xs
xsm
sm
md
lg

ปอนด์ต่อปอนด์3โย่งคุณภาพ “โคลเลอร์-ซิกิช-เคร้าช์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คนตัวสูงโย่งนั้นเป็นมาตรฐานปกติของเผ่าพันธุ์คอเคซอยด์ ซึ่งเป็นเชื้อชาติต่างๆ ที่อยู่ในทวีปยุโรป ส่วนมากคนจะคิดว่า คนร่างสูงเกินปกติธรรมดาจากอัตราปกติของคนทั่วไป เมื่อมาเล่นกีฬามักจะไปเลือกประเภทวอลเลย์บอล กับบาสเกตบอล ซึ่งดูจะเหมาะสมกับสรีระเสียมากกว่า

สำหรับกีฬาฟุตบอล เมื่อมีนักเตะบุคลิกอย่างนี้เข้ามาในทีม ส่วนมากจะถูกจับไปเล่นเป็นนายประตูอย่างช่วยไม่ได้ เพราะได้เปรียบเรื่องส่วนสูงในการตัดและรับลูกกลางอากาศ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นนายทวารร่างสูงโย่งที่มีอยู่ค่อนข้างดาษดื่น ด้วยทัศนคติที่ติดแน่นอยู่ว่าคนตัวสูงใหญ่มักเชื่องช้า อืดเป็นเรือเกลือ ฟ่ามในเปราะบางไม่ค่อยแข็งแรง ทื่อในทักษะ เทคนิค และกลเม็ดการเล่นฟุตบอล จะดีก็แต่ศีรษะที่ใช้โหม่งบอล

แต่ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีคราวนี้ ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 32 ทีม มีศูนย์ตัวโย่งโกร่งอยู่ในทีมชาติจากทวีปยุโรปถึง 3 คนด้วยกัน นั่นก็คือปีเตอร์ เคร้าช์ แห่งทีมทรี ไลอ้อนส์ อังกฤษ, นิโกลา ซิกิช แห่งทีมเซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร และแยน โคลเลอร์ แห่งทีมสาธารณรัฐเช็ก

ซึ่งทั้ง 3 หน่อ ก็ได้ลงสนามโชว์ฟอร์มผ่านพ้นไปแล้วสำหรับนัดแรกในทีมชาติที่มีศูนย์หน้าประเภทที่ไม่ต้องโหนตัวโหม่งลูกให้ลำบาก สามารถสร้างความลำบากยุ่งยากใจ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนให้กับกองหลังฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะหาได้ยากมากสำหรับนักเตะร่างเสาโทรเลขแล้วมีคุณสมบัติครบเครื่อง นอกจากลูกโหม่งซึ่งเป็นอาวุธทีเด็ด

มาเทียบฟอร์มกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ เซนติเมตรต่อเซนติเมตรของศูนย์หน้าร่างโย่งทั้งสาม

คนที่โชว์ฟอร์มเข้าตากรรมการมากที่สุดก็คือ แยน โคลเลอร์ แห่งทีมสาธารณรัฐเช็ก ที่เข่นทีมคู่แข่งอย่าง สหรัฐอเมริกาลงด้วยสกอร์สุดสวย 3-0 ประตู และเขาเป็นคนโหม่งตุงตาข่ายอย่างสุดสวยในนาทีที่ 5 ตั้งแต่เริ่มต้นเกม และสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับกองหลังอย่างถอดใจ แต่น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากการแข่งขันไปก่อนจบเกม

แยน โคลเลอร์ เพิ่งเซ็นสัญญาย้ายไปสังกัดทีมโมนาโก ในลีกเอิง ของฝรั่งเศสในฤดูกาล 2006-2007 หลังเสร็จสิ้นศึกฟุตบอลโลก ด้วยความสูง 202 เซนติเมตร น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ทำให้เขาสร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลในสโมสรของทวีปยุโรปเป็นคนแรก สำหรับการเล่นฟุตบอลที่ไม่ใช่เก่งเฉพาะลูกโด่งโหม่งอย่างเดียวเป็นสรณะ แต่โชว์ทักษะการเล่นบอลบนพื้น เลี้ยงฟุตบอลได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่อายศูนย์หน้าที่รูปร่างปกติแต่เพียงอย่างใด

ด้วยวัย 33 ปี ในปัจจุบัน กับการพิสูจน์ตัวเองจากการเล่นในลีกบ้านเกิดกับทีมสปาร์ตา ปราก แล้วย้ายมาสร้างชื่อในลีกเบลเยี่ยม โลเคเรน และอันเดอร์เลชท์ และมาสู่ลีกใหญ่อย่างบุนเดสลีกา กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และสร้างชื่อในระดับสโมสรและทีมชาติอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่องก็ตาม

ด้วยประสิทธิภาพการลงเล่นในทีมชาตินับถึงนัดล่าสุดที่โหม่งประตูอเมริกา เขายิงไปแล้ง 43 ประตู จากการเล่นทีมชาติ 69 นัด การโชว์ฟอร์มของ แยน โคลเลอร์ ทำให้ทีมต่างๆ ในวงการฟุตบอลยุโรปหันมาเชื่อถือและควานหานักเตะสรีระแบบเขาให้มาร่วมทีม ซึ่งถ้าโผล่มมาสักคนก็จะแย่งชิงตัวกันทันที

นิโกลา ซิกิช แม้จะไม่ได้เห็นฟอร์มการเล่นของเขาผ่านตามากนัก แต่การคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากลีกเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร 2 ปี คือ ปี 2003 กับ 2005 น่าจะการันตีศูนย์หน้าจากทีมเรดสตาร์ เบลเกรดคนนี้

ด้วยความสูง 202 เซนติเมตร เท่ากับโคลเลอร์ น้ำหนัก 96 กิโลกกรัม เขาก็เป็นยักษ์ปักหลั่นพอๆ กับโคลเลอร์เลยทีเดียว จากการลงเล่นเป็นตัวสำรองในการเตะให้ทีมชาติเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ที่พ่ายให้กับฮอลลแลนด์ไป 0-1 ประตู ก็แสดงให้เห็นอาวุธที่ชำนิชำนาญก็คือลูกโหม่ง รวมถึงการเล่นบอลบนพื้นได้เนียนและชาญฉลาด แม้เพิ่งติดทีมชาติมาเพียง 13 ครั้ง ยิงไปเพียง 3 ประตู เขาก็น่าจะเป็นกำลังสำคัญในทีมชาติเซอร์เบีย หลังจากมอนเตเนโกรแยกออกไป

เสร็จสิ้นฟุตบอลโลก มีทีมอาร์เซนอล จากพรีเมียร์ลีก ติดต่อซื้อตัวอยู่อย่างไม่ยอมเลิก โดยก่อนหน้านี้ก็มีทีมอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล เคยเลียบๆ เคียงๆ มาคล้องมาลัย

คาดว่า เขาน่าจะมาโชว์เพลงเตะในอังกฤษแข่งกับปีเตอร์ เคร้าช์อย่างแน่นอน

สำหรับโย่งโกร่งคนสุดท้าย เป็น ‘โรโบเคร้าช์’ แห่งทีมชาติอังกฤษ หลังจากย้ายจากเซาธ์แธมป์ตันมาอยู่กับลิเวอร์พูล กราฟชีวิตในอาชีพนักเตะของเขาก็พุ่งกระฉูดขึ้นมาติดทีมชาติไปแล้ว 9 นัด ยิงไป 5 ประตู แม้จะมีหุ่นค่อนข้างผอมบางลู่ลม สูง 198 เซนติเมตร น้ำหนัก 69 กิโลกรัม แต่เขาสามารถสร้างแรงเสียดทานของเกมที่รวดเร็ว แข็งแกร่ง ใช้กำลังปะทะกันเต็มเหยียด 90 นาทีเต็มในพรีเมียร์ลีกได้เป็นอย่างดี

การโชว์ฟอร์มในเกมอุ่นเครื่องของทีมชาติอังกฤษ ด้วยการยิงทีมเบลารุส กับแฮตทริคสกอร์ในนัดเจอจาไมก้า ทำให้เขากลายเป็นที่คาดหวังของแฟนบอลสิงโตคำรามที่จะได้เห็นท่าเต้นโรโบเคร้าช์ในสนามแบบเยอะๆ แต่จากการลงสนามเป็นตัวจริง 90 นาทีในนัดแรกของฟุตบอลโลก 2006 ที่เจอกับปรากวัย เคร้าช์ก็สร้างผลงานได้ในระดับที่พื้นๆ ไม่เข้าตา รวมทั้งการโดนโทษฟาวล์ในหลายๆ ครั้งจากการกระโดดโหม่งที่ใช้มือขึ้นกดไหล่คู่ต่อสู้ ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก

เมื่อดูฟอร์มของศูนย์หน้าร่างโย่งทั้ง 3 คนจากนัดแรกแล้ว

แยน โคลเลอร์ ยังมีความเก๋า ความแน่นอนที่เชื่อใจได้ แม้จะอยู่ในวัยร่วงโรยแล้วก็ตาม ส่วนนิโกลา ซิกิช จัดได้ว่าเป็นนักเตะของอนาคต ด้วยวัย 26 ปี ยังมีเวลาให้ไล่ล่าความสำเร็จอยู่ ส่วนปีเตอร์ เคร้าช์นั้น อยู่ในทีมและลีกที่คนสนใจมากที่สุดในโลก จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษอย่างช่วยไม่ได้ รวมถึงการมีสัมผัสพิเศษกับแฟชั่นที่เร้าความสนใจของแฟนบอลอีกส่วนหนึ่ง เขาน่าจะยืนระยะได้อีกนาน
กำลังโหลดความคิดเห็น