‘เหยินอ้วน” โรนัลโด้ กระทุ้งเบิกร่องช่วยให้ “แซมบ้า” บราซิล บดเอาชนะกานา 3-0 ทำให้เขายิงประตูในฟุตบอลโลกไปแล้วทั้งสิ้น 15 ประตูแซงหน้า เกิร์ด มุลเลอร์ ขึ้นเป็นดาวยิงตลอดกาลและก็พาทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
บราซิล 3-0 กานา
คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า กลับมาใช้ขุนพล 11 ตัวจริงทีมชาติบราซิล เหมือนกับในสองนัดแรกของรอบแรก โดยเกมรับ มาร์กอส คาฟู , ลูซิโอ และโรแบร์โต้ คาร์ลอส กลับมาปักหลัก ส่วนแดนกลาง เอเมอร์สัน ปาร์ไรร่า ดูแลเกมรับ ส่วนตัวทำเกมรุกปล่อยเป็นหน้าที่ของ ริคาร์โด้ กาก้า และโรนัลดินโญ่ เพื่อปั้นแต่งโอกาสให้ โรนัลโด้ และอาเดรียโน่ ลุ้นทำประตู
ด้าน ราโดเมียร์ ดุจโควิช ประสบปัญหาในการจัดทีมกานา ลงปะทะแข้งแชมป์เก่า เมื่อมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง มิคาเอล เอสเซียง ดันมาติดโทษแบนแต่ทีมก็ได้ ซุลลี่ย์ มุนตารี่ หวนลงสนามเนื่องจากพ้นโทษแบนมา ในแดนหน้า กียาน อซาโมอาห์ และแม็ทธิว อโมอาห์ ยังเป็นตัวทีเด็ดของทีมจากแอฟริกา
เริ่มเกมการแข่งขันไปได้แค่ 5 นาที กองเชียร์แซมบ้าได้เฮกันลั่นสนามในเมืองดอร์ทมุนด์ เมื่อ ริคาร์โด้ กาก้า แทงบอลทะลุอย่างสุดสวยให้ โรนัลโด้ หลุดเดี่ยวเข้าไปดึงหลอก ริชาร์ด คิงสัน หนึ่งจังหวะก่อนแตะด้วยขวาส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้บราซิล ขึ้นนำ 1-0 และที่สำคัญ โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ยิงประตูสูงสุดในศึกฟุตบอลโลกโดยทำไปแล้วทั้งสิ้น 15 ประตู แซงเจ้าของสถิติเก่าอย่าง “ไอ้ลูกระเบิด” เกิร์ด มุลเลอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมนีที่เคยทำไว้ 14 ประตู
อีกเจ็ดนาทีถัดมา การเช็คล้ำหน้าของกานาผิดพลาดอีกครั้ง เซ โรแบร์โต้ แทงทะลุให้ อาเดรียโน่ หลุดขึ้นไปพร้อมๆ กับโรนัลโด้ แต่เขาเลือกจะล็อกเพื่อยิงเองแต่ก็โดน คิงสัน สกัดไว้ได้และอาเดรียโน่ ก็พุ่งล้มจนรับใบเหลืองจาก ลูบอส มิเชล ผู้ตัดสินจากสาธารณรัฐเช็กไปด้วย นาทีที่ 19 กานา พยายามฮึดสู้ ฮามินู ดรามานี่ ได้ลองสับไกจากนอกกรอบแต่ เนลสัน ดิด้า ปัดพ้นคานไปได้
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรกกลายเป็น กานา ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า การต่อบอลดีทีเดียว แม็ทธิว อโมอาห์ ได้ยิงเร็วแต่บอลหลุดเสาออกไป และอโมอาห์ ก็ได้อีกหนึ่งโอกาสเข้านี้ยิงเรียดในเขตโทษแต่ ดิด้า ยังก้มรับเอาไว้ได้ นาทีที่ 30 บราซิล เกือบได้ประตูนำห่างเช่นกันเมื่อ โรนัลดินโญ่ ลักไก่ยิงแต่ คิงสัน ปัดได้ที่เสาแรกอย่างหวุดหวิด
ห้านาทีถัดมา ฮวน สกัดบอลไม่ขาดทำให้ เอริค อั๊ดโด้ ผ่านบอลเร็วเข้ากรอบ 6 หลาให้ กียาน อซาโมอาห์ จิ้มหัวเกือกยิงเร็วแต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 42 บราซิล รอดการเสียประตูไปอย่างเหลือเชื่อเมื่อ จอห์น เมนซาห์ ได้ขึ้นโขกลูกเตะมุมแบบเหน่งๆ แต่บอลดันพุ่งลงพื้นไปติดเท้า ดิด้า ออกมา แต่เมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ กานา ก็มาโดน บราซิล ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ ลูซิโอ เติมเกมขึ้นมาก่อนแทงบอลให้ กาก้า แตะต่อให้ มาร์กอส คาฟู เปิดเร็วให้ อาเดรียโน่ หลุดเข้าไปจิ้มบอลง่ายๆ ตุงตาข่าย และก็จบ 45 นาทีแรก
เปิดฉากครึ่งหลัง ราโดเมียร์ ดุจโควิช กุนซือชาวเซิร์บของกานาต้องขึ้นไปดูเกมบนอัฒจันทร์ เนื่องจากก่อนเข้าอุโมงค์ในช่วงพักครึ่งกุนซือรายนี้ไปต่อว่าต่อขานทีมงานผู้ตัดสินที่ให้ประตูที่สองแก่บราซิล เพราะเขามองว่าประตูดังกล่าว อาเดรียโน่ น่าจะอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้โดน ลูบอส มิเชล ให้ใบแดง แต่นักเตะกานา ไม่สนใจลงมาเดินเกมบุกกันต่อเนื่องจากตามหลังไปแล้วถึงสองประตู
มาในครึ่งหลังเกมค่อนข้างเปิด กานา พยายามดันเกมทำให้ บราซิล มีช่องที่จะสวนกลับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ได้จังหวะเติมขึ้นมายิงจากการจ่ายเข้าทำของ โรนัลดินโญ่ แต่ลูกจิ้มด้วยซ้ายของแบ็กจอมบุกไปตรงตัว คิงตัน ผ่านหนึ่งชั่วโมงทั้งสองทีมแก้เกมโดย บราซิล ส่งเอา จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ ลงมาเล่นแทน อาเดรียโน่ ด้านกานาให้ ดีเร็ค บัวเต็ง ลงมาทำหน้าที่แทน อั๊ดโด้
นาทีที่ 69 การทำเกมของ สเตฟาน อัปเปียห์ เกือบได้ผลเมื่อกองกลางจากสโมสรเฟเนร์บาห์เช่ ในตุรกี จิ้มบอลทะลุให้ อซาโมอาห์ หลุดเข้าไปดีดด้วยขวากะให้เสียบเสาสองแต่ ดิด้า ก็พุ่งไปป้องกันไว้ได้ เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย กานา พยายามเร่งเกม อซาโมอาห์ มีโอกาสมากที่สุดของทีมแต่ลูกยิงของเขาไม่ผ่านมือนายทวารบราซิเลียนสักครั้งเดียว
แต่ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย อซาโมอาห์ กลายเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดของเกมเมื่อพยายามพุ่งล้มในเขตโทษทำให้เชิ้ตดำจากสาธารณรัฐเช็ก ตัดสินใจชักใบเหลือง-แดงไล่ศูนย์หน้ากานาออกจากสนาม และมาถึงนาทีที่ 84 บราซิล ก็มาได้ประตูฝังชัย 3-0 เมื่อ เซ โรแบร์โต้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแตะผ่าน คิงสัน เข้าไปยิงนิ่มๆ หมดเวลาการแข่งขัน บราซิล ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะรอพบกับผู้ชนะระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน หรือ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ซึ่งจะแข่งขันกันในเวลา 02.00 น.
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บราซิล : เนลสัน ดิด้า , มาร์กอส คาฟู , ลูซิโอ , ฮวน , โรแบร์โต้ คาร์ลอส , เอเมอร์สัน ปาร์ไรร่า , เซ โรแบร์โต้ , ริคาร์โด้ กาก้า , โรนัลดินโญ่ , โรนัลโด้ , อาเดรียโน่
กานา : ริชาร์ด คิงสัน , จอห์น เพนสติล , เอ็มมานูเอล ปัปโป้ , จอห์น เมนซาห์ , อิลเลียซู ชิลล่า , เอริค อั๊ดโด้ , สเตฟาน อัปเปียห์ , ซุลลี่ย์ มุนตารี่ , ฮามินู ดรามานี่ , กียาน อซาโมอาห์ , แม็ทธิว อโมอาห์
**คลิก! เพื่อชมวิดีโอคลิป ผลการแข่งขัน คู่ บราซิล-กานา และ ฝรั่งเศส-สเปน
(56k) | (256K)
ศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
บราซิล 3-0 กานา
คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า กลับมาใช้ขุนพล 11 ตัวจริงทีมชาติบราซิล เหมือนกับในสองนัดแรกของรอบแรก โดยเกมรับ มาร์กอส คาฟู , ลูซิโอ และโรแบร์โต้ คาร์ลอส กลับมาปักหลัก ส่วนแดนกลาง เอเมอร์สัน ปาร์ไรร่า ดูแลเกมรับ ส่วนตัวทำเกมรุกปล่อยเป็นหน้าที่ของ ริคาร์โด้ กาก้า และโรนัลดินโญ่ เพื่อปั้นแต่งโอกาสให้ โรนัลโด้ และอาเดรียโน่ ลุ้นทำประตู
ด้าน ราโดเมียร์ ดุจโควิช ประสบปัญหาในการจัดทีมกานา ลงปะทะแข้งแชมป์เก่า เมื่อมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง มิคาเอล เอสเซียง ดันมาติดโทษแบนแต่ทีมก็ได้ ซุลลี่ย์ มุนตารี่ หวนลงสนามเนื่องจากพ้นโทษแบนมา ในแดนหน้า กียาน อซาโมอาห์ และแม็ทธิว อโมอาห์ ยังเป็นตัวทีเด็ดของทีมจากแอฟริกา
เริ่มเกมการแข่งขันไปได้แค่ 5 นาที กองเชียร์แซมบ้าได้เฮกันลั่นสนามในเมืองดอร์ทมุนด์ เมื่อ ริคาร์โด้ กาก้า แทงบอลทะลุอย่างสุดสวยให้ โรนัลโด้ หลุดเดี่ยวเข้าไปดึงหลอก ริชาร์ด คิงสัน หนึ่งจังหวะก่อนแตะด้วยขวาส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้บราซิล ขึ้นนำ 1-0 และที่สำคัญ โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ยิงประตูสูงสุดในศึกฟุตบอลโลกโดยทำไปแล้วทั้งสิ้น 15 ประตู แซงเจ้าของสถิติเก่าอย่าง “ไอ้ลูกระเบิด” เกิร์ด มุลเลอร์ ดาวยิงทีมชาติเยอรมนีที่เคยทำไว้ 14 ประตู
อีกเจ็ดนาทีถัดมา การเช็คล้ำหน้าของกานาผิดพลาดอีกครั้ง เซ โรแบร์โต้ แทงทะลุให้ อาเดรียโน่ หลุดขึ้นไปพร้อมๆ กับโรนัลโด้ แต่เขาเลือกจะล็อกเพื่อยิงเองแต่ก็โดน คิงสัน สกัดไว้ได้และอาเดรียโน่ ก็พุ่งล้มจนรับใบเหลืองจาก ลูบอส มิเชล ผู้ตัดสินจากสาธารณรัฐเช็กไปด้วย นาทีที่ 19 กานา พยายามฮึดสู้ ฮามินู ดรามานี่ ได้ลองสับไกจากนอกกรอบแต่ เนลสัน ดิด้า ปัดพ้นคานไปได้
ผ่านครึ่งทางครึ่งแรกกลายเป็น กานา ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า การต่อบอลดีทีเดียว แม็ทธิว อโมอาห์ ได้ยิงเร็วแต่บอลหลุดเสาออกไป และอโมอาห์ ก็ได้อีกหนึ่งโอกาสเข้านี้ยิงเรียดในเขตโทษแต่ ดิด้า ยังก้มรับเอาไว้ได้ นาทีที่ 30 บราซิล เกือบได้ประตูนำห่างเช่นกันเมื่อ โรนัลดินโญ่ ลักไก่ยิงแต่ คิงสัน ปัดได้ที่เสาแรกอย่างหวุดหวิด
ห้านาทีถัดมา ฮวน สกัดบอลไม่ขาดทำให้ เอริค อั๊ดโด้ ผ่านบอลเร็วเข้ากรอบ 6 หลาให้ กียาน อซาโมอาห์ จิ้มหัวเกือกยิงเร็วแต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 42 บราซิล รอดการเสียประตูไปอย่างเหลือเชื่อเมื่อ จอห์น เมนซาห์ ได้ขึ้นโขกลูกเตะมุมแบบเหน่งๆ แต่บอลดันพุ่งลงพื้นไปติดเท้า ดิด้า ออกมา แต่เมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ กานา ก็มาโดน บราซิล ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ ลูซิโอ เติมเกมขึ้นมาก่อนแทงบอลให้ กาก้า แตะต่อให้ มาร์กอส คาฟู เปิดเร็วให้ อาเดรียโน่ หลุดเข้าไปจิ้มบอลง่ายๆ ตุงตาข่าย และก็จบ 45 นาทีแรก
เปิดฉากครึ่งหลัง ราโดเมียร์ ดุจโควิช กุนซือชาวเซิร์บของกานาต้องขึ้นไปดูเกมบนอัฒจันทร์ เนื่องจากก่อนเข้าอุโมงค์ในช่วงพักครึ่งกุนซือรายนี้ไปต่อว่าต่อขานทีมงานผู้ตัดสินที่ให้ประตูที่สองแก่บราซิล เพราะเขามองว่าประตูดังกล่าว อาเดรียโน่ น่าจะอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้โดน ลูบอส มิเชล ให้ใบแดง แต่นักเตะกานา ไม่สนใจลงมาเดินเกมบุกกันต่อเนื่องจากตามหลังไปแล้วถึงสองประตู
มาในครึ่งหลังเกมค่อนข้างเปิด กานา พยายามดันเกมทำให้ บราซิล มีช่องที่จะสวนกลับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ได้จังหวะเติมขึ้นมายิงจากการจ่ายเข้าทำของ โรนัลดินโญ่ แต่ลูกจิ้มด้วยซ้ายของแบ็กจอมบุกไปตรงตัว คิงตัน ผ่านหนึ่งชั่วโมงทั้งสองทีมแก้เกมโดย บราซิล ส่งเอา จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ ลงมาเล่นแทน อาเดรียโน่ ด้านกานาให้ ดีเร็ค บัวเต็ง ลงมาทำหน้าที่แทน อั๊ดโด้
นาทีที่ 69 การทำเกมของ สเตฟาน อัปเปียห์ เกือบได้ผลเมื่อกองกลางจากสโมสรเฟเนร์บาห์เช่ ในตุรกี จิ้มบอลทะลุให้ อซาโมอาห์ หลุดเข้าไปดีดด้วยขวากะให้เสียบเสาสองแต่ ดิด้า ก็พุ่งไปป้องกันไว้ได้ เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย กานา พยายามเร่งเกม อซาโมอาห์ มีโอกาสมากที่สุดของทีมแต่ลูกยิงของเขาไม่ผ่านมือนายทวารบราซิเลียนสักครั้งเดียว
แต่ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย อซาโมอาห์ กลายเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดของเกมเมื่อพยายามพุ่งล้มในเขตโทษทำให้เชิ้ตดำจากสาธารณรัฐเช็ก ตัดสินใจชักใบเหลือง-แดงไล่ศูนย์หน้ากานาออกจากสนาม และมาถึงนาทีที่ 84 บราซิล ก็มาได้ประตูฝังชัย 3-0 เมื่อ เซ โรแบร์โต้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแตะผ่าน คิงสัน เข้าไปยิงนิ่มๆ หมดเวลาการแข่งขัน บราซิล ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะรอพบกับผู้ชนะระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน หรือ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ซึ่งจะแข่งขันกันในเวลา 02.00 น.
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
บราซิล : เนลสัน ดิด้า , มาร์กอส คาฟู , ลูซิโอ , ฮวน , โรแบร์โต้ คาร์ลอส , เอเมอร์สัน ปาร์ไรร่า , เซ โรแบร์โต้ , ริคาร์โด้ กาก้า , โรนัลดินโญ่ , โรนัลโด้ , อาเดรียโน่
กานา : ริชาร์ด คิงสัน , จอห์น เพนสติล , เอ็มมานูเอล ปัปโป้ , จอห์น เมนซาห์ , อิลเลียซู ชิลล่า , เอริค อั๊ดโด้ , สเตฟาน อัปเปียห์ , ซุลลี่ย์ มุนตารี่ , ฮามินู ดรามานี่ , กียาน อซาโมอาห์ , แม็ทธิว อโมอาห์
**คลิก! เพื่อชมวิดีโอคลิป ผลการแข่งขัน คู่ บราซิล-กานา และ ฝรั่งเศส-สเปน
(56k) | (256K)
