เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับประตูที่รอคอย ในฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งมามากกว่าที่หวังไว้ โดยสามารถโหม่งและยิงถึง 2 ประตูในนัดเดียวกันของโรนัลโด้ ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล กับการลงสนามปิดท้ายรอบแรกกับทีมชาติญี่ปุ่น ตัวแทนจากทวีปเอเชีย ที่มีซิโก้ อดีตนักเตะระดับตำนานของเซเลเซากุมบังเหียนอยู่
ด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้น 4-1 ประตู โรนัลโด้ยังแสดงให้เห็นความเฉียบคมในการยิงประตูอยู่จากลูกที่ยิงประตูญี่ปุ่นตรงสกอร์ที่ 4 เขาเลือกมุมในการส่งบอลเข้าตาข่ายด้วยสัญชาตญาณของดาวยิงอย่างแท้จริง
ถือว่าเป็นการปลุกเร้าวิญญาณเพชฌฆาตที่อยู่ในตัวให้ออกมาล่าประตูอีกครั้งหนึ่ง
การลงเล่นเป็นตัวจริงในฐานะ 11 คนแรกของบราซิลทุกนัดในเกมการแข่งขันรอบแรกที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนว่า โรนัลโด้มีน้ำหนักตัวและหุ่นที่ดูเกินมาตรฐานจากในอดีตอยู่อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงฟอร์มการเล่นและสอยตาข่ายก็ไม่แพรวพราวเฉกเช่นเดิม ออกอาการหลุดให้เห็นกันบ่อยๆ อาศัยชื่อชั้นและบุญบารมีที่เคยสร้างทำมาในอดีตค้ำคอให้พอเอาตัวรอดอยู่ส่วนหนึ่ง
อย่างที่รู้กันว่า แรงสนับสนุนในตัวโรนัลโด้นั้นมาจากสมาคมฟุตบอลบราซิล จากกุนซือคาร์ลอล อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า และจากเพื่อนร่วมทีมอย่างเข้มแข็ง แม้แต่ประธานาธิบดีบราซิล หลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ต้องออกมาแก้ต่างและขอโทษโรนัลโด้ หลังจากที่หลุดปากกึ่งแซวกึ่งวิจารณ์ในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเปิดฉากขึ้นว่า “โล้นทองคำ”อ้วนเกินไปน่าจะลดน้ำหนักลงมา

ซึ่งแสดงให้เห็นอิทธิพลของโรนัลโด้ในประเทศบราซิลอยู่เช่นกันว่า เขาเหมือนไข่ในหินของคนบราซิลที่แตะต้องเกือบไม่ได้
ในความเป็นจริง มีข่าวเล็ดรอดจากวงในว่า โรนัลโด้มีน้ำหนักที่เกินมาตรฐานปกติอยู่มากถึง 5 กิโลกรัม ด้วยน้ำหนัก 95 กิโลกรัม จากความสูง 183 เซนติเมตร ซึ่งไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุด โมราชี่ ซานตานนา เทรนเนอร์ด้านสมรรถภาพทางร่างกายของทีมชาติบราซิลได้ออกมายืนยันว่า โรนัลโด้มีน้ำหนักตัว 90.5 กิโลกรัม ซึ่งเกินจากมาตรฐานที่สัมพันธ์กับส่วนสูงเพียง 500 กรัม
น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับแฟนบอลบราซิล เพราะเท่ากับเป็นสัญญาณที่ดีซึ่งแสดงออกมาให้เห็นว่า โรนัลโด้พยายามที่จะดึงตัวเองกลับมาสู่ฟอร์มสุดยอดในการเป็นดาวยิงอีกครั้ง และ 2 ประตูในนัดเจอกับญี่ปุ่นน่าจะเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
ฟุตบอลโลกคราวนี้ ในบรรดานักเตะบราซิลทั้ง 23 คน รวมถึงเทรนเนอร์กับทีมงานรวมเกือบครึ่งร้อยนั้น พวกเขามาทำงานเพื่อป้องกันแชมป์โลก แต่โรนัลโด้มีพันธสัญญาผูกพันพิเศษกับความสำเร็จส่วนตัวในการที่จะทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลกที่ เกิร์ด มุลเลอร์ ดาวยิงดินระเบิดหุ่นมะขามข้อเดียวจากทีมชาติเยอรมนีตะวันตกเคยทำเอาไว้ถึง 14 ประตู
ถึงตอนนี้โรนัลโด้ก็ทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว เมื่อชื่อของเขาถูกบันทึกไว้ในฐานะศูนย์หน้าดาวซัลโวที่สามารถทำสถิติการยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเท่ากับเกิร์ด มุลเลอร์ไปเรียบร้อยแล้ว จากนัดที่เจอกับญี่ปุ่น
ซึ่งการทำลายสถิติก็เป็นฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเท่าใดนัก แต่เมื่อมามองอีกมุม ก็น่าจะยากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา
เพราะถ้าโรนัลโด้มีร่างกายที่ฟิตและน้ำหนักเหมือนเมื่อฟุตบอลโลกปี 2002 เกมทั้ง 3 นัดในรอบแรก ด้วยมาตรฐานดังกล่าว ไม่ว่าจะเจอกับโครเอเชียที่เล่นได้เหนียวแน่นแต่ก็ยังมีช่องโหว่อยู่ หรือเจอกับออสเตรเลียที่ไม่ค่อยสนใจผลเพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้ รวมถึงนัดสุดท้ายกับญี่ปุ่นที่มีลุ้นแค่กระผีกริ้นในการเข้ารอบด้วยปาฏิหาริย์ เขาน่ายิงได้ไม่ต่ำกว่า 5 ลูกด้วยซ้ำไปจากทุกนัดรวมกัน หากวัดจากขุมกำลังและมาตรฐานของทีมคู่ต่อสู้ซึ่งไม่สามารถเทียบชั้นนักเตะในทีมบราซิลได้เลย
การทำประตูที่ 15 จึงเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากว่า เขาจะทำได้หรือไม่ แม้ในรอบที่ 2 ดูเหมือนจะเจองานที่ไม่หนักนัก พบกับกานาซึ่งเป็นทีมแอฟริกาทีมเดียวที่หลุดเข้ามา แต่ฟอร์มก็ดีและเหนียวแน่นขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งรอบลึกๆ ต่อไปก็จะเจอทีมที่เขี้ยวและอยู่ในระดับมาตรฐานเดียวกันมากยิ่งขึ้น โรนัลโด้ด้วยสภาพปัจจุบันน่าจะแหวกกองหลังเข้าไปได้ยากมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า แม้จะพยายามรีดน้ำหนักและความฟิตกลับเกือบปกติแล้วก็ตาม
ในทีมฟุตบอลบราซิลชุดนี้ไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่โรนัลโด้อีกแล้ว แต่ “โล้นทองคำ”ต้องฝากความหวังไว้ที่เพื่อนนักเตะในทีมที่จะมาช่วยให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของเวิลด์คัพ เพราะฟุตบอลโลกสมัยหน้า อีก 4 ปีที่แอฟริกาใต้ เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในทีมชาติบราซิลอีกแล้ว
ด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้น 4-1 ประตู โรนัลโด้ยังแสดงให้เห็นความเฉียบคมในการยิงประตูอยู่จากลูกที่ยิงประตูญี่ปุ่นตรงสกอร์ที่ 4 เขาเลือกมุมในการส่งบอลเข้าตาข่ายด้วยสัญชาตญาณของดาวยิงอย่างแท้จริง
ถือว่าเป็นการปลุกเร้าวิญญาณเพชฌฆาตที่อยู่ในตัวให้ออกมาล่าประตูอีกครั้งหนึ่ง
การลงเล่นเป็นตัวจริงในฐานะ 11 คนแรกของบราซิลทุกนัดในเกมการแข่งขันรอบแรกที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนว่า โรนัลโด้มีน้ำหนักตัวและหุ่นที่ดูเกินมาตรฐานจากในอดีตอยู่อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงฟอร์มการเล่นและสอยตาข่ายก็ไม่แพรวพราวเฉกเช่นเดิม ออกอาการหลุดให้เห็นกันบ่อยๆ อาศัยชื่อชั้นและบุญบารมีที่เคยสร้างทำมาในอดีตค้ำคอให้พอเอาตัวรอดอยู่ส่วนหนึ่ง
อย่างที่รู้กันว่า แรงสนับสนุนในตัวโรนัลโด้นั้นมาจากสมาคมฟุตบอลบราซิล จากกุนซือคาร์ลอล อัลแบร์โต้ ปาร์ไรร่า และจากเพื่อนร่วมทีมอย่างเข้มแข็ง แม้แต่ประธานาธิบดีบราซิล หลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ต้องออกมาแก้ต่างและขอโทษโรนัลโด้ หลังจากที่หลุดปากกึ่งแซวกึ่งวิจารณ์ในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเปิดฉากขึ้นว่า “โล้นทองคำ”อ้วนเกินไปน่าจะลดน้ำหนักลงมา
ซึ่งแสดงให้เห็นอิทธิพลของโรนัลโด้ในประเทศบราซิลอยู่เช่นกันว่า เขาเหมือนไข่ในหินของคนบราซิลที่แตะต้องเกือบไม่ได้
ในความเป็นจริง มีข่าวเล็ดรอดจากวงในว่า โรนัลโด้มีน้ำหนักที่เกินมาตรฐานปกติอยู่มากถึง 5 กิโลกรัม ด้วยน้ำหนัก 95 กิโลกรัม จากความสูง 183 เซนติเมตร ซึ่งไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ล่าสุด โมราชี่ ซานตานนา เทรนเนอร์ด้านสมรรถภาพทางร่างกายของทีมชาติบราซิลได้ออกมายืนยันว่า โรนัลโด้มีน้ำหนักตัว 90.5 กิโลกรัม ซึ่งเกินจากมาตรฐานที่สัมพันธ์กับส่วนสูงเพียง 500 กรัม
น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับแฟนบอลบราซิล เพราะเท่ากับเป็นสัญญาณที่ดีซึ่งแสดงออกมาให้เห็นว่า โรนัลโด้พยายามที่จะดึงตัวเองกลับมาสู่ฟอร์มสุดยอดในการเป็นดาวยิงอีกครั้ง และ 2 ประตูในนัดเจอกับญี่ปุ่นน่าจะเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
ฟุตบอลโลกคราวนี้ ในบรรดานักเตะบราซิลทั้ง 23 คน รวมถึงเทรนเนอร์กับทีมงานรวมเกือบครึ่งร้อยนั้น พวกเขามาทำงานเพื่อป้องกันแชมป์โลก แต่โรนัลโด้มีพันธสัญญาผูกพันพิเศษกับความสำเร็จส่วนตัวในการที่จะทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของฟุตบอลโลกที่ เกิร์ด มุลเลอร์ ดาวยิงดินระเบิดหุ่นมะขามข้อเดียวจากทีมชาติเยอรมนีตะวันตกเคยทำเอาไว้ถึง 14 ประตู
ถึงตอนนี้โรนัลโด้ก็ทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว เมื่อชื่อของเขาถูกบันทึกไว้ในฐานะศูนย์หน้าดาวซัลโวที่สามารถทำสถิติการยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเท่ากับเกิร์ด มุลเลอร์ไปเรียบร้อยแล้ว จากนัดที่เจอกับญี่ปุ่น
ซึ่งการทำลายสถิติก็เป็นฝันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเท่าใดนัก แต่เมื่อมามองอีกมุม ก็น่าจะยากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา
เพราะถ้าโรนัลโด้มีร่างกายที่ฟิตและน้ำหนักเหมือนเมื่อฟุตบอลโลกปี 2002 เกมทั้ง 3 นัดในรอบแรก ด้วยมาตรฐานดังกล่าว ไม่ว่าจะเจอกับโครเอเชียที่เล่นได้เหนียวแน่นแต่ก็ยังมีช่องโหว่อยู่ หรือเจอกับออสเตรเลียที่ไม่ค่อยสนใจผลเพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้ รวมถึงนัดสุดท้ายกับญี่ปุ่นที่มีลุ้นแค่กระผีกริ้นในการเข้ารอบด้วยปาฏิหาริย์ เขาน่ายิงได้ไม่ต่ำกว่า 5 ลูกด้วยซ้ำไปจากทุกนัดรวมกัน หากวัดจากขุมกำลังและมาตรฐานของทีมคู่ต่อสู้ซึ่งไม่สามารถเทียบชั้นนักเตะในทีมบราซิลได้เลย
การทำประตูที่ 15 จึงเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากว่า เขาจะทำได้หรือไม่ แม้ในรอบที่ 2 ดูเหมือนจะเจองานที่ไม่หนักนัก พบกับกานาซึ่งเป็นทีมแอฟริกาทีมเดียวที่หลุดเข้ามา แต่ฟอร์มก็ดีและเหนียวแน่นขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งรอบลึกๆ ต่อไปก็จะเจอทีมที่เขี้ยวและอยู่ในระดับมาตรฐานเดียวกันมากยิ่งขึ้น โรนัลโด้ด้วยสภาพปัจจุบันน่าจะแหวกกองหลังเข้าไปได้ยากมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่า แม้จะพยายามรีดน้ำหนักและความฟิตกลับเกือบปกติแล้วก็ตาม
ในทีมฟุตบอลบราซิลชุดนี้ไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่โรนัลโด้อีกแล้ว แต่ “โล้นทองคำ”ต้องฝากความหวังไว้ที่เพื่อนนักเตะในทีมที่จะมาช่วยให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของเวิลด์คัพ เพราะฟุตบอลโลกสมัยหน้า อีก 4 ปีที่แอฟริกาใต้ เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในทีมชาติบราซิลอีกแล้ว