xs
xsm
sm
md
lg

ขุมทรัพย์เสื้อกีฬาฟุตบอลโลก 2006

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในฟุตบอลโลกยุคใหม่ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ลิขสิทธิ์ต่างๆ ล้วนมีมูลค่าทางการตลาดอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ฟุตบอลโลกนั้นไม่ใช่เกมกีฬาเพื่อพิสูจน์ศักดิ์ศรีและเกียรติยศของแต่ละชาติในการแสดงความเก่งกาจในเชิงลูกหนังเพียงด้านเดียวอีกต่อไป กีฬาที่มีคนนิยมชมชอบมากที่สุดในโลกชนิดนี้ มีพลังแฝงด้านธุรกิจและการตลาดที่ต้องแก่งแย่งชิงความได้เปรียบกันให้มากที่สุด

สำหรับเสื้อผ้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่สร้างรายได้อย่างมากมาย ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้ สังเวียนของการแข่งขันจึงเป็นสถานที่ในการโชว์สินค้าให้เห็นจะๆ ตาต่อผู้ชมเป็นหมื่นๆล้านคู่ทั่วโลก และสามารถสร้างแรงเร้าในกำลังซื้อสินค้าของทีมชาติต่างๆ ที่แฟนชอบและหลงรัก
แฟนกำลังเลือกเสื้อยี่ห้ออาดิดาสของทีมชาติฝรั่งเศส
ผลประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆ ที่แลกเปลี่ยนนั้น สมาคมฟุตบอลของแต่ละประเทศที่สามารถสร้างทีมชาติเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายจะได้รับไปแบบเต็มๆ เพื่อนำมาพัฒนาฟุตบอลและทีมชาติของตัวเองต่อไป

การเลือกเป็นผู้สนับสนุนในชุดกีฬาให้กับทีมชาติต่างๆ ของผลิตภัณฑ์กีฬาที่มีชื่อเสียงระดับโลกนั้น สามารถแสดงให้เห็นถึงกึ๋น ในการซื้ออนาคตของทีมชาติที่จะประสบความสำเร็จในศึกฟุตบอลโลก เพราะทีมใดเข้ารอบลึกๆ สินค้าโดยเฉพาะเสื้อทีมชาติและเสื้อเชียร์ก็สามารถขายได้อย่างถล่มทลาย
อิตาลีคู่ชิงชนะเลิศใส่เสื้อของพูม่า
สมาคมฟุตบอลที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ ‘อาดิดาส’ ในทีมชาติของตัวเองในฟุตบอลโลกคราวนี้มีด้วยกัน 6 ชาติคือ เยอรมนี เจ้าภาพ และเป็นถิ่นกำเนิดของแบรนด์ อาดิดาส, ฝรั่งเศส, สเปน, อาร์เจนติน่า, ตรินิแดด และ โตเบโก, ญี่ปุ่น

‘ไนกี้’ 8 ชาติคือ บราซิล, ฮอลแลนด์, เม็กซิโก, โปรตุเกส, สหรัฐอเมริกา, โครเอเชีย, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้

‘พูม่า’ 12 ชาติคือ อิตาลี, โปแลนด์, ปารากวัย, ไอวอรี่ โคสต์, อิหร่าน, แองโกลา, กานา, สาธารณรัฐเช็ก, สวิตเซอร์แลนด์, โตโก, ตูนิเซีย, ซาอุดิอาระเบีย

‘อัมโบร’ 2 ชาติคือ อังกฤษ, สวีเดน

‘ล็อตโต้’ 2 ชาติคือ ยูเครน, เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร

‘มาราธอน’ 1 ชาติคือ เอกวาดอร์

‘โจม่า’ 1 ชาติคือ คอสตาริกา

ดูจากแบรนด์สินค้ากีฬาส่วนร่วมสังฆกรรมก็จะเห็นว่า อาดิดาส ยังเน้นในด้านคุณภาพของทีมชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีเกียรติประวัติ และคุณภาพฝีเท้าที่เชื่อถือได้ว่าจะเข้าสู่รอบลึกๆ หรือแม้กระทั่งขึ้นสู่แท่นของแชมป์โลก ซึ่งแน่นอนอัตราการเสนอผลประโยชน์ย่อมสูงเป็นเงาตามตัว

ไนกี้คู่แข่งที่เป็นยักษ์ใหญ่จากอเมริกา ซึ่งเข้ามาทำการตลาดในกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจังเมื่อปี 1994 ซึ่งฟุตบอลโลกจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นมาหายใจรดต้นคอของอาดิดาสเรียบร้อยแล้ว แม้ชื่อชั้นของทีมชาติที่เข้าไปสนับสนุนโดยรวมจะเป็นรอง แต่ก็มีทีเด็ดที่ บราซิล ซึ่งเป็นทีมอันดับหนึ่งของฟีฟ่าแรงกิ้ง และขวัญใจแฟนบอลทั่วโลก

ส่วนพูม่า แบรนด์ดังจากเยอรมันซึ่งมาแรงในยุคปัจจุบัน คราวนี้สนับสนุนทีมชาติในฟุตบอลโลกมากที่สุด ดำเนินการตลาดแบบเน้นปริมาณมากกว่าจะหนักไปทางทีมดัง

ส่วนอัมโบร แบรนด์อนุรักษ์นิยมของอังกฤษ ก็ยังมัดใจทีมชาติอังกฤษไว้ได้ คราวนี้ได้สวีเดนเพิ่มมาอีกทีม ที่น่าสนใจมีแบรนด์ท้องถิ่นที่หลุดรอดเข้าไปอวดสายตาชาวโลกได้ 2 ยี่ห้อคือ มาราธอน และโฆม่า ซึ่งถือว่า เป็นความยิ่งใหญ่ที่ฝ่าฟันมาได้ ในลักษณะท้องถิ่นนิยม

เมื่อมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลกครั้งนี้ ก็เห็นได้ชัดว่า อาดิดาส ยังยืนหยัดเป็นแชมป์ได้เหมือนเดิม เพราะมีทีมเข้าสู่รอบนี้ถึง 2 ทีมคือ เยอรมนี และฝรั่งเศส แสดงให้เห็นว่าความถี่ของทีมชาติที่ใส่เสื้อยี่ห้อนี้ลงโม่แข้งจะอยู่ในสายตาชาวโลกมากนาทีที่สุด

ซึ่งส่งผลถึงเมืองไทยโดยตรงเช่นกัน เพราะเมื่อดูรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ของไทยที่เปิดเผยว่า ปกติเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากไทยส่งออกไปเยอรมนีคิดเป็นมูลค่าตกละปีประมาณ 109.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4153.4 ล้านบาท โดยที่ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดเสื้อผ้าในเยอรมนี 1.06 เปอร์เซนต์ และในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีที่จบลงไปจะมีการส่งออกเสื้อผ้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15 เปอร์เซนต์

เสื้อฟุตบอลและเสื้อผ้ากีฬาของทีมชาติต่างๆ โดยเฉพาะยี่ห้ออาดิดาส (Adidas) ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี มีฐานการผลิตจากประเทศไทยทั้งหมด โดยมีราคาตกประมาณตัวละ 64.95 ยูโร หรือ 3,150 บาทและลูกฟุตบอลอาดิดาส รุ่นทีมไกรส์ตที่ผลิตในเมืองไทยเช่นกัน มีราคาลูกละ 110 ยูโร หรือ 5,350 บาทนั้น สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างเป็นกอบเป็นกำเช่นกัน

การขับเคี่ยวของแบรนด์กีฬาต่างๆ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เมื่ออาดิดาสเป็นผู้ชนะ ไทยก็เป็นผู้ชนะไปกลายๆ โดยปริยายเช่นกันในด้านการตลาดที่เอื้อหนุนให้ผลิตสินค้าให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งขันล้วนมีฐานการผลิตอยู่ในจีน, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ตุรกี, ฮังการี, โปรตุเกส และโมร็อกโก ซึ่งเป็นคู่แข่งของอุตสาหกรรมเสื้อผ้ากีฬาโดยตรง

แน่นอนใช้ตรรกะง่ายๆ ก็บอกได้ว่า ไทยเป็นเจ้าแห่งเสื้อผ้ากีฬา และลูกฟุตบอลในฟุตบอลโลกครั้งนี้ แม้ไม่มีทีมชาติไทยลงแข่งขันก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น