xs
xsm
sm
md
lg

เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ฟุตบอลโลกที่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เห็นฟอร์มการเล่นของทีมชาติเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกรแล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ว่า ทีมนี้ไม่ใช่ทีมที่ทุกทีมในกลุ่มสามารถมองข้ามและประมาทได้ เพราะพวกเขาสามารถสร้างความปั่นป่วนและปัญหากับทีมขุนพลอัศวินสีส้ม ฮอลแลนด์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แม้จะพ่ายแพ้ไปตามคาดด้วยผล 0-1 ประตู แต่เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ก็แสดงศักยภาพของทีมฟุตบอลที่มีรากฐานที่ดีมาตั้งแต่ในอดีตได้อย่างสมศักดิ์ศรี

หากจะมองว่า กลุ่มซี ซึ่งประกอบด้วย อาร์เจนตินา, ฮอลลแลนด์, ไอวอรี่โคสต์ และเซอร์เบีย-มอนเตเนโกร เป็นกรุ๊ป ออฟเดธ หรือกลุ่มแห่งความตายแล้วนั้น ก็คงไม่เกินความจริงสักเท่าไหร่ เพราะดูจากการลงสนามนัดแรกของทั้ง 4 ทีม แม้จะมีผลแพ้-ชนะออกมา แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ดูสนุกกับรูปเกม ตื่นเต้นเร้าใจ มีลุ้น และพลิกผันกันได้ตลอด 90 นาที

ทั้งที่สถานการณ์ในทีมของเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร มีความอึมครึมมาตลอด โดยเฉพาะการใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเลือกนักเตะเข้าสู่ทีมชาติ โดยเฉพาะกรณีของ อิลิยา เพ็ตโควิช เรียกตัวลูกชาย ดูซาน เพ็ตโควิช ซึ่งเล่นกองหลังมาติดทีมชาติ เสียบแทน เมียร์โก้ วูซินิช หัวหอกดาวรุ่งที่ได้รับบาดเจ็บและต้องถอนตัวไป ซึ่งทำให้สื่อในประเทศวิจารณ์เป็นอย่างหนัก และสุดท้ายหน้าและใจไม่ด้านพอ จำต้องถอนตัวออกไป

ว่ากันตามจริงแล้ว ตัวผู้เล่นของทีมชาติเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกรนั้น หลังจากการถอนตัวของเมียร์โก้ วิซินิช ศูนย์หน้าจากทีมเลชเช่ ในกัลโช่ เซเรอาของอิตาลี แล้วนั้น ก็กลายเป็นทีมชาติเซอร์เบียไปโดยปริยาย เพราะวูซินิช เป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่มาจากมอนเตเนโกรในทีมชุดนี้

การแยกตัวเป็นเอกราชของมอนเตเนโกรเป็นประเทศใหม่รายล่าสุดของโลก หลังจากจัดให้มีการลงประชามติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2549 และประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนมหกรรมฟุตบอลโลกจะเริ่มต้นเพียงแค่ 6 วัน

เมื่อพลิกดูปูมหลังประวัติศาสตร์ของประเทศที่แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวียเดิมนั้น ทำให้ทีมฟุตบอลชาติในยุโรปเพิ่มขึ้นมาถึง 6 ชาติ ก็คือโครเอเซีย, สโลวีเนีย, มาเซโดเนีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา รวมกับเซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ที่แยกเป็น 2 ชาติล่าสุด

แม้จะมีการตั้งสมาคมฟุตบอลมอนเตเนโกรขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) แต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันฟุตบอลโลกในคราวนี้จะดำเนินการอย่างเรียบร้อย

เดยัน ซาวิเซวิช อดีตนักเตะผู้โด่งดังในทศวรรษที่ 90 ของทีมชาติยูโกสลาเวีย ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลมอนเตเนโกร และเป็นหนึ่งในนักเตะชุดที่ประสบชะตากรรมถูกแบนจากการแข่งขันฟุตบอลยูโร 1992 ที่สวีเดน ซึ่งทีมชาติยูโกสลาเวียผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปแล้ว แต่ถูกตัดสิทธิเนื่องด้วยปัญหาสงครามกลางเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้ทีมชาติเดนมาร์กได้เข้าแทนที่และสามารถสร้างเทพนิยายเดนิช คว้าแชมป์มาครองได้อย่างพลิกความคาดหมาย

ซาวิเซวิช ได้กล่าวว่า “เมื่อเราแยกประเทศแล้ว ก็หวังที่จะสร้างทีมของตัวเองเพื่อผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ และต่อไปนี้เราจะอาศัยช่วงของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ในรอบคัดเลือกเล่นกระชับมิตรเพื่อเป็นการประเมินผลในการสร้างทีมสู้ในฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก คิดว่าเราจะสามารถพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปได้”

หากวัดดูศักยภาพของทีมชาติที่เป็นประเทศซึ่งแยกตัวมาจากยูโกสลาเวียเดิมนั้น โครเอเชีย สามารถผลักดันตัวเองขึ้นมาเป็นทีมชาติที่อยู่ในระดับแถวหน้าของยุโรป และเป็นทีมเกรดชั้นดีของโลก ส่วนสโลวีเนีย กับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ก็ขยับขึ้นมาเป็นทีมเกรดบีของยุโรป หลังจากผ่านเข้ารอบสุดท้ายในศึกยูโรในครั้งที่ผ่านมา เหลือแค่มาซิโดเนียกับเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร ที่ยังจัดอยู่ในทีมไม้ประดับ แต่ฟุตบอลโลกหนนี้เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ก็ทะลุขึ้นมาเป็นทีมเกรดดีของยุโรปได้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อมองดูอนาคตของทีมชาติเซอร์เบีย หลังฟุตบอลโลกหนนี้ก็คงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เป็นแกนหลักของนักเตะแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย เหลือแค่ทีมน้องใหม่สุดจริงๆ อย่าง มอนเตเนโกร ที่ต้องต่อสู้ฝ่าฟันยกระดับจากทีมไม้ประดับของยุโรปให้ทะลุขึ้นมาให้ได้

จาก 6 ชาติของทีมยูโกสลาเวียเดิม เราก็สามารถเห็นได้ถึงรากฐานและเชิงชั้นฟุตบอลที่ดีของเสน่ห์นักเตะจากยุโรปตะวันออกอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย เป็นการผนวกเอาระหว่างพรสวรรค์ ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ กับความเข้มแข็งมีวินัยในแบบประเทศคอมมิวนิสต์เก่า

จากการประเมินดูศักยภาพของทีมชาติมอนเตเนโกรในอนาคต ก็คงอยู่ในการสร้างตัวขึ้นมาในระดับที่เรียกว่า นับหนึ่งใหม่ และแน่นอนพวกเขาน่าจะถูกจัดให้อยู่ในระดับเดียวกับทีมชาติเล็กๆ ประเภทไม้ประดับของยุโรป ไม่ว่า มาซิโดเนีย, ลิเกนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, หมู่เกาะฟาโร, จอร์เจีย ฯลฯ

ในฟุตบอลยุโรปและฟุตบอลโลกครั้งต่อๆ ไป ก็ยังมีชื่อของทีมชาติเซอร์เบีย และทีมชาติมอนเตเนโกร จากหนึ่งก็แยกเป็นสองร่วมสังฆกรรมในสังเวียนแข้งกันอยู่

แม้สงครามเย็นจะสงบลงไปแล้ว สงครามกลางเมืองก็เลือนหาย แต่สงครามแข้งของประเทศใหม่ในยุโรปตะวันออกอย่าง มอนเตเนโกร เพิ่งเริ่มต้น แม้ไม่ทันลงแช่งในรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2008 แต่ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2010 ได้เห็นฝีเท้าของพวกเขาแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น