xs
xsm
sm
md
lg

‘ดาวร่วงราโรย’ แห่งบอลโลก2006

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชีวิตย่อมมีขึ้นก็ต้องมีลง มีสูงสุดก็กลับคืนสู่สามัญหรือตกต่ำสุดกู่ไปเลย ซึ่งเป็นสัจธรรม ในวงการฟุตบอลก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครยืนหยัดอยู่ในจุดที่ท็อปฟอร์มได้ตลอดเวลา ด้วยวันวัยและเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีก็เป็นอีกครั้งที่มีการชุมนุมของบรรดานักเตะที่เคยเป็นซูเปอร์สตาร์ต้องมาขุดหลุมศพฝังตัวเองในทัวร์นาเมนท์นี้อย่างช่วยไม่ได้ เป็นความขมขื่นที่มิอาจต้านทานได้ แม้จะปฏิเสธหรือไม่ยอมรับมันก็ตาม แต่จากฟอร์มการเล่น ภาพรวมของทีม และผลการแข่งขันที่บ่งบอก สามารถเป็นคำตอบได้ทุกอย่าง

โดยเฉพาะแฟนบอลที่มาส่งกำลังใจให้กับทีมชาติของตัวเอง เกจินักวิจารณ์ริมขอบสนามและหน้าจอทีวีผ่านการถ่ายทอดสด ย่อมเห็นชะตากรรมของบรรดานักเตะ ‘ดาวร่วง’ เหล่านี้อย่างเต็มตา เป็นสัญญาณที่ชี้ชัดว่า ถึงเวลาการนับถอยหลังเพื่ออำลาจากผืนสนามหญ้าที่พวกเขาหลงรัก และเกมฟุตบอลที่เคยสร้างชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง จนนักเตะหลายๆ คนเป็นวีรบุรุษของชาติ และตำนานของประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

ความร่วงโรยที่แสนเศร้าเกิดด้วยปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่า เรื่องของสังขารที่มาเป็นอันดับแรก อายุที่สูงวัยขึ้นหรืออาการบาดเจ็บกะทันหันและเรื้อรังรบกวน, การไร้ความทะเยอทะยานหลังจากที่กวาดความสำเร็จมาเพียบพร้อม, เพื่อนร่วมทีมมีคุณภาพที่ไม่สามารถช่วยให้ระบบของทีมดีขึ้น, โค้ชหรือผู้จัดการทีมที่เป็นกุนซือวางแผนไม่ทะลุ, กองเชียร์, สภาพแวดล้อมต่างๆ และอีกจิปาถะที่จะทำให้นักเตะฝีเท้าดีเป็นที่จับตามองเป็นความคาดหวังของแฟนบอลในชาติและคอบอลทั่วโลก ต้องเสียสมาธิแกว่งจนฟอร์มตกหลุดออกจากวงโคจรของเกมแห่งฟุตบอลโลกอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่หลายคนกะจะมาทิ้งทวนเพื่อสร้างตำนานเป็นการส่งท้ายกับฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายในชีวิตของตัวเอง

มาสำรวจดูนักเตะ ‘ดาวร่วง’ ซึ่งเอาชื่อเสียงที่สร้างสมหอมหวนมาทิ้งไว้ที่เยอรมนี

เริ่มกันที่ทีมเจ้าภาพ โอลิเวอร์ คาห์น นายทวารจอมยโสที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2002 มาอย่างสง่าผ่าเผย คราวนี้ชะตากรรมของเขาต้องหลุดไปเป็นมือ 2 รองจากเยนส์ เลห์มันน์ เรียกว่าติดสนับก้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก ที่ยังอยู่ก็เพื่อสปิริตของทีม หมดฟุตบอลโลกก็คงอำลาทีมชาติอย่างถาวร

ไมเคิล โอเว่น ศูนย์หน้าตัวเป้าอันดับ 1 ของอังกฤษที่โชว์ฟอร์ยอดเยี่ยมทั้งฟุตบอลโลก 1998 และ 2002 กลับดวงแตกในคราวนี้ หลังจากฟื้นอาการบาดเจ็บได้ไม่นาน ลงสนามฟุตบอลโลกครั้งนี้ในรอบแรกนัดที่ 3 เพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกส่งตัวกลับบ้าน

คาร์ลอส กามาร์ร่า กัปตันทีมชาติปารากวัย อายุมากปูนนี้แล้ว ฟอร์มแข็งแกร่งมาตลอด แต่พลาดโหม่งทำเข้าประตูตัวเอง รวมทั้งศูนย์หน้าคู่จากปรากวัย โรเก้ ซานตา ครูซ กับเนลสัน อาเอโอ้ วัลเดซ ที่เล่นในบุนเดสลีกาในเยอรมัน คุ้นเคยกลับบรรยากาศเป็นอย่างดี กลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง

เฮนริค ลาร์สสัน ศูนย์หน้าจอมเก๋าของสวีเดน ที่เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตค้าแข้ง จบไม่สวยด้วยการพลาดลูกโทษอย่างน่าเขกกะโหลก ส่วนซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้าดาวรุ่ง คาดหมายว่าจะก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์ เพราะเล่นได้เฉียบคมเหลือเกินกับยูเวนตุส แต่กลับทื่อไปเฉยๆ

เดยัน สแตนโกวิช, ซาโว มิโลเซวิช และมาเตย่า เคซมัน ของเซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร ไม่มีคำอธิบาย เพราะการตกรอบแรกโดยไม่มีแต้มกลับบ้าน เป็นเรื่องน่าอายของทีมจากยุโรป

รุด ฟาน นิสเตลรอย ฮอลแลนด์ เจอเรื่องหนักหนาจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนคล้ายถูกเฉดหัวออก เมื่อมาถึงการเล่นทีมชาติหวังว่าจะแก้ตัว ดันทำไม่ได้และออกทะเลจนถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง ถือว่าไม่ใช่ดาวร่วงแต่เป็นดาวดับสนิท

ราอูล กอนซาเลส แม้จะดูเป็นศูนย์รวมใจของนักเตะยังเติร์กที่ก้าวขึ้นมาเป็นเลือดใหม่ของทีมชาติสเปน แต่จนแล้วจนรอดความเก๋าของเขา รวมถึงสังขารที่ไม่สดดังเก่า จากดาวรุ่งพุ่งแรงของสเปนกลายเป็นเสือเฒ่าที่หมดเขี้ยวเล็บแล้วในคราวนี้

มาถึงบรรดารวมมิตรดาวร่วงที่ทำอย่างไรก็กู่ไม่กลับ และหมดสภาพที่จะยืนอยู่บนเวทีระดับโลกอีกแล้ว ไม่ว่า อเลสซานโร เดล ปิเอโร่ อิตาลี, คาเรล โพบอร์สกี้ สาธารณรัฐเช็ก, ฮิเดโตชิ นากาตะ ญี่ปุ่น, อาลี ดาอี อิหร่าน พวกเขาปิดประตูตัวเองหมดเวลาไปเรียบร้อยแล้วในทีมชาติ

ทุกครั้งในการแข่งขันฟุตบอลโลก วงวัฏเดิมๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ คลื่นลูกเก่าลาหายจากไปกระทบฝั่ง คลื่นลูกใหม่ทยอยมาเป็นระลอก บ่งบอกว่า ไม่ว่าเก่งแค่ไหนก็ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
กำลังโหลดความคิดเห็น