่ตอบโต้เพื่อนนักฟุตบอลที่กล่าวตำหนิ ทำให้ผมนึกถึง ‘เมอโซ’ ตัวเอกในนิยาย ‘คนนอก’ ของ อัลแบร์ กามู (Albert Camus) นักเขียนรางวัลโนเบลชาวฝรั่งเศสผู้เกิดและใช้ชีวิตวัยเยาว์ในแอลจีเรีย เมอโซเป็นปัจเจกชนผู้แตกต่างจากคนอื่น และกล้าประการว่า “เขารักแม่มากกว่าความยุติธรรม”
แฟนบอลบางท่านคงทราบว่า ซีเนอดีน ซีดาน ก็เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรีย เขาเกิดในแอลจีเรียเหมือนกามู เกิดในครอบครัวยากจน นับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาพ่อแม่ย้ายครอบครัวมาอยู่ปารีส พ่อของเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซีดานกับพี่น้องเติบโตเป็นเด็กข้างถนน เขามีพ่อเป็นแรงบันดาลใจ ซีดานภาคภูมิใจและรักเทิดทูลในครอบครัวที่อพยพกันอยู่ในฝรั่งเศสอยากแร้นแค้น และใช้เวลานานกว่าจะได้ถือสัญชาติฝรั่งเศส
ถ้ามาเตรัซซีด่าว่าเขาเป็นพวกผู้ก่อการร้าย(เหมาโหลเอาในฐานะเขานับถือศาสนาอิสลาม) หรือดูถูกแม่และน้อง (ครอบครัว) ถือว่าทุบโครมลงบนกระดูกสันหลังของซีดานตรงเผงเลยทีเดียว แต่จนถึงบัดนี้มาเตรัซซียังปากแข็ง ไม่กล้าแม้จะสารภาพว่าตนพูอะไรออกไปให้โลกรับรู้
เมอโซรักแม่มากกว่าความยุติธรรม บทสุดท้ายเขาถูกประหารชีวิตเพราะเป็นคนแปลก ไม่เหมือนคนอื่น เขาไม่ร้องไห้เมื่อแม่ตาย คนอื่นคิดว่าเขาไม่รักแม่ ซีดานอาจไม่รักแชมป์เวิลด์คัพเท่ากับครอบครัว (เขาเคยสัมผัสรสชาติมาแล้ว) จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงว่าฝรั่งเศสไม่ได้แชมป์เพราะเขา เมอโซถูกประหารเพราะไม่ร้องไห้ที่แม่ตาย ผมคิดเรื่อยเปื่อยไปว่า…ฝรั่งเศสไม่ใช่แผ่นดินให้กำเนิด จึงไม่อาจเป็นแม่ที่แท้จริง เหมือนแม่ที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลก็ได้ สิ่งที่ซีดานทำน่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในสนามฟุตบอลบ้าง
กรณีซีดาน..ประธานาธิบดีชาร์ค ชีรัก ของฝรั่งเศสแสดงออกถึงความเป็นยอดผู้นำอีกครั้ง คำพูดหลังเกมการแข่งขันไม่กี่นาที ชีรักบอกว่าซีดานเป็นยอดนักเตะที่หาได้ยากคนหนึ่ง ฝรั่งเศสต่างหากที่ยังเป็นหนี้ผู้ชายคนนี้ ลมปากของผู้มากประสบการณ์เหมือนอ้อมกอดที่อบอุ่น ซึ่งของมีทำให้ชาวฝรั่งเศสมากกว่าครึ่งให้อภัยซีดาน นอกนั้นต่างแสดงความเห็นอกเห็นใจ