“อัศวินสีส้ม” ฮอลแลนด์ เดินตามแข้ง “ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า เข้าสู่รอบสองของศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี หลังเฉือนเอาชนะ “ช้างดำ” ไอวอรี่โคสต์ ลงได้ 2-1 ในการแข่งขันรอบแรกกลุ่มซี
ฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก กลุ่มซี นัดที่ 2
ฮอลแลนด์ 2-1 ไอวอรี่โคสต์
มาร์โก แวน บาสเท่น ตัดสินใจจัด 11 ผู้เล่นตัวจริงให้กับ ฮอลแลนด์ ในนัดนี้เหมือนๆ กับเกมแรกที่เฉือนเอาชนะ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร 1-0 โดยเกมรับ อังเดร ออยเยอร์ ปักหลักคู่กับ โยริส มาไธจ์เซ่น แดนกลางมี มาร์ค ฟาน บอมเมล และฟิลิป โคคู คอยคุมเกม ส่วนสามประสานเกมรุกเป็นหน้าที่ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย และอาร์เยน ร็อบเบน
ด้าน อองรี มิเชล กุนซือชาวฝรั่งเศส มีการปรับทีมให้ไอวอรี่โคสต์ เล็กน้อยหลังจากเกมแรกพ่ายให้แก่ อาร์เจนติน่า 1-2 โดยเกมรับยังต้องพึ่งบริการของ โคโล ตูเร่ ส่วนแดนกลางหยอดเอา โรมาริด เอนดรี ลงมาเติม ในแดนหน้าความหวังสูงสุดของทีมได้แก่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ศูนย์หน้ากัปตันทีม ซึ่งนัดแรกก็ทำประตูมาได้
เปิดฉากเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามเข้าหากันแต่ผ่านไป ฮอลแลนด์ เริ่มเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและก็จะเน้นออกทางริมเส้นทั้งสองฝั่งไม่ว่าจะเป็น อาร์เยน ร็อบเบน ที่คอยขึ้นทางซ้าย หรือจะเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ที่คอยปั่นป่วนด้านขวา อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ยังไม่สามารถโยนบอลไปให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ลุ้นสกอร์
ผ่าน 15 นาทีแรก ไอวอรี่โคสต์ ซึ่งตั้งท่ารอดูเกมของฮอลแลนด์ อยู่พักหนึ่งและเริ่มจับทางป้องกันได้ จึงเริ่มทำเกมบุกและเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าบ้างและ อารูน่า โคเน่ แทงบอลออกขวาให้ ยาย่า ตูเร่ ได้ยิงแต่บอลเข้าแค่หน้าต่างเสาแรก แต่มาถึงนาทีที่ 23 ฮอลแลนด์ กลับมาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ 20 หลาและก็เป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายส่งบอลเข้าเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
อีกสี่นาทีถัดมาบรรดากองเชียร์อัศวินสีส้ม ในก็อตลีบ เดมเลอร์ ที่สตุ๊ดการ์ท ได้เฮกันลั่นอีกครั้งเมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน จ่ายบอลให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงบอลหนีมือ ฌอง-ฌักส์ ดิซิเย่ เข้าไปตุงตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 2-0 สำหรับ ฮอลแลนด์ พอโดนไปติดๆ กัน ไอวอรี่โคสต์ อยู่นิ่งไม่ได้ต้องทำเกมบุกขึ้นมาและก็เกือบจะตีไข่แตกแต่ลูกยิงไกลของ ดิดิเย่ร์ โซโกร่า พุ่งไปกระแทกคานเต็มๆ
อย่างไรก็ตาม มาถึงนาทีที่ 38 กองเชียร์ “ช้างดำ” ไอวอรี่โคสต์ มีเสียงเฮดังขึ้นมาบ้างเมื่อ บาการี่ โคเน่ มิดฟิลด์ร่างเล็กอาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากเลื้อยตัดจากซ้ายเข้ามายิงหักข้อด้วยขวาส่งบอลลอยผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปเสียบเสาแบบสุดสวย สกอร์ไล่มาเป็น 1-2 และก่อนจบเกมสามนาที ทีมจากกาฬทวีปได้ส้มหล่น ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตัดบอลได้กลางสนามก่อนเลี้ยงเดี่ยวขึ้นไปแต่จังหวะจะผ่านเข้ากลางให้เพื่อนดันโดน โจวานนี่ ฟาน บรองฮอร์ทส ตัดไว้ได้หวุดหวิด จบ 45 นาทีแรก ไม่มีฝ่ายใดทำเพิ่มกันได้ทำให้ ฮอลแลนด์ ยังได้เปรียบอยู่
เริ่มต้นครึ่งหลัง มาร์โก แวน บาสเท่น ขยับเปลี่ยนผู้เล่นให้ฮอลแลนด์ เริ่มจากส่ง คาลิด บูลาห์ลุซ ลงมาเล่นแทน จอห์นนี่ ไฮติงก้า ที่บาดเจ็บ และก็เติม ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มาช่วยทำเกมบุกแทน เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ที่ค่อนข้างเงียบตลอดเกมที่ผ่านมา และอัศวิสสีส้มก็ได้ลุ้นก่อนจากการที่ ร็อบเบน เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนไหลให้ ฟาน นิสเตลรอย ยิงทันทีด้วยขวาแต่ ดิซิเย่ พุ่งไปล้มตัวรับเอาไว้ได้
ด้าน ไอวอรี่โคสต์ ซึ่งต้องการประตูตีเสมอเพื่อความอยู่รอดต่อไปเริ่มเปิดเกมบุกบ้าง เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ เติมขึ้นมาทางขวาและก็ได้หลุดเข้าไปยิงแต่ ยอริส มาไธจ์เซ่น เข้ามาบล็อกได้ทัน แต่โอกาสยังเป็นของทีมจากแอฟริกา อารูน่า โคเน่ ทำชิ่งกับ ดร็อกบา ก่อนได้ยิงบริเวณหัวกะโหลกแต่ดันงัดบอลข้ามคานออกไป เวลางวดเข้าทุกขณะ อองรี มิเชล ขยับเปลี่ยนตัวบ้างด้วยการส่ง ซิลล์ส ยาปิ ยาโป และอารูน่า ดินดาน ลงมาเล่นแทน บาการี่ โคเน่ ผู้ทำประตูรวมถึง โรมาริด เอนดรี
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ฮอลแลนด์ ได้ส้มหล่นบ้างเมื่อ ดิซิเย่ เตะเปิดเกมไม่ดี ร็อบเบน เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนจ่ายให้ ฟาน นิสเตลรอย หมุนตัวยิงแต่ไปติดบล็อกแผงหลังไอวอรี่โคสต์ ที่วิ่งลงไปช่วยกันทัน ห้านาทีถัดมาทั้งสองฝ่ายทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ฮอลแลนด์ ถอด ฟาน นิสเตลรอย แล้วเติม แดนนี่ แลนซาร์ท ไปช่วยแดนกลาง ส่วนไอวอรี่โคสต์ส่งเอา ค็องกา อกาเล่ ไปเล่นแทน อารูน่า โคเน่
นาทีที่ 77 ไอวอรี่โคสต์ ได้ลุ้นเกือบได้ประตูตีเสมอจากที่ ดร็อกบา โหม่งลูกเตะมุมไปเสาสอง ฟาน เพอร์ซี่ย์ ที่คุมเส้นอยู่พักอกออกมาและก็เป็น ฟิลิป โคคู เคลียร์ทิ้งได้หวุดหวิด เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทีม “ช้างดำ” พยายามบุกอย่างหนัก ยาปิ ยาโป ได้ลองยิงกลางประตูแต่บอลก็พุ่งไปตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ อีกครั้ง ช่วงท้ายทีมจากแอฟริกาเนือยลงไปครบ 90 นาที ฮอลแลนด์ เบียดเอาชนะไปได้ 2-1 พร้อมกับเดินตาม อาร์เจนติน่า เข้าสู่รอบต่อไป ส่วน ไอวอรี่โคสต์ ควงคู่ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ร่วงตกรอบไปตามระเบียบเนื่องจากยังไม่มีคะแนนทั้งคู่
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , จอห์น ไฮติงก้า , อังเดร ออยเยอร์ , ยอริส มาไธจ์เซ่น , โจวานนี่ ฟาน บรองฮอร์ทส , เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ , มาร์ค ฟาน บอมเมล , ฟิลิป โคคู , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย , อาร์เยน ร็อบเบน
ไอวอรี่โคสต์ : ฌอง-ฌักส์ ดิซิเย่ , เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , โคโล ตูเร่ , อับดูเลเย่ เมอิเต้ , อาตูร์ โบก้า , ยาย่า ตูเร่ , ดิดิเย่ร์ โซโกร่า , โรมาริด เอนดรี , บาการี่ โคเน่ , อารูน่า โคเน่ , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
**คลิก! เพื่อชมวิดีโอคลิป ผลการแข่งขัน คู่ อาร์เจนตินา-เซอร์เบียและมอนเตเนโกร,ไอวอรี่โคสต์-เนเธอแลนด์, เม็กซิโก-แองโกลา (56k) | (256K)
ฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก กลุ่มซี นัดที่ 2
ฮอลแลนด์ 2-1 ไอวอรี่โคสต์
มาร์โก แวน บาสเท่น ตัดสินใจจัด 11 ผู้เล่นตัวจริงให้กับ ฮอลแลนด์ ในนัดนี้เหมือนๆ กับเกมแรกที่เฉือนเอาชนะ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร 1-0 โดยเกมรับ อังเดร ออยเยอร์ ปักหลักคู่กับ โยริส มาไธจ์เซ่น แดนกลางมี มาร์ค ฟาน บอมเมล และฟิลิป โคคู คอยคุมเกม ส่วนสามประสานเกมรุกเป็นหน้าที่ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย และอาร์เยน ร็อบเบน
ด้าน อองรี มิเชล กุนซือชาวฝรั่งเศส มีการปรับทีมให้ไอวอรี่โคสต์ เล็กน้อยหลังจากเกมแรกพ่ายให้แก่ อาร์เจนติน่า 1-2 โดยเกมรับยังต้องพึ่งบริการของ โคโล ตูเร่ ส่วนแดนกลางหยอดเอา โรมาริด เอนดรี ลงมาเติม ในแดนหน้าความหวังสูงสุดของทีมได้แก่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ศูนย์หน้ากัปตันทีม ซึ่งนัดแรกก็ทำประตูมาได้
เปิดฉากเกมการแข่งขันทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามเข้าหากันแต่ผ่านไป ฮอลแลนด์ เริ่มเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าและก็จะเน้นออกทางริมเส้นทั้งสองฝั่งไม่ว่าจะเป็น อาร์เยน ร็อบเบน ที่คอยขึ้นทางซ้าย หรือจะเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ที่คอยปั่นป่วนด้านขวา อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ยังไม่สามารถโยนบอลไปให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย ได้ลุ้นสกอร์
ผ่าน 15 นาทีแรก ไอวอรี่โคสต์ ซึ่งตั้งท่ารอดูเกมของฮอลแลนด์ อยู่พักหนึ่งและเริ่มจับทางป้องกันได้ จึงเริ่มทำเกมบุกและเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าบ้างและ อารูน่า โคเน่ แทงบอลออกขวาให้ ยาย่า ตูเร่ ได้ยิงแต่บอลเข้าแค่หน้าต่างเสาแรก แต่มาถึงนาทีที่ 23 ฮอลแลนด์ กลับมาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ 20 หลาและก็เป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ปั่นฟรีคิกด้วยซ้ายส่งบอลเข้าเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
อีกสี่นาทีถัดมาบรรดากองเชียร์อัศวินสีส้ม ในก็อตลีบ เดมเลอร์ ที่สตุ๊ดการ์ท ได้เฮกันลั่นอีกครั้งเมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน จ่ายบอลให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงบอลหนีมือ ฌอง-ฌักส์ ดิซิเย่ เข้าไปตุงตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 2-0 สำหรับ ฮอลแลนด์ พอโดนไปติดๆ กัน ไอวอรี่โคสต์ อยู่นิ่งไม่ได้ต้องทำเกมบุกขึ้นมาและก็เกือบจะตีไข่แตกแต่ลูกยิงไกลของ ดิดิเย่ร์ โซโกร่า พุ่งไปกระแทกคานเต็มๆ
อย่างไรก็ตาม มาถึงนาทีที่ 38 กองเชียร์ “ช้างดำ” ไอวอรี่โคสต์ มีเสียงเฮดังขึ้นมาบ้างเมื่อ บาการี่ โคเน่ มิดฟิลด์ร่างเล็กอาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากเลื้อยตัดจากซ้ายเข้ามายิงหักข้อด้วยขวาส่งบอลลอยผ่านมือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปเสียบเสาแบบสุดสวย สกอร์ไล่มาเป็น 1-2 และก่อนจบเกมสามนาที ทีมจากกาฬทวีปได้ส้มหล่น ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตัดบอลได้กลางสนามก่อนเลี้ยงเดี่ยวขึ้นไปแต่จังหวะจะผ่านเข้ากลางให้เพื่อนดันโดน โจวานนี่ ฟาน บรองฮอร์ทส ตัดไว้ได้หวุดหวิด จบ 45 นาทีแรก ไม่มีฝ่ายใดทำเพิ่มกันได้ทำให้ ฮอลแลนด์ ยังได้เปรียบอยู่
เริ่มต้นครึ่งหลัง มาร์โก แวน บาสเท่น ขยับเปลี่ยนผู้เล่นให้ฮอลแลนด์ เริ่มจากส่ง คาลิด บูลาห์ลุซ ลงมาเล่นแทน จอห์นนี่ ไฮติงก้า ที่บาดเจ็บ และก็เติม ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท มาช่วยทำเกมบุกแทน เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ที่ค่อนข้างเงียบตลอดเกมที่ผ่านมา และอัศวิสสีส้มก็ได้ลุ้นก่อนจากการที่ ร็อบเบน เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนไหลให้ ฟาน นิสเตลรอย ยิงทันทีด้วยขวาแต่ ดิซิเย่ พุ่งไปล้มตัวรับเอาไว้ได้
ด้าน ไอวอรี่โคสต์ ซึ่งต้องการประตูตีเสมอเพื่อความอยู่รอดต่อไปเริ่มเปิดเกมบุกบ้าง เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ เติมขึ้นมาทางขวาและก็ได้หลุดเข้าไปยิงแต่ ยอริส มาไธจ์เซ่น เข้ามาบล็อกได้ทัน แต่โอกาสยังเป็นของทีมจากแอฟริกา อารูน่า โคเน่ ทำชิ่งกับ ดร็อกบา ก่อนได้ยิงบริเวณหัวกะโหลกแต่ดันงัดบอลข้ามคานออกไป เวลางวดเข้าทุกขณะ อองรี มิเชล ขยับเปลี่ยนตัวบ้างด้วยการส่ง ซิลล์ส ยาปิ ยาโป และอารูน่า ดินดาน ลงมาเล่นแทน บาการี่ โคเน่ ผู้ทำประตูรวมถึง โรมาริด เอนดรี
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ฮอลแลนด์ ได้ส้มหล่นบ้างเมื่อ ดิซิเย่ เตะเปิดเกมไม่ดี ร็อบเบน เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนจ่ายให้ ฟาน นิสเตลรอย หมุนตัวยิงแต่ไปติดบล็อกแผงหลังไอวอรี่โคสต์ ที่วิ่งลงไปช่วยกันทัน ห้านาทีถัดมาทั้งสองฝ่ายทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ฮอลแลนด์ ถอด ฟาน นิสเตลรอย แล้วเติม แดนนี่ แลนซาร์ท ไปช่วยแดนกลาง ส่วนไอวอรี่โคสต์ส่งเอา ค็องกา อกาเล่ ไปเล่นแทน อารูน่า โคเน่
นาทีที่ 77 ไอวอรี่โคสต์ ได้ลุ้นเกือบได้ประตูตีเสมอจากที่ ดร็อกบา โหม่งลูกเตะมุมไปเสาสอง ฟาน เพอร์ซี่ย์ ที่คุมเส้นอยู่พักอกออกมาและก็เป็น ฟิลิป โคคู เคลียร์ทิ้งได้หวุดหวิด เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทีม “ช้างดำ” พยายามบุกอย่างหนัก ยาปิ ยาโป ได้ลองยิงกลางประตูแต่บอลก็พุ่งไปตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ อีกครั้ง ช่วงท้ายทีมจากแอฟริกาเนือยลงไปครบ 90 นาที ฮอลแลนด์ เบียดเอาชนะไปได้ 2-1 พร้อมกับเดินตาม อาร์เจนติน่า เข้าสู่รอบต่อไป ส่วน ไอวอรี่โคสต์ ควงคู่ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ร่วงตกรอบไปตามระเบียบเนื่องจากยังไม่มีคะแนนทั้งคู่
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , จอห์น ไฮติงก้า , อังเดร ออยเยอร์ , ยอริส มาไธจ์เซ่น , โจวานนี่ ฟาน บรองฮอร์ทส , เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ , มาร์ค ฟาน บอมเมล , ฟิลิป โคคู , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย , อาร์เยน ร็อบเบน
ไอวอรี่โคสต์ : ฌอง-ฌักส์ ดิซิเย่ , เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , โคโล ตูเร่ , อับดูเลเย่ เมอิเต้ , อาตูร์ โบก้า , ยาย่า ตูเร่ , ดิดิเย่ร์ โซโกร่า , โรมาริด เอนดรี , บาการี่ โคเน่ , อารูน่า โคเน่ , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
**คลิก! เพื่อชมวิดีโอคลิป ผลการแข่งขัน คู่ อาร์เจนตินา-เซอร์เบียและมอนเตเนโกร,ไอวอรี่โคสต์-เนเธอแลนด์, เม็กซิโก-แองโกลา (56k) | (256K)
