ในช่วงเวลาที่คนทั้งโลกกำลังให้ความสนใจกับมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมนี ในอีกฝากของทวีปแฟนกอล์ฟในสหรัฐฯ กำลังลุ้นว่าการแข่งขันรายการเมเจอร์ที่สองของปีอย่าง ยูเอส โอเพ่น ซึ่งจัดขึ้นที่สนามวิงเกด ฟุต กอล์ฟ คลับ เมืองมามาร์โอเนค รัฐนิวยอร์ก ชิงเงินรางวัลรวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 320 ล้านบาท) โดยมีแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วคือ ไมเคิล แคมเบลล์ จะเป็นการฟาดฟันครั้งสำคัญระหว่างสองโปรกอล์ฟขวัญใจคนอเมริกันอย่าง ไทเกอร์ วู้ดส์ และ ฟิล มิคเคลสัน
ตามการจัดอันดับของพีจีเอทัวร์ ล่าสุดตำแหน่งโปรหมายเลขหนึ่งของโลกยังคงเป็น ไทเกอร์ วู้ดส์ ผู้มีสถิติแบ็คอัพสุดหรูด้วยการคว้าชัยในการแข่งขันระดับเมเจอร์มาแล้วถึง 10 ครั้งในขณะที่ฟิล มิคเคลสัน กำลังตามฝันคว้าแชมป์เมเจอร์ครั้งที่สามมากรอกไว้ในเกียรติประวัติ
โดยสนาม วิงเกด ฟุต กอล์ฟ คลับ ซึ่งจัดการแข่งขันยูเอส โอเพ่นครั้งที่ 106 ในครั้งนี้ถูกใช้เป็นสนามจัดการแข่งขันยูเอสโอเพ่น เป็นครั้งที่ 5 หลังจากที่เคยจัดครั้งแรกในปี 1929 และนับเป็นการจัดเมเจอร์ ครั้งแรกของสนามนี้นับตั้งแต่ปี 1997
สำหรับสนามแห่งนี้ “ฮาล เออร์วิน” แชมป์ยูเอส โอเพ่น ในปี 1974 เคยกล่าวถึงสนามแห่งนี้ไว้ว่า "เป็นสนามที่ยากที่สุดนับตั้งแต่ผมเคยเล่นมา" ซึ่งนั่นคือความคิดเห็นเมื่อ 32 ปีที่แล้ว แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสนามได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้ยากกว่าเก่าเพื่อให้สมกับที่เป็นสนามสำหรับใช้ในการแข่งขันรายการระดับเมเจอร์
โดยการแข่งขันครั้งที่ 106 สองนักกอล์ฟที่ได้รับการคาดหมายว่าจะต้องติดอยู่ในกลุ่มผู้นำที่สามารถเอาชนะอุปสรรคในสนามแห่งนี้ได้นั้นหนีไม่พ้น ไทเกอร์ วู้ดส์ โปรหมายเลขหนึ่งของโลก ซึ่งผลงานในฤดูกาลนี้ “พญาเสือ” ไม่ได้ลงสนามการแข่งขันรายการใดเลยนับตั้งแต่จบอันดับที่สามในการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์รายการเดอะ มาสเตอร์ส จึงนับเป็นเรื่องน่าสนใจเป็นอย่างมากว่า ไทเกอร์ จะยังคงฟอร์มเก่งไว้ได้หรือไม่หลังจากหยุดเล่นไปนานเพราะต้องการทำใจเรื่องการเสียชีวิตของบิดา “เอิร์ล วู้ดส์”
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ วู้ดส์ นั้นคว้าชัยมาแล้วสองครั้งในปี 2000 และ 2002 ในขณะที่ฤดูกาล 2005 ชัยชนะนั้นตกเป็นของ “ไมเคิล แคมเบลล์” ในขณะที่ วู้ดส์ อยู่ในตำแหน่งรองแชมป์ นอกจากนี้ วู้ดส์ ยังเคยคว้าอันดับที่สามในการแข่งขันเมื่อปี 1999 เมื่อถึงการแข่งขันในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่า วู้ดส์ จะสามารถคว้าชัยเมเจอร์รายการนี้เป็นครั้งที่สามได้หรือไม่
สำหรับฟิล มิคเคลสัน นั้นคว้าชัยในรายการระดับเมเจอร์ มาแล้วสองครั้งโดยเป็นการครองแชมป์รายการ เดอะมาสเตอร์ ทั้งสองสมัยโดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 49 ก่อนหน้านี้คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าใครจะได้ครองแชมป์ในรายการระดับเมเจอร์ แม้ว่าจะมีการวางให้ ไทเกอร์ วู้ดส์ เป็นตัวเต็ง แต่สำหรับการแข่งขันยูเอส โอเพ่นในครั้งนี้ ฟิล มิคเคลสัน ดูจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ “พญาเสือ” มากที่สุด
ส่วนหนึ่งที่ ฟิล มิคเคลสัน ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสองผู้มีโอกาสคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่นเท่ากับไทเกอร์ วู้ดส์ นั้นเนื่องมาจากผลงานของ “บิ๊กฟิล” นับตั้งแต่คว้าแชมป์เมเจอร์รายการเดอะ มาสเตอร์ส มาครองเป็นสมัยที่สองได้สำเร็จ ความมั่นใจของโปรชาวสหรัฐฯผู้นี้ก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผลงานในช่วงหลังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ จนทำให้ มิคเคลสัน ฝันไกลถึงการครองแชมป์เมเจอร์ทั้งสี่รายการให้ได้ในหนึ่งฤดูกาลเฉกเช่นผลงานของนักกอล์ฟระดับตำนานอย่าง “บ๊อบบี้ โจนส์”
ทางด้านไทเกอร์ วู้ดส์ที่กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังหยุดทำใจไปหนึ่งเดือนเต็มกับการเสียชีวิตของบิดา เอิร์ล วู้ดส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม สำหรับโปรหมายเลขหนึ่งของโลกแม้จะร้างสนามไปนานแต่คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อวงสวิงสักเท่าไรนัก แต่ที่จะมีผลกระทบน่าจะเป็นเรื่องของจิตใจ เพราะการแข่งขันยูเอส โอเพ่นจะทำการแข่งขันตรงกับวันพ่อในสหรัฐอเมริกา ซึ่งวู้ดส์ อาจจะแปลงความรู้สึกเศร้าเสียใจให้กลายเป็นพลังใจในการต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์นี้ให้บิดาที่เสียชีวิตไปก็เป็นได้
นอกเหนือจาก ไทเกอร์ วู้ดส์ และ ฟิล มิคเคลสัน ที่มีโอกาสลุ้นแชมป์เมเจอร์ รายการนี้อดีตกลุ่ม “บิ๊กไฟฟ์” อันประกอบด้วยนักกอล์ฟ 5 อันดับแรก อันได้แก่ วู้ดส์, มิคเคลสัน, วีเจย์ ซิงห์, รีทีฟ กูเซ่น และ เออร์นี่ย์ เอลส์ ดูจะมีโอกาสน้อยมากในการต่อกรกับ วู้ดส์ และ มิคเคลสัน เพราะผลงานในช่วงหลังของแต่ละคนดูจะไม่เป็นที่น่าประทับใจสักเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เออร์นี่ย์ เอลส์ ที่ร่วงไปอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก
ส่วน วีเจย์ ซิงห์ ที่เคยเป็นหมายเลขสอง ผลงานในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา โปรชาวฟิจิดูจะหลุดฟอร์มเก่งของตนเองไปไกลแถม ซิงห์ ยังไม่เคยคว้าแชมป์เมเจอร์รายการนี้เลยสักครั้ง หนทางสู่หลุม 18 ในวันสุดท้ายเพื่อคว้าชัยนั้นอาจเป็นงานยากลำบากสำหรับ ซิงห์ เป็นอย่างยิ่ง ทางด้าน กูเซ่น ที่เคยคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่นมาแล้วคนละสองสมัย แต่ฟอร์มในช่วงหลังดูจะไม่เข้ามาตรฐานเก่าสักเท่าไรนักแม้จะมีลุ้นอยู่บ้างแต่คงต้องวัดใจในการออกรอบวันแรกกันเลยทีเดียว
ตลอดทั้งสี่วันของการแข่งขันที่จะเริ่มต้นวันที่ 14 มิถุนายน 49 นั้นคงต้องรอดูกันว่าความหวังที่จะคว้าชัยเมเจอร์เพื่อเป็นของขวัญวันพ่อให้กับเอิร์ล วู้ดส์ ผู้ล่วงลับ กับเป้าหมายคว้าชัยเพื่อกรุยทางสู่แชมป์ “บิ๊กโฟร์” ของฟิล มิคเคลสัน ใครจะทำฝันของตนเองได้สำเร็จ แฟนกอล์ฟต้องติดตามชนิดไม่กระพริบตา